10 ยี่ห้อ กราโนล่าที่ดีในปี 2024

10 ยี่ห้อ กราโนล่าที่ดีในปี 2024

เคยลองสังเกตกันไหมคะว่าในยุคสมัยนี้คนรอบๆตัวเราเริ่มหันมาสนใจดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น รักตัวเองมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นญาติสนิท มิตรสหาย หรือแม้แต่คุณเองที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงเริ่มมีความสนใจเรื่องสุขภาพตัวเองอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะคะ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงหลายคนเริ่มที่การออกกำลังกายเพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ดี ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้มีรูปร่างทรวดทรงที่ดูดี สมส่วน สวยหล่ออย่างที่คุณต้องการ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราดูแลสุขภาพของเราได้ทั้งภายในและภายนอก โดยนอกจากจะออกกำลังกายให้หุ่นสวยได้ทรวดทรงแล้วนั้นเราจะต้องไม่ละเลยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นมื้อหลักหรือมื้อว่างก็ตาม หากเราใส่ใจในเรื่องนี้ด้วยสุขภาพดีที่สมบูรณ์แบบไม่หายไปไหนอย่างแน่นอนค่ะ

 มาถึงตอนนี้หากใครกำลังมองหาสิ่งดีๆให้แก่ร่างกายวันนี้เรามีตัวเลือกดีๆมาแนะนำค่ะหลายคนอาจเคยได้ยินชื่อผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาบ้าง ขอบอกก่อนว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ใช่ยา ไม่มีสารเคมีใดๆทั้งสิ้น จะมีเพียงวิตามินจากธรรมชาติล้วนๆคือ “กราโนล่า” นั้นเองค่ะ กราโนล่าคือผลิตภัณฑ์แทนมื้ออาหารอย่างหนึ่งทำจากธัญพืชมีลักษณะคล้ายซีเรียลหรืออาหารเช้าง่ายๆที่ชาวตะวันตกมักทานคู่กับนม ในกราโนล่าจะประกอบไปด้วย ข้าวโอ๊ต ถั่ว น้ำผึ้ง และอาจมีผลไม้อบแห้งผสมร่วมบ้าง ส่วนประกอบใน กราโนล่ามีประโยชน์มากมายเริ่มที่ส่วนประกอบหลักอย่างข้าวโอ๊ต โดยมีนักวิจัยหลายคนได้ค้นพบคุณค่าต่างๆในข้าวโอ๊ต นักวิจัยชาวอิตาลีได้พบว่าเบต้า-กลูแคนที่มีอยู่ในข้าวโอ๊ต สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่วนนายแพทย์เจมส์ แอนเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านไฟเบอร์หรือกากใยอาหารได้ให้คำแนะนำว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์อย่างข้าวโอ๊ตจะช่วยลดคลอเลสเตอรอลหรือระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่นั้นนะคะตามที่เราทราบกันดีว่าไฟเบอร์จะช่วยในเรื่องของการขับถ่าย

นอกจากนี้ข้าวโอ๊ตมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอยู่มากนั้นหมายความว่ากระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลในร่างกายจะช้ากว่าปกติจึงทำให้ร่างกายใช้พลังงานได้อย่างต่อเนื่องทำให้ไม่หิวบ่อย แล้วนี้จึงทำให้กราโนล่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขวัญใจของกลุ่มคนลดน้ำหนักที่เลือกกินแทนมื้อเช้าเพราะจะทำให้อิ่มนาน ไม่โหยระหว่างวันด้วยค่ะ เห็นไหมคะว่าเพียงแค่ส่วนผสมหลักอย่างข้าวโอ๊ตก็มีคุณประโยชน์มากมายขนาดไหนแล้ว มาดูกันต่อดีกว่าค่ะว่าธัญพืชอื่นๆในกราโนล่ามีประโยชน์อะไรบ้าง

ธัญพืชต่างๆที่มักผสมเข้ากับข้าวโอ๊ตก็จะเป็นจำพวกถั่ว ซึ่งมีโปรตีนสูง จึงช่วยทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์นำมาเป็นส่วนผสมในกราโนล่าก็เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ในถั่วมีสารต่อต้านอะนุมูลอิสระอันทรงพลังไม่แพ้กับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เลยค่ะ โดยสารต้านอะนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยยับยั้งเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดส และน้ำย่อยในตับอ่อนที่ทำหน้าที่ย่อยไขมันให้กลายเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์ อันเป็นสาเหตุของความอ้วนและโรคเบาหวาน สารต้านอะนุมูลอิสระไม่เพียงแต่จะช่วยในเรื่องของลดริ้วรอย ชะลอความแก่เท่านั้นนะคะแต่ยังช่วยลดสารก่อมะเร็งในร่างกายอีกด้วยค่ะ The Jourual of cancer Research พบว่าสารที่อยู่ถั่วอย่างสารซาโปนิน (Saponins)จะไปขัดขวางการเกิดเซลล์มะเร็งและชะลอการเติบโตของเนื้องอกได้

นอกจากนี้เราสามารถจะใส่ผลไม้อบแห้งที่เราชื่นชอบเพิ่มไปกับกราโนล่าของเราได้อีกด้วยเพื่อให้เกิดรสชาติที่เราพอใจน่ารับประทานจะทานคู่กับนมจืด นมอัลมอนต์ หรือโยเกิร์ตก็เข้ากั๊นเข้ากัน ชอบอย่างไหนเลือกอย่างนั้นให้เราทานได้แบบอิ่มท้องอร่อยด้วยในมื้อง่ายๆรวดเร็วทันใจฉบับสาวยุค4.0ที่เป็นWorking womanกันก็เยอะหรือแบบฉบับเฮลตี้เกลก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน

หลายคนคงกำลังสงสัยว่าแล้วจะมีวิธีเลือกซื้อกราโนล่าอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการเรา เพราะกราโนล่าเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารครบถ้วนเทียบได้อาหาร1มื้อที่เราควรได้รับในแต่ละวันเลยก็ได้จึงทำให้มีวิธีการรับประทานที่หลากหลายทั้งกับผู้ที่สนใจลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก รวมทั้งผู้ที่กินเพื่อรักษาโรคประจำก็มีเพราะฉะนั้นเราจึงมีวิธีเลือกซื้อและรับประทานกราโนล่าในปริมาณ   ที่ตรงตามสัดส่วนที่ร่างกายควรได้รับต่อวันดังนี้

1. ปริมาณแคลอรี่ แคลอรี่คือหน่วยวัดพลังงานในอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวันนั้นเองมักเรียกว่า “กิโลแคอรี่” (kilocalories)หรือที่เราเห็นเขียนอยู่บนฉลากสินค้า ส่วนใหญ่ร่างกายต้องการแคลอรี่เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆระหว่างวัน โดยผู้ชายควรได้รับพลังงานจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในแต่วันละ 2,500 กิโลแคลอรี่ ส่วนผู้หญิงควรได้รับพลังงานต่อวันไม่เกิน 2,000 กิโลแคลอรี่ อย่างไรก็ตามปริมาณพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวันจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยอื่น เช่น เพศ อายุ น้ำหนัก และส่วนสูงของร่างกายหรือกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน ดังนั้นหากร่างกายได้รับจำนวนแคลอรี่ที่มากกว่าการเผาผลาญออกไป ร่างกายจะแปรรูปพลังงานเหล่านั้นเป็นไขมันส่วนเกินที่สะสมตามร่างกายส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นซึ่งคนที่จะกินกราโนล่าเพื่อลดน้ำหนักควรระวังเรื่องนี้ด้วยนะคะ สำหรับการบริโภคกราโนล่าที่ดีปริมาณแคลอรี่ ควรอยู่ที่ 220-230 kcal.ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
2. ปริมาณโปรตีน โปรตีนคือสารอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายมีส่วนช่วยในเรื่องซ่อมแซมส่วนที่สึกหล่อ ในแต่ละวันร่างกายจะแปรรูปสารอาหาร ที่เราเรียกว่าโปรตีนนี้เป็นพลังงานเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วโปรตีนที่เราจะได้รับในกราโนล่าเป็นโปรตีนจากธัญพืชจำพวกถั่วต่างๆ เช่น อัลมอนต์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์แมกคาเดเมีย โดยถั่วแต่ละชนิดนั้นนะคะมีสารแอนติอ็อกซิแดนท์ที่ช่วยต้านโรคมะเร็ง และบางชนิดยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ด้วยค่ะ แต่ปริมาณโปรตีนที่พอเหมาะสำหรับการรับประทานกราโนล่าที่ดีใน1มื้อนั้นเท่ากับ 10-15 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
3. ปริมาณใยอาหาร ใยอาหารอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายแต่จัดเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่ควรขาด ซึ่งก็มีความสำคัญไม่ด้อยไปกว่าสารอาหารประเภทอื่นๆเลยเพราะใยอาหารจะช่วยให้ร่างกาย ย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบลำไส้ลดการเสี่ยง    ให้เกิดมะเร็งลำไส้ หากผู้ที่รับประมานกราโนล่าอยากลดน้ำหนักใยอาหารบางชนิดมีความหนืด  ทำให้สามารถอยู่ในกระเพาะได้นานช่วยให้ร่างกายอิ่มนานขึ้นค่ะ ส่วนปริมาณใยอาหารที่พอเหมาะในการรับประทานกราโนล่าหนึ่งมื้อนั้นอยู่ที่ 3-5 กรัม/หนึ่งหน่วยบริโภค
4. ปริมาณไขมัน ในกราโนล่าจะมีไขมันดี ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ มีโอเมก้า3จาก พวกเมล็ดธัญพืชด้วย ในกลวิธีการทำกราโนล่านั้นส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันปาล์มและน้ำมันไฮโรเจนแต่ทางที่ดีควรเลือกใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จะดีต่อสุขภาพมากกว่าสำหรับปริมาณไขมันที่เหมาะสมกับการรับประมาณกราโนล่าที่ดีนั้นควรมีปริมาณไม่เกิน 5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

กราโนล่าบางแบรนด์มีพวกผลไม้อบแห้งผสมมาด้วยก็จะได้วิตามินและเกลือแร่เพิ่มให้แก่ร่างกายด้วยค่ะเรียกได้ว่ามื้อเดียวจบครบ5หมู่ตรงตามหลักโภชนาการ ส่วน4ข้อที่กล่าวมาข้างต้นเราจัดเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อกราโนล่าที่เหมาะสำหรับทุกคนเพื่อรับประทานในปริมาณที่ดีไม่มากหรือน้อยจนเกิน     ความจำเป็นที่ร่างกายเราควรจะได้รับ ณ จุดนี้เราขอแนะนำ 10 ยี่ห้อกราโนล่าที่คัดสรรมาแล้วว่าดีจริง ในปี 2024 จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

Stun รส Banana chocolate Noir

สำหรับยี่ห้อStunเราขอแนะนำรสนี้เลยค่ะ Banana Chocolate Noir เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบช็อกโกแลตอยู่แล้วหรือผู้ที่ไม่ชอบทานหวานแต่ชอบรสขมของดาร์กช็อคโกแลตเพราะ    กราโนล่าตัวนี้เป็นการผสมข้าวโอ๊ตกับดาร์กช็อคโกแลตระดับพรีเมี่ยมจะทำให้มีรสชาติกลมกล่อมของช็อคโกแลตในทุกคำที่รับประทานเข้าไปเลยก็ว่าได้ ใครที่อารมณ์แปรปรวนบ่อย เลือดจะไปลมจะมา เอากราโนล่าตัวนี้ไว้เป็นตัวเลือกที่ดีได้นะคะ นอกจากนี้รส Banana Chocolate Noir แน่นอนว่าจะต้องมีกล้วยเป็นส่วนผสมก็จะทำให้มีกลิ่นหอมของกล้วยอบแห้งนั้นเองไม่เพียงแค่นั้นเขายังใส่อัลมอนต์มาเป็นโปรตีนกรุบกรอบให้เคี้ยวกันเพลินๆอีกด้วย

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Diamond grains

Diamond grains เป็นกราโนล่าตัวแรกที่เราทานและรู้จักเพราะหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ข้อมูลข้างต้นในรูปนั้นเป็นรส Mic Chocolate เต็มเปี่ยมด้วยรสชาติของช็อคโกแลต แต่สูตรนี้หวานน้อย ใยอาหารสูง ข้าวโอ๊ตยี่ห้อนี้ละเอียดเคี้ยวง่าย เรื่องรสชาตินั้นก็มีให้เลือกหลากหลายมีทั้งแบบถ้วยเทนมใส่ก็ทานได้เลยสะดวกพกพาง่ายหรือแบบกล่องซื้อทีเดียวทานได้นานอิ่มแบบคุ้มค่ากันไปก็แล้วแต่ใครสะดวก ตอนนี้มีสูตรออกมาใหม่Granola two ways น่าลองมากเลยค่ะมีส่วนผสมของเมล็ดเจียด้วยเพิ่มใยอาหารขึ้นมาอีกหน่อย

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Dialy me

จุดเด่นของแบรนด์นี้ใช้ถั่วและผลไม้อบแห้งที่หลากหลายรวมถึงใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ปราศจากสารกันบูด         แล้วผลไม้อบแห้งที่มีอยู่มากนี้ทำให้น่ารับประทานมากขึ้น อัดแน่นด้วยวิตามิน แร่ธาตุ  ดีต่อระบบย่อยอาหาร เพราะมีไฟเบอร์สูง โปรตีนจากถั่วช่วยลดคลอเลสเตอรอลและไขมันในหลอดเลือดใครชอบเคี้ยวถั่วเพลินลองได้นะคะมีหลายรสให้เลือกอีกด้วย

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Nestle

Nestle เราอยากนำเสนอตัวใหม่มากรสไมโล ด้วยรสชาติไมโลที่รับประกันความอร่อยอยู่แล้วเป็นปัจจัยหลักให้เรากล้าซื้อมาลอง นอกจากจะอร่อยแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ข้าวโอ๊ตเนื้อแน่นเต็มคำ รสชาติช็อคโกแลตและมอลล์ให้ความหวานที่พอดี บวกกับความกรุบกรอบของเมล็ดถั่วเล็กน้อย บอกเลยว่าใครสาวกไมโลห้ามพลาดเด็ดขาด

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Kellogg’s

มี 3ตัวที่อยากแนะนำ ตัวฟรุต ดีไลท์ห่อสีม่วงตัวนี้จะเน้นผลไม้อบแห้งเยอะหวานน้อย เหมาะกับคนที่ชอบแนวผลไม้ หวานอมเปรี้ยว ห่อสีส้มจะเป็นรสอัลมอนต์และถั่วอื่นๆ มีความหวานของช็อคโกแลต ร่วมด้วยเหมาะกับคนที่ชื่นชอบถั่วและกลิ่นอ่อนๆของช็อคโกแลต ห่อสีน้ำตาลรสชาติคล้ายห่อส้มเป็นตัวนี้เน้นช็อคโกแลตกับมอลล์ ใครชื่นชอบมอลล์ต้องลองตัวนี้เลยค่ะ

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Famillia

สำหรับตัวนี้ราคาถูกในปริมาณที่คุ้มค่า มีสองรสราสเบอรี่&   สตรอเบอรี่และรสลูกเกด&นัท  รสชาติที่น่าคุ้นเคยของใครหลายๆคน จึงทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ ใครทานยากลองตัวนี้ก่อนก็ได้นะ

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Granovibes

กราโนไวร์บมี 4 รสชาติ Original/Matcha/Dark Chocolate&Banana/ Almond&grains ยี่ห้อนี้ลดปริมาณน้ำตาลจากสูตรกราโนล่าทั่วไปถึง 80% รสชาติจึงไม่หวานมากแต่ได้สุขภาพก็ดีนะทุกคน ส่วนตัวชอบรสมัจฉะมีกลิ่นมัจฉะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปลองกันดูนะคะ

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Nissin Granola

แบรนด์นี้ไม่เพียงแต่มาม่าที่อร่อย ล่าสุดทำกราโนล่าออกมาก็ได้อยู่นะทุกคน ในกราโนล่าตัวนี้มีส่วนผสมหลากหลายมีมะละกอแห้ง มะพร้าวขูด ลูกเกด อัลมอนต์ เมล็ดฟักทอง สตรอเบอรี่แห้ง แอปเปิ้ลแห้งเรียกว่าอร่อยครบรสวิตามินครบแมกซ์

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

Budder Granola

กราโนล่าตัวนี้จัดจำหน่ายเป็นถ้วยน้อย ปริมาณพอดี16กรัม โรยทานกับอาหารเสริมตัวอื่นก็ได้พลังงานที่ไม่มากจนเกินไป มี3รสชาติที่ขายดี Coconut/Dark Chocolate/Strawberry เรามองว่าด้วยขนาดถ้วยที่เล็กทำให้ง่ายในการพกพา ราคาพอดีหาซื้อได้ง่าย 7-11 และห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee

Crunchy Monkey

ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่น่ารักตัวนี้ กราโนล่าก็น่ารักในความอร่อยไม่แพ้กันมี2รสชาติที่ขายดี ได้แก่ Cranberry และ Blueberry โปรตีนสูง ใยอาหารแน่น ใครที่ชื่นชอบผลไม้ตระกูลเบอรี่ รสชาติของแบรนด์นี้ตอบโจทย์เลยลองดูนะคะ

ซื้อสินค้าได้ที่  Shopee และ Lazada

อย่างไรก็ตามอะไรที่มีประโยชน์ก็ย่อมมีโทษเช่นกันนะคะดังนั้นเราจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ กราโนล่าเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่เปรียบเหมือนพลังงานทดแทน ทำจากธัญพืชอบแห้งช่วยให้อิ่มท้องและมีประโยชน์ในเวลาเร่งรีบแต่คุณผู้อ่านก็ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างหลากหลาย    เพื่อร่างกายจะได้สารอาหารอื่นๆมาเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอนะคะ