100 อันดับสถานที่ยอดนิยมที่สุดในอเมริกา

100 อันดับสถานที่ยอดนิยมที่สุดในอเมริกา

สหรัฐอเมริกาประเทศใหญ่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ที่นี่เต็มไปด้วยเสรีภาพ  ความทันสมัย  ละสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายทำให้ใครๆ ต่างก็อยากเดินทางไปท่องเที่ยวอเมริกา หากใครยังนึกไม่ออกว่าอเมริกามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้างเราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมาให้คุณแล้ว ส่วนจะมีที่ไหนบ้างมาดูกัน

เทพีเสรีภาพ

เทพีเสรีภาพ

เทพีเสรีภาพ อนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่ และมีคุณค่าทางจิตใจของชาวอเมริกันทุกคน ซึ่งเป็นของขวัญที่ชาวฝรั่งเศสมอบให้แก่ชาวอเมริกัน ในวันที่อเมริกาเฉลิมฉลองวันชาติครบ 100 ปีนั่นเอง และในปี พ.ศ. 2527 องค์การยูเนสโก ประกาศให้อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นมรดกของโลกอีกด้วย ว่ากันว่าหากใครได้มายังประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วไม่ได้มาที่อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพแห่งนี้ก็เท่ากับไม่ได้มาอเมริกาเลยทีเดียว  อย่างน้อยมาเพื่อชื่นชมและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดี


อุทยานแห่งชาติโยเซมิ (CA)

อุทยานแห่งชาติโยเซมิ (CA)

อุทยานแห่งชาติโยเซมิ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาในเขตเซ็นทรัลแคลิฟอร์เนียที่ระดับความสูงมากกว่า 1,200 เมตร โดยเป็นพื้นที่ราบล้อมรอบด้วยภูเขาสูง อุทยานแห่งชาติโยเซมิก่อตั้งขึ้นในปี 2433 มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำตกที่สวยงามมากและป่าสนที่หนาแน่น อุทยานแห่งนี้มีความงดงามในทุกฤดูกาล คือฤดูหนาวทุกสิ่งถูกซ่อนอยู่ภายใต้หิมะปกคลุมหนา ฤดูใบไม้ผลิแสนโรแมนติกโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกอย่างกำลังบานและกลายเป็นสีเขียว ส่วนฤดูร้อนที่นี่จะเป็นสีเขียวและให้อากาศเย็นสบายดี  เมื่อมาที่นี่คุณจะชื่นชอบแน่นอน


แอนเทอโลป แคนยอน (Antelope Canyon)

แอนเทอโลป แคนยอน (Antelope Canyon)

หุบเขาแอนทีโลพ เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ที่เมืองเพจ รัฐแอริโซนา  ด้วยภูมิประเทศที่แปลกตา ซึ่งเกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ

ที่นี่อาจกลายเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุดได้ เนื่องจากบริเวณนั้นมักเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตรทีเดียว แต่ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลกอยู่ดี เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจมากทีเดียว


อุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์ 

อุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์ 

อุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์ (Everglades) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด และยังเป็นที่ลุ่มเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในตอนใต้ของรัฐฟลอริด้า พื้นที่ป่ากว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และหนองน้ำที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่า นานาชนิดโดยเฉพาะจระเข้ ซึ่งถึงจะดูว่ามีสัตว์น่ากลัวยังไงคนส่วนใหญ่ก็ยังชื่นชอบอยู่ดี


สะพานโกลเด้น เกต (Golden Gate Bridge)

สะพานโกลเด้น เกต (Golden Gate Bridge)

สะพานโกลเด้น เกต สิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม ของโลกยุคปัจจุบัน โดยเป็นสะพานแขวนขนาดใหญ่ และยาวมากที่สุดสะพานแรกของยุคนั้นคือ มีระยะทาง 2.7 กิโลเมตร สูง 223.5 เมตร ทอดข้ามอ่าวทางตอนเหนือ ของเมืองท่าซานฟรานซิสโกสู่เมืองมาริน  ที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยมากๆ ของอ่าวเบย์เอเรีย มหาสมุทรแปซิฟิก และมารินเฮดแลนด์ทางด้านเหนือของสะพาน ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมปั่นจักรยาน หรือเดินบนทางเท้าเลียบสะพานเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปสวยๆ และชมวิวได้อย่างไม่รู้เบื่อ


อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน

อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน

อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาร็อคกี้ในรัฐไวโอมิงซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาก่อตั้งขึ้นในปี 2415 และตั้งแต่ปี 2521 ก็ได้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกโดยตั้งอยู่ในเขตติดต่อ 3 รัฐได้แก่ ไวโอมิง มอนแทนา และไอดาโฮ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐไวโอมิง ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ภายในอุทยานประกอบไปด้วยที่ราบสูงและภูเขาสูงมีหน้าผาชัน และทะเลสาบ 

เยลโลว์สโตนเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีบ่อน้ำร้อน และน้ำพุร้อน มากกว่า 10,000 แห่ง น้ำพุร้อนที่สำคัญคือ น้ำพุร้อนโอลด์เฟทฟุลซึ่งมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาทุกๆ 33 และ 93 นาที โดยไม่เปลี่ยนแปลงเลยตลอดระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมา ยังมีน้ำตกอีกกว่า 300 แห่ง ที่สามารถค้นพบและท่องเที่ยวได้อีกมากมาย สัตว์ป่าที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ได้แก่ หมีกริซซ์ลี หมีดำ ควายป่าไบซัน กวางมูส กวางเอลก์ แพะภูเขาบิกฮอร์น แมวป่า และหมาป่า ทั้งหมดนี้จึงเหมือนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายๆคนต่างอยากมาที่นี่


อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park)

อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park)

เยลโลว์สโตน เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลก และใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเยลโลว์สโตน (Yellowstone Plateau) ถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาร็อคกี้ มีอาณาเขตติดต่อกัน 3 รัฐ คือ ไวโอมิง มอนแทนา และ ไอดาโฮ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือ สีสันของบ่อน้ำพุร้อน ที่บริเวณตรงกลางจะเป็นสีฟ้า ถัดออกมาก็จะเป็นสีแดง และสีส้มที่บริเวณขอบตามลำดับ ที่พลาดชมไม่ได้อีกแห่งก็คือ น้ำพุร้อนโอลด์ เฟธฟุล ซึ่งมีน้ำพุ่งสูงขึ้นจากพื้นดินหลายเมตรในทุกๆ 33 และ 93 นาที โดยไม่เปลี่ยนแปลงเลยในรอบ 100 ปี และยังมีน้ำตกกว่า 300 แห่ง นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่านานาพันธุ์ที่หาดูได้ยาก


ร็อคกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Rockefeller Center)

ร็อคกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Rockefeller Center)

แหล่งของธุรกิจและความบันเทิงแห่งนี้นับว่าเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของแมนฮัตตัน และได้รับการพิจารณาว่ามีความยิ่งใหญ่อลังการเมื่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายทศวรรษ 1930 ร็อคกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ จึงเป็นการผสมผสานระหว่างความเก่าและความใหม่ และเป็นศูนย์กลางของการจัดงานเฉลิมฉลองวันหยุดประจำปีของเมือง

ร็อคกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1930 ถึง 1939 ในรูปแบบที่มีการแผ่ขยายอย่างไม่เป็นระเบียบนัก ในช่วงเวลานั้น ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่ปฏิวัติวงการ อันสะท้อนถึงความเป็นนวัตกรรมและความก้าวหน้า ท่ามกลางยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ร็อคกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์เปรียบเสมือนเป็น “เมืองอยู่ภายในเมือง” อาคารได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเพรียวและทันสมัย อีกทั้งเป็นที่ตั้งของบริษัทหลายแห่งที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นแหล่งศูนย์รวมของแมนฮัตตัน โดยประกอบด้วยอาคารพาณิชย์และอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ 19 อาคาร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายช่วงตึก และสิ่งที่น่านับถือที่สุดคืออาคารของ General Electric ที่สูงถึง 266 เมตรเหนือเส้นขอบฟ้าของเมืองและมีถึง 70 ชั้น

วันนี้ตึกระฟ้าที่น่าประทับใจแห่งนี้เป็นจุดแวะพักสำหรับผู้มาเยือนนิวยอร์ก ไปแล้ว..


ไทม์สแควร์ (Times square)

ไทม์สแควร์ (Times square)

เมื่อพูดถึงเมืองแห่งความทันสมัยที่ต้องมาสัมผัสเมื่อมาเที่ยวอเมริกา ต้องนึกถึงย่านไทม์สแควร์ (Times square) ย่านนี้เป็นจุดตัดของถนนบรอดเวย์ กับถนนเซเวนท์ เอเวนิว โดยไทมสแควร์เองได้กลายเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งบนฝั่งตะวันตกของย่านธุรกิจการค้าในเขตมิดทาวน์ แมนฮัตตัน โดยชื่อไทม์สแควร์นี้เกิดจากการก่อสร้างตึกไทม์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ หลังจากนั้นได้มีมีการก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดินของนครนิวยอร์ก เป็นสถานที่ที่ดูทันสมัย ล้ำยุค เพราะมีจอโฆษณาขนาดใหญ่มากมายติดอยู่โดยรอบ และได้กลายเป็นสถานที่ที่สำคัญของโลก ที่เป็นสัญลักษณ์ของนครนิวยอร์กตั้งแต่นั้นมา


น้ำตกไนแองการา (Niagara Falls)

น้ำตกไนแองการา (Niagara Falls)

น้ำตกไนแองการา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงมากกว่า 50 เมตร และกว้างมากกว่า 300-800 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของสหรัฐอเมริกา ที่นิวยอร์ก และประเทศแคนาดา นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเข้าไปชมน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงหน้าหนาวจะมีอากาศที่หนาวเย็นมาก ทั้งนี้น้ำตกไนแองการา  เป็นน้ำตกที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมความมหัศจรรย์ของน้ำตกไนแองการานี้อย่างมากมาย


แกรนด์แคนยอน

แกรนด์แคนยอน

แกรนด์แคนยอน คือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสหรัฐอเมริกา และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังที่แห่งนี้ประมาณ 1,000,000 คนต่อปี แกรนด์แคนยอนเป็นทุ่งภูเขาที่แสนแห้งแล้งและกว้างใหญ่  เป็นสถานที่ที่น่ามองดูและน่าเกรงขาม  ไม่ว่าใครที่เคยไปเยี่ยมหุบเขาและห้วงเหวลึกที่มีเนื้อที่ทอดตัวยาว 450 กิโลเมตร ร่องผามหึมาที่ลึกถึง 1.6 กิโลเมตร และกว้างโดยเฉลี่ย 15 กิโลเมตร

แกรนแคนยอนเกิดจาการที่แม่น้ำโคโรลาโดไหลเซาะภูเขานับล้านๆปี  การกร่อนตัวของหินที่ เพิ่มขึ้นในทุกปี  ก่อให้เกิดโตรกเขาอันยาวเหยียดซึ่งมี รูปร่างแปลกตาไม่เหมือนที่ใดในโลก   แกรนแคนยอนแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ขอบผาด้านใต้ และขอบผาด้านเหนือ บริเวณขอบผาด้านใต้มีความสูงกว่าระดับน้าทะเลถึง 7000 ฟุตและ เปิดให้นักท่องเที่ยวชมได้ตลอดปี ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวพายเรือล่องแก่งและเป็นการล่องแก่งที่ถือว่ายากเย็นที่สุดในโลกเพราะลำน้ามีการเปลี่ยนระดับอย่างมากมาย บางช่วงต่างกันถึง 2 เมตร  บางช่วงเป็นแอ่งน้ำวน บางช่วงก็เป็นน้าตก รวมถึงสายน้าที่เชี่ยวกรากนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของนักล่องแก่งทั่วโลก


ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ

สวนสนุก Universal  Studios  เป็นสวนสนุกแนว Theme park  โดยที่เครื่องเล่นแต่ละเครื่องเล่นจะมีรุปแบบที่นำมาจากภาพยนต์ดังๆมากมาย  ทำให้ที่นี้เป็นสวนสนุกที่เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ชอบความตื่นเต้น หวาดเสียว จากภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์เรื่องโปรดและเป็นผลงานของยูนิเวอร์แซล ร่วมสู้เคียงข้างกับ Optimus Prime ไปบนเครื่องเล่นสุดหฤหรรษ์ Transformers™: The Ride 3D ท้าทายแรงดึงดูดของโลกและเขย่ากระดูกกันได้ที่รถไฟเหาะ Revenge of the Mummy หรือตื่นตากับสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ของ Shrek 4-D และสยองขวัญกับ Jurassic Park – The Ride ฮอลลีวู้ดนั้นขึ้นชื่อว่าทำอะไรเล็กๆ ไม่เป็น เครื่องเล่นต่างๆ จึงเต็มไปด้วยไพโรเทคนิค เทคโนโลยีล้ำสมัย งบประมาณล้นเหลือและจินตนาการอีกมหาศาล


มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเอกชนในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลก แห่งหนึ่งและเป็นหนึ่งมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา และดีที่สุดเช่นกัน โดยก่อตั้งเมื่อปี 8 กันยายน พ.ศ. 2179 นอกจากมีชื่อเสียงในด้านวิชาการแล้วที่นี่ยังมีความสวยงามน่าไปเยี่ยมเยือนไม่น้อย


เขื่อนฮูเวอร์ หรือ โบลเดอร์ แดม (Boulder Dam)

เขื่อนฮูเวอร์ หรือ โบลเดอร์ แดม (Boulder Dam)

เขื่อนฮูเวอร์ เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และกลายมาเป็นอันดับสองหลังจากเขื่อนแกรนคูลีสร้างเสร็จ สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำโคโลราโด เพื่อป้องกันอุทกภัยในฤดูหนาว และเพื่อการชลประทาน ผลิตพลังงานกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ บริเวณเหนือเขื่อนกลายเป็นทะเลสาบ (Lake Mead) ที่มีความสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือล่องทะเลสาบและถ่ายรูปได้


ทะเลสาบมิชิแกน (Lake Michigan)

ทะเลสาบมิชิแกน (Lake Michigan)

ทะเลสาบมิชิแกน หรือเลคมิชิแกน (Lake Michigan) เป็นทะเลสาบหนึ่งในหมู่ทะเลสาบทั้ง 5 ในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นทะเลสาบแห่งเดียวที่อยู่ในเขตแดนของประเทศสหรัฐอเมริกา ทะเลสาบนี้กว้างใหญ่มาก โดยมีรัฐที่อยู่โดยรอบเรียงจากซ้ายไปขวาคือ รัฐวิสคอนซิน รัฐอิลลินอยส์ รัฐอินเดียนา และรัฐมิชิแกน ดังนั้นใครที่อยู่แถวชิคาโก มิลวอกี หรือบริเวณโดยรอบ ก็สามารถแวะมาเที่ยวที่นี้ได้

ทะเลสาบมิชิแกนเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนที่เห็นที่นี่เป็นครั้งแรกนั้นยากที่จะเชื่อว่านี่คือทะเลสาบอยู่ข้างหน้า ด้วยรู้สึกว่าพวกเขากำลังยืนอยู่บนชายฝั่งของทะเลหรือมหาสมุทรฝั่งตรงข้ามมองไม่เห็นและมีสภาพลมแรงมีคลื่นค่อนข้างใหญ่ที่ผิดปกติสำหรับทะเลสาบ ในบางแห่งมีชายหาดที่คุณสามารถลงไปเดินเล่นได้ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมาก


ไปทานพิซซ่าที่ Loumalnati’s/Giordano’s

ไปทานพิซซ่าที่ Loumalnati’sGiordano’s

ร้านอาหารที่ถือว่าต้องมาทานเมื่อมาเที่ยวที่ชิคาโก อเมริกา ก็คือ ร้านพิซซ่า Deep Dish ซึ่งร้านที่ขึ้นชื่อนั้นมีอยู่ 2 ร้านด้วยกัน ได้แก่ ร้าน Loumalnati’s และ ร้าน Giordano’s

จริงอยู่พิซซ่าจะกินร้านไหนก็เหมือน ๆ กัน แต่ถ้ามาชิคาโกเค้ามีสูตรเด็ดของเค้านั่นก็คือ Deep Dish นั่นเอง ถ้าไทย ๆ อย่างเราอาจจะเรียกว่า พิซซ่าจานลึก ซึ่งวัตถุดิบหลักจะเป็นชีสมอสซาเรลล่าชีสหวานไส้กรอกอิตาเลียนหนาและมะเขือเทศผสมกันออกอย่างลงตัว มาชิคาโกก็ต้องมาลอง Deep Dish ใครไม่ลองถือว่ามาไม่ถึงนะบอกเลย


บ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พรีสเมติก (Grand Prismatic Spring)

บ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พรีสเมติก (Grand Prismatic Spring)

บ่อน้ำพุร้อนที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park) รัฐไวโอมิง (Wyoming) ถ้าคุณได้เข้าไปยืนใกล้ ๆ จะเห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการของบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ เพราะมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างมากถึง 370 เมตร ลึกประมาณ 121 เมตร ที่สำคัญบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ยังมีสีสันที่สวยงามบาดตา ซึ่งบริเวณขอบบ่อจะไล่จากสีน้ำตาลเข้มไปจนเป็นสีเหลืองอ่อน และน้ำก็จะไล่จากสีฟ้าอ่อนไปจนกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มที่กลางบ่อ ยิ่งถ้าได้มองทางอากาศจะยิ่งเห็นความสวยงามของบ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พรีสเมติก


พักที่โรงแรมเดลโคโรนาโด

พักที่โรงแรมเดลโคโรนาโด

โรงแรม Coronado เป็นโรงแรมที่หรูหรามากและยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชายหาดส่วนตัว สระว่ายน้ำอุ่น อ่างจากุซซี่ และ ห้องเซาว์น่า รวมทั้งมีฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สาย 
โรงแรมบรรยากาศดีแห่งนี้มีระเบียงอาบแดด, คิดส์คลับ และ รูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง ทางรีสอร์ทมีจุดบริการเช็คอิน/เช็คเอาท์แบบด่วนสำหรับการเช็คอินและเช็คเอาท์อย่างรวดเร็ว อีกทั้งภายในยังมีสปาแอนด์เวลเนสเซ็นเตอร์ที่ชื่อ Spa at The Del 
ที่นี่มีบริการห้องพักติดเครื่องปรับอากาศจำนวน 757 ห้องซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะทำให้คุณเข้าพักได้อย่างเพลิดเพลิน ทุกๆ ห้องพักมีห้องน้ำส่วนตัวรวมทั้งเสื้อคลุมอาบน้ำและอุปกรณ์ต่างๆ 
เลาจ์บาร์เป็นสถานที่สะดวกสบายสำหรับการผ่อนคลายกับเครื่องดื่มแล้วไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารซึ่งบริการอาหารอาหารทะเล และ อเมริกันสำหรับอาหารเย็น ยามเย็นเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มได้ในเลาจ์บาร์บรรยากาศสบายๆ ผู้เข้าพักจะได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับไวน์จากบาร์ มาที่นี่มันมีความสุขมากบอกเลย


Mendenhall Glacier รัฐอะแลสกา

Mendenhall Glacier รัฐอะแลสกา

รัฐอะแลสกา เมืองแห่งน้ำแข็งอันเป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกอยากไปสัมผัสกันสักครั้ง เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามตามแบบฉบับของอเมริกาเหนือ มีทะเลสาบที่เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็ง ภูเขาลูกใหญ่มหึมาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะมากมาย อีกทั้งธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่จะทำให้คุณตะลึงกับธรรมชาติแห่งอะแลสกาไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะธารน้ำแข็ง Mendenhall ในเมือง Juneau ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 1,500 ตารางไมล์ นักท่องเที่ยวควรใช้บริการของบริษัททัวร์ท้องถิ่น เพื่อเที่ยวชมธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัยและทั่วถึง เมื่อไปถึงที่นี่แล้วก็อย่าลืมที่จะบอกไกด์ให้พาเข้าไปชมถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าใสราวกับคริสตัลกันด้วยนะ


ชายหาดไวกิกิ 

ชายหาดไวกิกิ 

ชายหาดไวกิกิ (Waikiki Beach) เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหนึ่งแห่ง ตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวงโฮโนลูลูทางฝั่งใต้ของเกาะโออาฮู ไวกิกิเคยเป็นพื้นที่สำหรับการเล่นเซิร์ฟของราชวงศ์ฮาวาย ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดนัดพบสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะโออาฮู ชายหาดแห่งนี้เต็มไปด้วยรีสอร์ทขนาดใหญ่ระดับห้าดาว แม้ว่าไวกิกิจะเป็นชาดหายสั้นๆ แต่ก็เป็นพื้นที่เล่นเซิร์ฟชื่อดัง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักโต้คลื่น และยังเป็นชาดหายสำหรับเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ นอนอาบแดด ชิลๆ อีกด้วย


เพิร์ล ฮาร์เบอร์ หรือ ท่าเรือเพิร์ล

เพิร์ล ฮาร์เบอร์ หรือ ท่าเรือเพิร์ล

พิร์ล ฮาร์เบอร์ หรือ ท่าเรือเพิร์ล (Pearl Harbor) เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบทางฝั่งตะวันออกของเมืองหลวงโฮโนลูลู ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของฐานทัพญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1941 จุดเริ่มต้นของการที่สหรัฐอเมริกาต้องเข้าร่วมในการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง จากการบุกรุกของกองทหารเรือ และการทิ้งระเบิดถล่มสหรัฐของทหารอากาศญี่ปุ่นนั่นทำให้ทุกวันนี้ เพิร์ลฮาร์เบอร์คือสิ่งที่เตือนใจชาวสหรัฐถึงเรื่องราวความโศกเศร้าในครั้งสงคราม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ชื่อเดิมของเพิร์ลฮาร์เบอร์คือ ไว โนมิ (Wai Nomi) หรือ อ่าวน้ำมุก ซึ่งถูกเรียกโดยชาวฮาวายตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ทุกวันนี้เพิร์ลฮาร์เบอร์กลายเป็นท่าจอดเรือ และเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เรือรบหลวงแอริโซน่าไปแล้ว


เที่ยวพระราชวังอิโอลานี (Iolani Palace, Honolulu)

เที่ยวพระราชวังอิโอลานี (Iolani Palace, Honolulu)

พระราชวังอิโอลานี (Iolani Palace) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1882 เพื่อเป็นที่พำนักของกษัติย์และพระราชินีแห่งฮาวาย แต่ภายหลังได้เกิดการกบฎขึ้น เมื่อพระราชินีแห่งฮาวายนั้นลงมือฆ่าผู้เป็นสามีตัวเอง และต้องการยกตัวเองขึ้นมาบริหารบ้านเมืองค่ะ แต่ความไม่เห็นด้วยของฝ่ายคณะรัฐบาลจึงทำให้เกิดการโค่นล้มระบอบกษัตริย์ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอเมริกันในฮาวาย ชะตากรรมของพระราชินีจึงมีจุดจบที่การถูกคุมขังตลอดชีวิตจ้า ต่อมาพระราชวังอิโอลานีตกเป็นที่ทำการของรัฐบาล ทำให้มีการขายประมูลของตกแต่งด้านในออกทอดตลาดเป็นจำนวนมาก ในปี ค.ศ. 1969 ที่ทำการของคณะรัฐบาลก็ถูกย้ายออกไป พระราชวังอิโอลานีจึงถูกบรูณะให้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของฮาวาย และได้รับการจดทะเบียนเป็น National Historic Landmark


ภูเขาไฟไดมอนด์ เฮด

ภูเขาไฟไดมอนด์ เฮด

ภูเขาไฟไดมอนด์ เฮด หรือ อุทยานแห่งชาติอนุสาวรีย์รัฐไดมอนด์ เฮด เป็นร่องรอยของภูเขาไฟที่ดับแล้ว มีรูปร่างคล้ายกับหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 475 เอเคอร์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของชายหาดไวกิกิ ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน ภูเขาไฟที่ดับแล้วแห่งนี้มีลักษณะคล้ายหลุมอุกาบาตขนาดใหญ่นั้น เกิดจากธรรมชาติสร้างขึ้นเมื่อกว่า 300,000 ปีที่แล้ว หลังจากมีการระเบิดและปะทุของลาวา เศษเถ้าถ่านทั้งหลายได้ลอยขึ้นสู่อากาศกลายตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็ก แล้วตกกลับมายังพื้นดินรวมตัวกันเป็นหินทับทมกันจนหลายเป็นปล่องภูเขาไฟแบบนี้นั่นเอง ไดมอนด์ เฮดยังเป็นพื้นที่สำคัญทางธรณีวิทยา และด้านการทหารของอเมริกาในยุคก่อนอีกด้วย

เราสามารถขึ้นไปที่จุดชมวิว เล’อาฮิ (Lē’ahi) ได้ง่ายมากๆ เลย เพราะทางรัฐบาลได้จัดทำทางเดิน และขั้นบันไดไว้ให้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ เมื่อขึ้นไปถึงยอดเราก็จะสามารถมองเห็นพื้นทะเลกว้างใหญ่ มองไปข้างๆ ก็จะเจอกับชายหาดที่โด่งที่สุดในฮาวายอย่างไวกิกิ ที่เรียงรายไปด้วยโรงแรมตึกขนาดใหญ่ ตัดด้วยสีฟ้าสดใสของน้ำทะเล ใครที่อยากจะมาลองดูจะพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ก็เลิศเลย


บิ๊กเซอร์ (Big Sur) รัฐแคลิฟอร์เนีย

บิ๊กเซอร์ (Big Sur) รัฐแคลิฟอร์เนีย

ถ้าถามถึงเส้นทางการขับรถเที่ยวแบบบรรยากาศดี วิวสวยอันดับต้น ๆ ของโลก ชื่อของบิ๊กเซอร์ จะต้องเป็น 1 ในนั้นแน่นอน เพราะเป็นถนนที่สร้างขึ้นเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางจะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้เที่ยวชมเยอะมาก ๆ วิวของท้องทะเลและหน้าผาหินริมชายฝั่งทะเล ที่ถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว ช่างเข้ากันสุด ๆ ลองนึกภาพการได้ขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ ริมชายฝั่งทะเล มีหาดทรายให้ได้แวะพักนั่งเล่น อากาศเย็นสบาย สดชื่น มันจะฟินขนาดไหน


เมาท์รัชมอร์ (Mount Rushmore)

เมาท์รัชมอร์ (Mount Rushmore)

เมาท์รัชมอร์ ตั้งตระหง่านอยู่บนเทือกเขา แบล็คฮิลส์ เซาธ์ดาโกต้า ในรัฐเซาท์ดาโคตา เป็นรูปสลักใบหน้าขนาดมหึมาของประธานาธิบดีอเมริกันสี่คน ได้แก่ วอชิงตัน เจฟเฟอร์สัน รูสเวลท์ และ ลินคอล์น แกะสลักไว้บนหน้าผาหินแกรนิตสูง 18 เมตร โดยแต่ละคนจะเป็นตัวแทนของอุดมการณ์ในแต่ละด้านของประเทศ   มีลานชมวิว grand view terrace ด้านล่างเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นและถ่ายรูปใบหน้าประธานาธิบดีทั้ง 4 อย่างใกล้ชิด เมาท์รัชมอร์เป็นสถาปัตยกรรมที่ปลุกจิตสำนึกของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมให้รู้สึกถึงความภูมิใจอันยิ่งใหญ่ที่ชาวอเมริกันมีต่อประเทศของตน


ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ท (Walt Disney World Resort)

ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ท (Walt Disney World Resort)

เป็นสวนสนุกที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในโลกและมีจำนวนผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก ตั้งที่เมืองออแลนโด รัฐฟลอริดามีพื้นที่ 121.7 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วย สวนสนุก 4 แห่งได้แก่ แมจิกคิงดอม ไฮไลท์คือปราสาทซินเดอเรลล่า ส่วนที่สองคือ เอปคอตเซนเตอร์ EPCOT CENTER เป็นสวนสนุกในส่วนที่แสดงถึงวัฒนธรรมและเทคโนโลยีของ นานาประเทศ ดิสนีย์ฮอลลีวู๊ดสตูดิโอเป็นสวนสนุกที่เปิดบริการเป็นอันดับสาม ส่วนนี้แสดงถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ การออกแบบและแรงบันดาลใจ ในการสร้างภาพยนตร์และดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม สวนสนุกอันดับที่สี่ เป็นสวนสนุกที่มีลักษณะเป็นเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์   นอกจากนั้นยังมีสวนน้าอีก 2 แห่ง คือ ไทฟูนลากูน บลิซเซิร์ดบีช และมีโรงแรมระดับ 5 ดาวให้เลือกพักถึง 23 แห่ง พรั่งพร้อมไปด้วยแหล่งชอปปิ้ง สนามกอล์ฟ 6 สนาม สปา ฟิตเนส สถานบันเทิง และร้านอาหารอีกจำนวนมาก


เซียร์ส ทาวเวอร์

ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ท (Walt Disney World Resort)

นอกจากจะเป็น “ตึกสูงที่สุด” ในอเมริกาแล้ว ปัจจุบัน “เซียร์ส ทาวเวอร์” ยังได้ชื่อว่าเป็นตึกที่ “เสียวที่สุด” อีกด้วย เพราะล่าสุดทางตึกได้เปิดตัว “The Ledge” ระเบียงที่ทำจากกระจกใสล้วนๆ บนความสูง 1,353 ฟุต ซึ่งยื่นออกจากตัวตึกชั้น 103 ให้ประชาชนเข้าชมอย่างเป็นทางการแล้ว  ระเบียงกระจกที่ว่ายื่นออกจากตัวอาคารชั้น 103 ของ “เซียร์ส ทาวเวอร์” ประมาณ 4 ฟุต (1.2 เมตร) ทำให้เห็นวิวเมืองสุดลูกหูลูกตาทั้งด้านบน ด้านหน้า และด้านล่าง แบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งทางผู้ออกแบบกล่าวว่า ต้องการให้ผู้ที่ยืนอยู่ตรงระเบียงมีความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ ยังไงลองไปดู ดูซิจะเสียวขนาดไหน


อุทยานแห่งชาติแบดแลนด์

อุทยานแห่งชาติแบดแลนด์

อุทยานแห่งชาติแบดแลนด์ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ รัฐเซาท์ดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงแม้ชื่อจะไม่เชิญชวนนัก แต่อุทยานแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติที่มีทั้งหน้าผา ทุ่งหญ้า และทุ่งฟอสซิลโบราณ

ภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งของอุทยานแห่งชาติ Badlands ประกอบด้วย เนินเขาที่มีรูปทรงโดดเด่นและยอดแหลม ทำจากการกัดกร่อนของดินและทราย ฝูงใหญ่ของกระทิงกระท่อมได้อย่างอิสระภายในสวนเพิ่มองค์ประกอบที่ไม่ซ้ำกับประสบการณ์ทั้งหมด ทัศนียภาพที่ไม่เอื้ออำนวยนี้เป็นสิ่งที่สวยงามมากและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดของ South Dakota


Custer State Park

Custer State Park

Custer State Park เป็นอุทยานแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในมลรัฐเซาท์ดาโคตามีพื้นที่ครอบคลุมหลากหลายภูมิประเทศที่แตกต่างกันซึ่งมีโอกาสสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจกลางแจ้งและการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ฝูงใหญ่ของวัวกระทิงเดินเตร่ภูมิทัศน์ที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่ตั้งของสัตว์ป่าอื่น ๆ อีกมากมาย ยอดหินแกรนิตสูงกว่าป่าทะเลสาบและลำธาร คุณสามารถเข้าถึงสวนได้อย่างง่ายดายพร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม


Route 66

Route 66

Route 66 อันโด่งดังมีความยาวกว่า 2,448 ไมล์ (3,945 กิโลเมตร) จากเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ไปถึงลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ยาวไกลขนาดข้าม 3 ไทม์โซนเลยทีเดียว เส้นทางนี้มีอีกชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Will Rogers Highway นับเป็นถนนเส้นประวัติศาสตร์ของอเมริกา เพราะเป็นทางหลวงสายแรกๆ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1926 และเป็นเส้นทางหลักในการอพยพจากอเมริกาฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกเพื่อแสวงหาชีวิตใหม่
แม้ทุกวันนี้ Route 66 ก็ไม่ได้ทางหลวงสายหลักแล้ว แต่มันก็ได้กลายเป็นเส้นทางชมวิว (National Scenic Byway) ที่ทอดยาวผ่านทัศนียภาพอันแตกต่างชนิดที่ว่าถ้าใครขับรถผ่านครบทั้งเส้นทางแล้ว จะถือว่าได้ทำความรู้จักอเมริกาแบบฉบับย่อแล้ว สำหรับวิวที่จะเห็นก็มีทั้งทางตรงกับทุ่งเวิ้งว้าง ทิวกระบองเพชร มีภูเขาเป็นฉากหลัง โมเต็ลป้ายไฟนีออนแบบในหนังอเมริกันยุคเก่า เมืองเล็กเมืองใหญ่ ไปจนถึงวิวแบบทุ่งหญ้าสุดปลอดโปร่ง รวมถึงฟาร์มงามๆ อีกตลอดเส้นทาง


DEVIL’S TOWER

DEVIL'S TOWER

หอคอยปีศาจ ไวโอมิง สหรัฐอเมริกา มีลักษณะเป็นภูเขาที่มีความสูง 263 เมตร ฐานมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 305 เมตร ผิวนอกเป็นรอยริ้วใหญ่ๆ มียอกป้านกว้างประมาณ 85 เมตร โดยรวมแล้วมีลักษณะเหมือนตอยักษ์ หอเดวิลส์เกิดจากภูเขาไฟที่ดันตัวขึ้นมา แล้วถูกกัดกร่อน บริเวณโดยรอบ เป็นป่าสนความสำคัญในทางธรณีวิทยาพบว่าบริเวณนี้มีผลกระทบจาก การเปลี่ยนของเปลือกโลกยุคโบราณในหลายกรณีมาก เป็นทั้งผืนดินและมหาสมุทรนับหลาย ร้อยล้านปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งที่ที่ดูแปลกมากๆ


อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) 

อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) 

อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม มีภูเขารูปโดมครึ่งซีกและน้ำตกขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ จุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและช่างภาพจะอยู่บริเวณ Mirror Lake เพราะสามารถมองเห็นภาพของท้องฟ้าและภูเขาสะท้อนลงน้ำได้อย่างอลังการ ราวกับภาพในนิยายเลยทีเดียว นอกจากนี้ภายในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตียังมีเส้นทางเดินป่าสนุก ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้าโชคดีก็จะได้เห็นสัตว์ป่าแบบใกล้ชิดอีกด้วย


ไบรซ์ แคนยอน

ไบรซ์ แคนยอน

ภาพของเสาหินสีแดง ที่ตั้งเรียงรายอยู่ท่ามกลางหุบเขาสุดกว้างใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกจดจำไบรซ์ แคนยอน ได้อย่างดี โดยเสาหินต่าง ๆ นี้จะเรียกว่า Hoodoo ซึ่งมีมากที่สุดในโลก การเกิดไบรซ์ แคนยอนนั้นเกิดจากลม พายุฝน และหิมะที่ละลายกลายเป็นน้ำกัดกร่อนภูเขาหินทรายมานานหลายพันปี จนกลายเป็นเสาหินรูปทรงแปลกตา สีสันสดใสทั้งแดง ส้ม ชมพู สลับซับซ้อนมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน กลายเป็นแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดของอเมริกาอีกหนึ่งแห่งได้อย่างสง่างาม


Monument Valley

Monument Valley

Monument Valley ตั้งอยู่ใน Navajo Nation’s Monument Valley Park ระหว่างพรมแดนของรัฐแอริโซนาและรัฐยูทาห์ ถ้าคุณได้มาสัมผัสจะรู้สึกเหมือนได้หลุดไปอยู่อีกโลก ด้วยพื้นที่โดยรอบของที่นี่มีเพียงภูเขาหินทรายสีแดงที่ถูกกัดกร่อนมายาวนานมากกว่า 50 ล้านปี จนมีรูปร่างที่แปลกตาสวยงามตั้งตระหง่านอยู่เท่านั้น ซึ่งภูเขาแต่ละลูกก็จะสูงประมาณ 400-1,000 ฟุต ไม่มีต้นไม้สูงใหญ่สีเขียวขจี มีเพียงพุ่มหญ้าเล็ก ๆ อยู่ตามพื้น สร้างสีสันให้ที่นี่มีชีวิตชีวาขึ้น


ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe) 

ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe) 

ทะเลสาบทาโฮ ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของรัฐเนวาดาและรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นทะเลสาบที่มีน้ำสีฟ้าใส ราวกับกระจก สามารถสะท้อนแนวเทือกเขา Sierra Nevada ได้อย่างงดงามสุด ๆ โดยรอบ ๆ ทะเลสาบจะมีต้นสนและพรรณไม้อื่น ๆ ขึ้นสลับซับซ้อน สร้างบรรยากาศให้สดชื่น อากาศเย็นสบาย อีกทั้งยังเงียบสงบ เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อน นักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งเรือล่องในทะเลสาบ ขี่จักรยาน ขึ้นบอลลูน และทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกเพียบ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่นี่จะกลายเป็นสถานที่เล่นสกีที่สนุกสนานที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกาเลยทีเดียว


ทุ่งดอกบลูเบล (Bluebells) เมืองวิลโลว์

ทุ่งดอกบลูเบล (Bluebells) เมืองวิลโลว์

เมืองวิลโลว์ (Willow City) เป็นจุดหมายปลายทางที่ฮอตมาก ๆ ในช่วงฤดูกาลดอกไม้เบ่งบานอย่างช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบ ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากที่จะมาใช้ช่วงวันหยุดกับครอบครัวที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่คือดินแดนแห่งทุ่งบลูเบลที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว คุณจะได้ขับรถอย่างช้า ๆ เปิดกระจกรับลมเย็น ๆ สูดอากาศที่บริสุทธิ์ ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงฟ้าที่แผ่ขยายไปไกลสุดลูกหูลูกตา…นี่มันสวรรค์ชัด ๆ


อุทยานแห่งชาติ Olympic

อุทยานแห่งชาติ Olympic

อุทยานแห่งชาติโอลิมปิกเป็นอุทยานแห่งชาติอเมริกันที่ตั้งอยู่ในรัฐวอชิงตันบนคาบสมุทรโอลิมปิก สวนมีสี่ภูมิภาค ได้แก่ ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคเทือกเขาแอลป์พื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของพอสมควรและป่าดงดิบด้านตะวันออก ภายในสวนมีระบบนิเวศที่แตกต่างกันสามแห่งซึ่ง ได้แก่ ป่า subalpine และทุ่งหญ้าดอกไม้ป่าป่าเขตอบอุ่นและชายฝั่งแปซิฟิกที่ขรุขระ หากคุณชอบธรรมชาติที่นี่ก็น่าไป


มาลิบู

มาลิบู

มาลิบูเป็นเมืองชายหาดทางตะวันตกของลอสแอนเจลิสเคาน์ตี้แคลิฟอร์เนียตั้งอยู่ห่างจากดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิสประมาณ 30 ไมล์ทางตะวันตก มาลิบูเป็นชายหาดที่น่ารักและมีเสน่ห์แบบเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคุณจะได้เพลิดเพลินกับแสงแดดอันสดใสของแคลิฟอร์เนียเกือบตลอดทั้งปี หน้าผาสีเหลืองตั้งตระหง่านอยู่เหนือน้ำทะเลสีคราม บ้านพักตากอากาศหรูหราราคาหลายล้านดอลลาร์ตั้งอยู่บนหน้าผาและด้านล่างคุณสามารถเห็นเพียงทรายและมหาสมุทร ที่นี่มีคนดังอยู่เช่น Barbara Streisand, Anthony Hopkins และ Pamela Anderson ดีขนาดนี้จะไม่ลองไปเชียวเหรอ!!


บรอดเวย์-ไทม์สแควร์

บรอดเวย์-ไทม์สแควร์

บรอดเวย์ได้รับสมญาว่า “เดอะเกรทไวท์เวย์” จากแสงไฟระยิบระยับในบริเวณรอบๆ ไทม์สแควร์ที่ได้รับความนิยมบนถนนสายนี้ ใช้เวลาชั่วครู่มองไปยังใจกลางของไทม์สแควร์จากทุกทิศทาง ทุกวันที่ 31 ธันวาคม ผู้คนราวๆ 1 ล้านคนจะหลั่งไหลมายังพื้นที่แห่งนี้ เพื่อชมการโยนลูกบอลใหญ่ 3.60 เมตรลงมาจากอาคาร One Times Square เพื่อฉลองปีใหม่

ตั้งแต่ ค.ศ. 2009 เป็นต้นมา เมืองนี้ได้ปิดการจราจรทางรถในพื้นที่ไทม์สแควร์และส่วนอื่นๆ ของบรอดเวย์ และติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ตามถนนเพื่อให้คนเดินถนนใช้ได้อย่างปลอดภัยและน่าเพลิดเพลิน ที่ฟาเธอร์ดัฟฟี่สแควร์ทางด้านเหนือสุดของไทม์สแควร์ คุณสามารถหาที่นั่งบนอัฒจันทร์กระจกกว้างสีแดงที่หันไปทางทิศใต้ เพื่อเฝ้าชมผู้คนในจุดที่พลุกพล่านแห่งนี้ จากด้านบน ชมทัศนียภาพของเมืองที่งดงามอย่างน่าพิศวง ศิลปินข้างถนนมาทำการแสดงที่นี่เสมอๆ ซึ่งรวมถึง Naked Cowboy, นักรบอวกาศในเครื่องแต่งกายสตาร์วอร์ส, นักร้องเพลงคันทรี่ และนักเต้นเบรกแดนซ์ นึกออกใช่ไหมว่าคุณจะมีความสุขขนาดไหนหากไปที่นี่


เที่ยวทัวร์ดำน้ำกับฉลาม (Shark Cage Tour)

เที่ยวทัวร์ดำน้ำกับฉลาม (Shark Cage Tour)

ดำน้ำกับฉลาม (Shark Cage Tour) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดตื่นเต้นแห่งเกาะโฮอาฮู การไปดูฉลามทุกขั้นตอน จะอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์การทำทัวร์ดำน้ำดูฉลามมานานกว่า 10 ปี โดยทางทัวร์จะพาเรานั่งเรือออกไปกลางทะเลประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร หลังจากนั้นเขาจะเอากรงขนาดใหญ่ลงไปในน้ำ แล้วเจ้าหน้าที่จะลงไปก่อนเพื่อเป็นไกด์ให้กับเรา พวกเราที่อยู่บนเรือก็เตรียมตัวใส่ snorkel หรือ แว่นตาดำน้ำ จากนั้นก็สูดหายใจเข้าออกกลึกๆ แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่คนดูแลบอก หย่อนตัวลงไปในน้ำแล้วดำลงไป ทักทายคุณฉลามเลย ครั้งหนึ่งในชีวิตไปให้สุดหยุดที่นี่ สามารถเข้าไปดูข้อมูล หรือจองทัวร์ได้ที่sharktourshawaii.com


อนุสาวรีย์เรือรบหลวงแอริโซน่า (USS Arizona Memorial) 

อนุสาวรีย์เรือรบหลวงแอริโซน่า (USS Arizona Memorial) 

พิพิธภัณฑ์บนเรือ USS Missouri สถานที่ประวัติศาสตร์ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นต้องยอมจำนนให้กับฝั่งสหรัฐในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 ซึ่งเป็นบทสรุปของสงครามครั้งนั้นที่บนดาบฟ้าเรือรบ USS Missouri ลำนี้นั่นเอง โดยปัจจุบันที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีได้ทุกวัน ส่วนใหญ่คนก็จะคึกคักในช่วงวันชาติต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งภายด้านในจะมีการรวบรวมทั้งประวัติของเส้นทางการเดินเรือดำน้ำ และพิพิธภัณฑ์การบินแปซิฟิก (Pacific Aviation Memorial) ด้วย


เที่ยวเกาะคาไว (Kauai – The Garden Isle)

เที่ยวเกาะคาไว (Kauai – The Garden Isle)

เกาะคาไว (Kauai) หรือ เกาะการ์เด้น เป็นเกาะที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐฮาวาย มีประชากรบนเกาะเพียง 66,000 คนเท่านั้น แต่ที่นี่ถูกเติมเต็มไปด้วยธรรมชาติ และธรรมชาติล้วนๆ  เกาะคาไวได้รวบรวมสิ่งมหัศจรรย์หลากหลายที่ธรรมชาติสร้างไว้ได้อย่างน่าทึ่งมาก


เที่ยวอุทยานแห่งรัฐชายฝั่งนาปาลี (Na Pali Coast State Park)

เที่ยวอุทยานแห่งรัฐชายฝั่งนาปาลี (Na Pali Coast State Park)

อุทยานแห่งรัฐชายฝั่งนาปาลี เป็นสถานที่ที่ถ้าใครไปเที่ยวเกาะคาไวแล้วไม่ได้ผ่านไปยังชายฝั่งนาปาลี ถือว่าไปไม่ถึงเกาะการ์เด้นที่แท้จริง แถมที่นี่ยังเป็นเกาะต้นแบบ สถานที่กำเนิดและถ่ายทำเรื่อง Jurassic Park อีกด้วย อุทยานชายฝั่งนาปาลีถูกยกย่องให้เป็นสถานที่ที่สวยงามที่สุดในโลก ด้วยขนาดผืนป่าที่กว้างใหญ่ และอุดมสมบรูณ์ ประดับไปด้วยถ้ำมากมาย หุบเขาหลายลูกที่ขนาดสูงใหญ่ขนาดมหึมา ราวกับสวรรค์บนพื้นสวรรค์เลย ที่นี่คือความแฟนตาซีที่มีอยู่จริงบนโลก


อนุสาวรีย์วอชิงตัน

อนุสาวรีย์วอชิงตัน

อนุสาวรีย์วอชิงตัน (Washington Monument ความสูงกว่า 555 ฟุต ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ นาย จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ใจกลาง เนชันแนล มอลล์ ระหว่าง อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (United States Capitol) และอนุสรณ์สถาน ลินคอล์น (Lincoln Memorial) ได้รับการอุทิศอย่างเป็นทางการ โดยประธานาธิบดี เชสเตอร์ อาร์เธอร์ (Chester Arthur) ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1885 และเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่ ตุลาคมปี ค.ศ. 1888

ใครที่เห็นความสูงสุดลูกหูลูกตานี้ คิดว่าต้องเดินขึ้นไปเหนื่อยแน่ๆ อยากบอกว่าเปล่าเลย เพราะภายในมีลิฟต์ ที่ใช้แทนการเดินขึ้นบันไดกว่า 897 ขั้น ให้ด้วย ใครที่ชอบจุดชมวิวสวยๆ และชื่นชอบสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แบบนี้ ไม่ควรพลาด


อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (United States Capitol)

อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา (United States Capitol)

ใครที่สนใจในเรื่องของประชาธิปไตย พลาดไม่ได้กับการมาเยือน อาคารรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา (United States Capitol) ซึ่งเป็นสถานที่ที่วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรมารวมตัวกันเพื่อหารือ อภิปราย และพิจารณานโยบายระดับประเทศมานานกว่า 2 ศตวรรษ เป็นทั้งอนุสาวรีย์ อาคารและสำนักงาน รวมถึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงถึงความเป็นประชาธิปไตยในระดับสากลอีกด้วย

อาคารรัฐสภาของสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ทางด้านตะวันออกของเนชันแนล มอลล์ (National Mall) และได้รับการคัดเลือกการออกแบบโดยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ในปี ค.ศ. 1793 ถูกจัดให้เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจและเป็นสัญลักษณ์สำคัญของโลก! ซึ่งได้ผ่านมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นการถูกสร้าง ถูกเผา ขยายต่อเติมแล้วก็บูรณะใหม่ ถ้าเป็นชีวิตคนก็ต้องบอกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาหมดแล้ว


อนุสรณ์สถานลินคอล์น (Lincoln Memorial)

อนุสรณ์สถานลินคอล์น (Lincoln Memorial)

อนุสรณ์สถานนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นาย อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเนชันแนล มอลล์ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ใครที่อยากได้รูปสวยๆ เป็นที่ระลึก ให้เข้าไปทางด้านฝั่งตะวันออกของ อนุสาวรีย์ วอชิงตัน (Washington Monument) และอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 2 (National World War II Memorial) ถ้าถ่ายจากมุมนี้จะได้รูปภาพสะท้อนจากสระน้ำ ตัดกับโครงสร้างตึกที่ยิ่งใหญ่สมเกียรติอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา สวยงามมากๆ


ไวท์ เฮ้าส์ (White House)

ไวท์ เฮ้าส์ (White House)

ไวท์ เฮาส์ (White House) หรือที่เราเรียกกันคุ้นหูว่าทำเนียบขาว เป็นอาคารสำนักงานสีขาวตั้งสวยตระหง่าน มีประวัติความเป็นมายาวนานมากก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1791 ที่ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา นายจอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ได้เลือกทำเลที่ตั้งเพื่อก่อสร้างไวท์ เฮาส์ แห่งนี้ขึ้น โดยใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 8 ปี ต่อมาในปี ค.ศ. 1800 อดีตประธานาธิบดีจอร์น อดัม (John Adams) และภริยา เอบิเกล (Abigail) ได้ย้ายเข้ามาอยู่ ซึ่งท่านนับเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐที่เข้ามาพำนักในไวท์ เฮาส์นี้เลย


เนชันแนล แอร์ แอนด์ สเปซ มิวเซียม (National Air and Space Museum)

เนชันแนล แอร์ แอนด์ สเปซ มิวเซียม (National Air and Space Museum)

ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1946 และเปิดตึกหลักในเนชันแนล มอลล์ ใกล้ๆ กับ ลองฟอง พลาซ่า (L’Enfant Plaza) ในปี ค.ศ. 1976 เป็นสถานที่เที่ยวที่เหมาะกับการที่ผู้ปกครองพาเด็กๆมาเที่ยวมาก ทันทีที่เข้าไปนึกว่าตัวเองได้เข้าไปในฐานทัพอเมริกายังไงยังงั้น  เพราะจะได้เห็นเครื่องบินลำโตๆ จรวด ยานอวกาศของจริง ละลานตามากก!

ไม่ว่าจะเป็นยานอะพอลโล 11 (Apollo 11) ยานอวกาศลำแรกที่ลงจอดบนผิวของดวงจันทร์ได้สำเร็จ แคปซูลเฟรนชิพ 7 (Friendship 7) ซึ่งบินโดย จอร์น เกล็น (John Glenn) มนุษย์อวกาศชาวอเมริกันคนแรกที่สามารถโคจรรอบโลกได้สำเร็จ สปิริตออฟเซนต์หลุยส์ (Spirit of St. Louis) ของ ชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก (Charles Lindbergh) นักบินชาวอเมริกันคนแรกที่บินจากมหานครนิวยอร์กไปปารีส ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่หยุดพักเลยแม้แต่นิดเดียว เครื่องบิน เบลล์ เอ็กซ์ วัน (Bell X-1) เครื่องบินลำแรกที่บินได้เร็วกว่าความเร็วเสียง หรือแม้แต่เครื่องบินของพี่น้อง ไรท์ (Wright brothers) ซึ่งนับเป็นคนแรกของโลกที่ทำให้ความฝันของมนุษย์กว่าค่อนโลกที่อยากจะบินได้เป็นจริง บอกเลยมันน่าไปมาก


จอร์จทาวน์ แอนด์ เดอะ วอเตอร์ ฟร้อนท์ (Georgetown and the Waterfront)

จอร์จทาวน์ แอนด์ เดอะ วอเตอร์ ฟร้อนท์ (Georgetown and the Waterfront)

เอาใจคนที่ชอบบรรยากาศริมน้ำ และรักการเที่ยวแบบ ชิลๆ ต้องที่ จอร์จทาวน์ แอนด์ เดอะ วอเตอร์ ฟร้อนท์ (Georgetown and the Waterfront) ถือเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดใน ดี.ซี. เลยก็ว่าได้ค่า ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้ได้เพลิดเพลินไม่รู้เบื่อกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบนบก หรือกิจกรรมริมน้ำ ทุกอย่างของที่นี่น่ารักและมีเสน่ห์มากๆ ไม่ว่าจะเป็น บาร์สไตล์เก่าแก่ ร้านบูติกที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ หรือแม้แต่กิจกรรมกีฬาและสันทนาการริมน้ำ ไปจนถึงการนั่งรับประทานอาหารอร่อยๆ ชมวิวทิวทัศน์ไปด้วย กิจกรรมสนุกๆ ก็มีให้ทำมากมาย เช่น การเช่าเรือคายัค หรือเรือแคนนู ที่ คีย์ บริดจ์ โบท เฮาส์ (Key Bridge Boatthouse) ถ้าใครที่ยังพายเรือไม่เป็น ที่นี่เค้าก็มีคลาสสอนพายเรือให้ด้วย


พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (National Museum of Natural History)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (National Museum of Natural History)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในเมืองวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและมีจำนวนผู้เข้าชมมากเป็นลำดับที่หนึ่งในกลุ่มพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติจากทั่วโลก โดยยอดผู้เข้าชมในปี 2016 มีจำนวนมากถึง 7.1 ล้านคน


เกาะคาทาลินา

เกาะคาทาลินา

เปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นวันพักผ่อนอันแสนสนุก ทั้ง พักผ่อน ว่ายน้ำ ดำน้ำสนอร์เกิล หรือสัมผัสประสบการณ์ผจญภัย เช่น การดำน้ำในเรือดำน้ำขนาดเล็ก และการโหนสลิง ทั้งหมดนี้อยู่บนเกาะคาทาลินา ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งลอสแอนเจลิสออกไปเพียง 35 กิโลเมตร

ก้าวลงจากเรือเฟอร์รี่แล้วมาที่ถนนสายต่างๆ ในเมืองหลัก Avalon และมุ่งหน้าไปที่ชายหาดหรือเดินเล่นเพื่อชมแกลเลอรี่งานศิลปะและร้านขายของที่ระลึก คาทาลินาพัฒนาขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และมีโรงแรมที่มีเสน่ห์เก่าแก่และคาสิโนสไตล์อาร์ตเดโคอันงดงาม


หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา

หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา

พักผ่อนในบรรยากาศที่ผ่อนคลายของหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา สามเกาะหลักนี้มีทั้งหาดทรายและแสงแดด พร้อมด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษที่น่าสนใจ อากาศที่อบอุ่นของเกาะดึงดูดให้ผู้คนหนีจากอากาศหนาวเย็นในแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐอเมริกามาที่นี่ บน เซนต์โทมัส ท่าเรือที่ได้รับการอนุรักษ์ของ ชาร์ลอตต์อะมาลี จะคึกคักมีชีวิตชีวาเมื่อเรือสำราญมาเทียบท่า เดินไปตามถนนเพื่อเพลิดเพลินไปกับการซื้อสินค้าปลอดภาษี อ่าวเมเกนส์ที่อยู่นอกเมืองมีหาดทรายนุ่มความยาว 1.6 กิโลเมตรและน้ำใสสะอาดที่เหมาะให้ครอบครัวได้เพลิดเพลิน


ช้อปที่Rodeo Drive ใน Beverly Hills

ช้อปที่Rodeo Drive ใน Beverly Hills

ด้วยความเป็นดาวที่ส่องประกายโดดเด่นอยู่ ณ ใจกลางเมือง Beverly Hills ทำให้ Rodeo Drive จึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการช้อปปิ้งสินค้าหรูหรา เป็นแหล่งแห่งความมีชีวิตชีวาของแฟชั่นชั้นสูง
ชื่อแบรนด์สินค้าสำคัญจำนวนมากปรากฏอยู่ที่นี่ รวมถึง Gucci, Giorgio Armani, Prada, Chanel และ Christian Dior รวมถึงร้านค้าแฟชั่นขนาดเล็กของนักออกแบบจำนวนไม่มาก ทางเท้าที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์มมีแสงแดดเล็ดลอดลงมาแต้มเป็นจุดๆ เต็มไปด้วยนักช้อปผู้มั่งคั่งซึ่งต่างก็กำถุงสินค้านำสมัยของตนไว้แน่น และบรรดากลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินตามรอยเท้านักช็อปเหล่านี้ไป
แม้ว่าคุณจะไม่ได้ตั้งใจไปซื้อสินค้าก็ตาม ที่นี่ก็มีสิ่งน่าสนใจให้คุณได้ดูอยู่มากมายที่จะทำให้การมาเยือนของคุณคุ้มค่า บรรดาร้านค้าต่างคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวที่มาเพียงเดินดูสินค้า และคุณก็สามารถเดินเข้าไปในร้านได้อย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม มีบางร้านที่เปิดตามการนัดหมายเท่านั้น


อุทยานแห่งรัฐและอุทยานแห่งชาติเรดวูด

อุทยานแห่งรัฐและอุทยานแห่งชาติเรดวูด

อุทยานแห่งรัฐและอุทยานแห่งชาติเรดวูดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ แหงนหน้ามองต้นเรดวูดอายุหลายร้อยปี สำรวจชายหาดมหาสมุทรแปซิฟิกที่เต็มไปด้วยโขดหิน กางเต็นท์ใต้แสงดาว และมองหาสัตว์ป่าที่หลากหลาย อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 3 แสนไร่ ยืดยาว 64 กิโลเมตรตามชายฝั่งตอนเหนืออันงดงามของแคลิฟอร์เนีย


Seaworld

Seaworld

SeaWorld® ซานดิเอโกตั้งอยู่ในย่านทันสมัยอย่างหาดมิชชั่น ที่นี่ได้มอบความสุขให้กับผู้คนมากมายตั้งแต่เริ่มเปิดทำการในปี 1964 และเป็นที่ที่ครอบครัวนักท่องเที่ยวที่มีเด็กจะต้องมาให้ได้ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างนิยมมาชมนิทรรศการต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมเล่นกับสัตว์น้ำ สัมผัส ป้อนอาหาร และฝึกสั่งการด้วยคำสั่งท่าทางกับโลมาหัวขวดได้ที่ Dolphin Point ถ้าแจ้งความจำนงล่วงหน้าไว้แล้ว คุณจะสามารถใส่ชุดดำน้ำแล้วกระโดดลงแหวกว่ายไปพร้อมๆ กับเจ้าวาฬเบลูก้าได้อีกด้วย


มอนเตซูมา

มอนเตซูมา

มอนเตซูมา (Montezuma) อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตั้งอยู่ในหุบเขาเวิร์ดตอนกลาง เมืองแคมป์เวิร์ด รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกาถูกค้นพบ ประมาณช่วงคริสต์ศักราช 1100-1425 เป็นซากปรักหักพังที่ยังมีความสมบูรณ์และตั้งอยู่บนหน้าผาสูงน่ามหัศจรรย์ใจ โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ

มอนเตซูมาเป็นที่รู้จักว่าคือปราสาทแห่งกษัตริย์มอนเตซูมาในเม็กซิโก แต่ที่จริงแล้วเป็นความเข้าใจผิด คาดว่าที่นี่ไม่ใช่ปราสาท แต่เป็นที่อยู่อาศัยคล้ายๆอพาร์ทเมนท์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ผู้อยู่อาศัยอาจจะเป็นเหล่าชาว Sinagua ที่เกิดก่อนวัฒนธรรม Columbian เกี่ยวข้องกับชาว Hohokam ชนพื้นเมืองที่ยังสืบเชื้อสายมาถึงแอริโซนาในปัจจุบัน แต่ต่อมาการเกษตรกรไม่ยั่งยืนหรือเกิดโรคระบาด ทำให้ชาวบ้านอพยพและทิ้งถิ่นที่อยู่นี้ไว้


ไชน่าทาวน์, ซานฟรานซิสโก

ไชน่าทาวน์, ซานฟรานซิสโก

ย่านไชน่าทาวน์อยู่ตรงกลางถนน Grant Avenue และถนน Stockton ในซานฟรานซิสโกรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นย่านไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือและเป็นเขตจีนที่ใหญ่ที่สุดนอกเอเชีย นอกจากนี้ยังเป็นที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในสี่ Chinatowns ที่โดดเด่นภายในเมือง นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1848

ซานฟรานฯ เป็นเมืองที่มีย่านคนจีนใหญ่มาก ไชน่าทาวน์ของซานฟรานฯ เขาว่าใหญ่ที่สุดในโลก และเก่าแก่ที่สุดในอเมริกา เพราะซานฟรานฯ เป็นประตูของอเมริกาเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ล่องเรือมาแต่เมืองจีนก็ต้องมาขึ้นท่าที่ซานฟรานฯ นี่แหละ ใกล้สุดแล้ว คนจีนจึงมาตั้งรกรากที่ซานฟรานฯ ร้อยกว่าปีแล้ว บางคนบอกว่ามาก่อนมีอเมริกาเสียอีก


เวิลด์ออฟโคคาโคล่า

เวิลด์ออฟโคคาโคล่า

พิพิธภัณฑ์เวิลด์ออฟโคคาโคล่าจะเล่าประวัติและวัฒนธรรมองค์กรของเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จสูงสุดยี่ห้อหนึ่งในโลก ชิมโคคาโคล่ารสต่างๆ จากทั่วโลก ดูโฆษณาและแคมเปญการตลาดย้อนยุค และชมวิวัฒนาการเครื่องดื่มน้ำอัดลม พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจอร์เจียในย่านดาวน์ทาวน์แอตแลนตา


แมดิสันสแควร์การ์เด้น

แมดิสันสแควร์การ์เด้น

มิดทาวน์แมนฮัตตันมีสนามกีฬาในร่มที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นั่นคือ แมดิสันสแควร์การ์เด้น (MSG) ชมทีมนิวยอร์กนิคส์แห่ง NBA, นิวยอร์กเรนเจอร์สแห่ง NHL และนิวยอร์กลิเบอร์ตี้แห่ง WNBA หรือศิลปินชื่อดังคนโปรดของคุณแสดงคอนเสิร์ตในสนามกีฬาขนาดมหึมาแห่งนี้


Crater Lake ในรัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา

Crater Lake ในรัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา

Crater Lake ทะเลสาบที่เก่าแก่นั้นเกิดจากการปะทุเมื่อ 7,700 ปีก่อน จัดเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีความลึก 594 เมตร น้ำใน Crater Lake มาจากฝนและหิมะเท่านั้น  ที่นี่คือฮอตสปอตสำหรับนักยิงปืนและนักเดินทางไกลจากทั่วโลกเลยทีเดียว


เขื่อนฮูเวอร์

เขื่อนฮูเวอร์

เขื่อนฮูเวอร์ หรือ ทำนบโบลเดอร์ หรือ โบลเดอร์แดม  (Boulder Dam – เขื่อนหินยักษ์)  เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเขตแดนของมลรัฐเนวาดา และมลรัฐแอริโซนา ในสหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำโคโลราโดไว้ตลอดปี เพื่อป้องกันอุทกภัยในฤดูหนาว เพื่อการชลประทานในเขตนั้น สงวนพันธ์ปลา และเพื่อผลิตพลังไฟฟ้าอีกด้วยเมื่อเปิดใช้ในวันที่ 1 มีนาคม ปี 1936 เขื่อนฮูเวอร์กลายเป็นเขื่อนคอนกรีตใหญ่ที่สุดในโลก และมันยังเป็นจุดเชื่อมระหว่างรัฐแอริโซนาและรัฐเนวาดา โดยมีถนนด้านบนเขื่อนพาดผ่าน ทำให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกมากขึ้น ปัจจุบันเขื่อนฮูเวอร์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางหลักที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา


Empire State Building

อาคารเอ็มไพร์สเตต

ตึกเอ็มไพร์สเตทเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและสะท้อนถึงความเป็นนิวยอร์ก อาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือเนื่องจากเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น “An Affair to Remember,” “King Kong,” และ “Sleepless in Seattle” อันที่จริงแล้ว ถือได้ว่า ตึกเอ็มไพร์สเตทเป็นอาคารระฟ้าที่มีความสำคัญและโรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของนิวยอร์กทีเดียว

ตึกเอ็มไพร์สเตทเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1931 และได้ช่วงชิงตำแหน่งอาคารที่สูงที่สุดของโลกจากตึกไครสเลอร์ที่เคยครองสถิติมาเป็นเวลา 40 ปี นิวยอร์กได้รับสมญานามว่าเป็น “เอ็มไพร์สเตท” เพราะเป็นชื่อที่นำมาจากอาคารแห่งนี้ สำหรับนิวยอร์กแล้ว ตึกเอ็มไพร์สเตทก็เปรียบได้กับหอไอเฟลที่มีความสำคัญต่อปารีส หรือหอคอยสเปซนีเดิลที่มีความสำคัญต่อซีแอตเทิล


ฮอลลีวูด

อาคารเอ็มไพร์สเตต

ฮอลลีวูดซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของอุตสาหกรรมบันเทิงโดยเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสถานที่สำคัญอย่างโรงภาพยนตร์ TCL Chinese Theatre และทางเท้าประดับดาว Walk of Fame โดยจุดที่ห้ามพลาด ได้แก่ บริษัท Paramount Picutres สถานที่แสดงดนตรีเก่าแก่อย่าง Hollywood Bowl และสถานที่จัดงานรางวัลออสการ์อย่างโรงละคร Dolby Theatre นอกจากนี้ยังมีคลับแสดงตลก บาร์สไตล์เรโทรเท่ๆ และไนท์คลับชั้นนำให้นักท่องเที่ยวได้เลือก อีกทั้งร้านอาหารที่ผู้คนในพื้นที่มักมาใช้บริการซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับไทยทาวน์ด้วย


วิหารเซนต์แพททริค (St. Patrick’s Cathedral)

ฮอลลีวูด

วิหารเซนต์แพททริค เป็นโบสถ์นิยายโรมันคาทอลิก ตกแต่งแบบนีโอโกธิค ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ศตวรรษที่ 19 เป็นมหาวิหารที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมประเพณี และวิหารแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของตัวอาคารที่มีงานศิลป์ที่สวยงามและกระจกสีที่หาได้ยากแล้วในสมัยนี้ มหาวิหารสามารถจุคนได้ถึง 3,000 คน มหาวิหารแห่งนี้ใช้เวลาสร้างหลายสิบปีก่อนจะเสร็จลงในช่วงปลายศตวรรษ 1800 และเคยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในแถบนั้น จนกระทั่งมีตึกสูงระฟ้าหลายแห่งล้อมรอบ


แอตแลนติกซิตี้

วิหารเซนต์แพททริค (St. Patrick's Cathedral)

แอตแลนติกซิตีเป็นเมืองรีสอร์ทในแอตแลนติกเคาน์ตีรัฐนิวเจอร์ซีย์สหรัฐอเมริกาซึ่งรู้จักกันในคาสิโนทางเดินริมทะเลและชายหาด  “แอตแลนติก ซิตี้” (Atlantic City) ที่นี่คือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีสีสันมาก เพราะใช่จะมีแค่ทะเลและชายหาด แต่ได้ถูกสร้างให้เป็นเหมือนแหล่งบันเทิงเทียบเท่าลาสเวกัสแห่งตะวันออก เราจะมองเห็นด้านหนึ่งเป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยผู้คนที่รักในการอาบแดด รักในกีฬาทางน้ำ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะเต็มไปด้วยสถานบันเทิงและคาสิโน ร้านค้าร้านอาหารที่เปิดรอต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ และตลอดทั้งปีก็จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอด เมื่อคุณไปที่นี่ความบันเทิงรออยู่แน่นอน


เมานาโลอา

แอตแลนติกซิตี้

ภูเขาไฟเมานาโลอา (Mauna Loa) เป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเนื้อที่ประมาณ 5,180 ตารางกิโลเมตร อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติฮาวาย รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา จัดเป็นภูเขาไฟมีพลังที่ยังไม่ดับสนิท โดยเกิดการระเบิดทุก ๆ 3 ปีครึ่ง และการระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อปี 2527


Space Needle

เมานาโลอา

Space Needle เป็นหอสังเกตการณ์ในซีแอตเติลวอชิงตันสหรัฐอเมริกา เป็นสัญลักษณ์ของ Pacific Northwest และไอคอนของ Seattle สร้างขึ้นในซีแอตเติลศูนย์งานเวิร์ลแฟร์ปี 1962 สูงถึง 184 เมตร ซึ่งดึงดูดผู้เข้าชมกว่า 2.3 ล้านคน มีผู้ใช้ลิฟท์ประมาณ 20,000 คนต่อวัน

ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดมีจุดเด่นเป็นร้านอาหารหมุนเวียน หมุนได้ 360 องศาและเสนอมุมมองที่ดีที่สุดของเมืองโดยเฉพาะยามค่ำคืนจะมีแสงไฟสวยงามมาก


พักที่ Waldorf Astoria Beverly Hills 

Space Needle

Waldorf Astoria Beverly Hills โรงแรมสุดหรูระดับโลกที่คุณจะได้ความรู้สึกเหมือนเป็นเซเลป ซึ่งโรงแรมนี้ตั้งอยู่ในเขตเบเวอลีฮีลล์ของลอสแอนเจลิส ห่างจาก Farmers ‘Market Los Angeles 5 กม. โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งนี้มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรี และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ผู้เข้าพักสามารถลิ้มลองอาหารอเมริกันและอาหารฝรั่งเศสได้ที่ห้องอาหารในสถานที่ ให้บริการอาหารเช้าแบบอเมริกันทุกเช้า สามารถเข้าใช้ศูนย์ออกกำลังกายได้ตลอด

โรงแรมแห่งนี้เคยให้การต้อนรับคนดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ควีนอลิซาเบ ธ ที่ 2 ป๊อปควีนมาดอนน่าแดน
บราวน์ (รหัส DaVinci) และอื่น ๆ อีกมากมาย แน่นอนที่นี่รักษาความลับผู้เข้าพักได้อย่างดีมาก


แม่น้ำมิสซิสซิปปี ( Mississippi River)

พักที่ Waldorf Astoria Beverly Hills 

เป็นเครือข่ายสาขาแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ(เครือข่ายแม่น้ำมิสซิสซิปปี-มิสซูรี) แม่น้ำมิศซิสซิปปี้ อยู่ตอนกลางของสหรัฐอเมริกา แม่น้ำมิสซิสซิปปีเริ่มต้นจากในรัฐมินนิโซตา และออกสู่ปากอ่าวเม็กซิโกที่ รัฐลุยเซียนา

มิสซิสซิปปีเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในสหรัฐอเมริกา จากแหล่งกำเนิดไปจนถึงอ่าวเม็กซิโกมีความยาวมากกว่า 4,100 กม.

การเดินทางทางเรือไปตามแม่น้ำจะเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจและเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการซึมซับบรรยากาศเก่าแก่ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในส่วนนี้ของอเมริกามากกว่าที่อื่น


มอนเทอเรย์

แม่น้ำมิสซิสซิปปี ( Mississippi River)

เมืองมอนเทอเรย์ (Monterey) เมืองชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวที่สวยงามและได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของมอนเทอเรย์เคาน์ตี้ (Monterey County)ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมอนเทอเรย์เบย์ (Monterey Bay) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงของ 26 ฟุต (8 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเล 

 เมืองมอนเทอเรย์ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และชื่อเสียงในเรื่องความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของชีวิตทางทะเล ซึ่งได้แก่ สิงโตทะเล , นากทะเล , สาหร่ายทะเล (สาหร่าย) , ปลาโลมา และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิม รวมไปถึงอุตสาหกรรมโรงงานปลากระป๋องที่มีชื่อเสียง แต่เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงทำให้โรงงานปิดตัวหมด เป็นอีกที่ที่น่าไปเที่ยวมากๆ


ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ

มอนเทอเรย์

ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ (Fisherman’s Wharf) ท่าเทียบเรือชาวประมงที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ ในปี 1960 เป็นตลาดขายส่งปลา ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารทะเล ร้านขายของที่ระลึก, ร้านเครื่องประดับ , หอศิลป์ , ห้างสรรพสินค้าขนาด และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีบริการแล่นเรือใบ ล่องเรือรับประทานอาหารค่ำแสนโรแมนติก รวมไปถึงการผจญภัยที่สนุกสนานเหมาะมากๆสำหรับการพาครอบครัวไปเที่ยว


Museum of Modern Art

ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ

Museum of Modern Art ตั้งอยู่ในย่าน Midtown Manhattan ณ มหานคร New York มีชื่อเล่นว่าพิพิธภัณฑ์ MoMA เป็นส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนารวมทั้งเป็นพิพิธภัณฑ์อันคอยเก็บรวบรวมงานศิลปะในสมัยใหม่ นอกจากนี้มันยังได้รับการยกย่องว่าส่งผลดีทรงคุณค่ามากที่สุดของศิลปะสมัยใหม่ งานศิลปะทั้งหลายที่ถูกรวบรวมไว้ยังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีทั้งศิลปะสมัยใหม่รวมทั้งงานศิลป์ร่วมสมัยผสมเข้าไว้ด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น งานสถาปัตยกรรม, ภาพวาด, งานปั้น, ภาพถ่าย เป็นต้น

ภายในอาคารยังมีห้องสมุดซึ่งรวบรวมหนังสือคุณค่า 300,000 เล่ม อันเกี่ยวข้องกับ หนังสือศิลปิน วารสาร รวมทั้งไฟล์งานมากกว่า 70,000 ศิลปินเลยทีเดียว แน่นอนว่ามีเนื้อหาอันเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย ส่วนสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ร้านอาหารซึ่งได้รับรางวัล ชื่อ The Modern ภายใต้การดูแลของพ่อครัวนามว่า Gabriel Kreuther อีกด้วย


สวนสัตว์บรองซ์

Museum of Modern Art

สัมผัสชีวิตสัตว์โลกน่าทึ่งที่สวนสัตว์บรองซ์ หนึ่งในสวนสัตว์ในใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่มีความสนุกสนานหลากหลายรูปแบบสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะมีทั้งเครื่องเล่น การแสดงน่าตื่นตาตื่นใจ และสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ

สวนสัตว์บรองซ์ก่อตั้งขึ้นศตวรรษที่ 19 โดยสัตว์เพียง 800 กว่าตัว และโซนจัดแสดง 22 แห่ง ปัจจุบัน สวนสัตว์แห่งนี้ได้ขยายอาณาเขตกว้างขวางกว่า 265 เอเคอร์ภายในสวนบรองซ์ และเป็นบ้านแสนสุขของสัตว์กว่า 6,000 ตัว


คีย์เวสต์

สวนสัตว์บรองซ์

คีย์เวสต์ เป็นเมืองทางใต้สุดของสหรัฐอเมริกาส่วนคอนติเนนทัล อยู่ใกล้กับฮาวานา เมืองหลวงของคิวบายิ่งกว่าไมอามีเสียอีก โดยอยู่ห่างจากฮาวานาเพียงประมาณ 140 กิโลเมตร คีย์เวสต์เป็นทั้งชื่อเกาะและชื่อเมือง ในอดีต ที่นี่เคยเป็นที่อาศัยของเหล่าโจรสลัด ฐานทัพเรือ และยังเป็นเมืองที่โปรดปรานของนักเขียนอเมริกันระดับตำนาน รวมถึงเออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์ ปัจจุบัน เกาะนี้ดูจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปอย่างถาวรเสียแล้ว ด้วยบาร์ ร้านอาหาร และชายหาดที่มีมากมาย คุณจะใช้เวลาสบายๆ อยู่ที่นี่ได้ไม่มีเบื่อ


อุทยานแห่งชาติ Mammoth Cave

คีย์เวสต์

อุทยานแห่งชาติ Mammoth Cave ในรัฐเคนตักกี้เป็นถ้ำที่ยาวที่สุดที่มีอยู่บนโลกของเรา เขาวงกตห้องโถงและทางเดินของถ้ำนี้มีความยาวประมาณห้าร้อยเก้าสิบกิโลเมตรทำให้ไม่สามารถเดินเอาชนะได้

 ที่นี่เป็นถ้ำสุดอลังการที่มีเพดานสูงและตื่นตาไปกับการเรียงตัวของหินปูน คุณจะเห็นหินงอกหินย้อยประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เมื่อจุดไม้ขีดไฟภายในถ้ำให้สว่างขึ้น คุณจะเจอค้างคาวบินไปมาเหนือศีรษะและบ่อน้ำตื้น ๆ ที่มีทั้งกั้งสีขาวตัวเล็ก ๆ และกุ้งที่อาศัยอยู่ในความมืดสนิท เมื่อออกมาด้านนอกคุณจะเจอกับต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม ถ้าคุณชอบถ้ำที่นี่โอเคเลย


อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี

อุทยานแห่งชาติ Mammoth Cave

อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบผาสูงตระหง่าน ในบริเวณเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา (Sierra Nevada) ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ เพราะนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความใหญ่มหึมาของหน้าผาหิน ยังมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ ทั้งแม่น้ำ ลำธาร ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ และสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่มากมาย จนได้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1984 ด้วย

ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวประมาณ 4 ล้านคนต่อปี เมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 5 ล้านคน ซึ่งทำลายสถิติโลกกันเลยทีเดียว มีร้านค้า ที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมมากมายคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว มีจุดให้ชมวิวสวยๆ ให้ได้เก็บภาพกันแบบรัวๆ จุดที่ต้องแวะเลยก็คือ Tunnel View มุมยอดฮิตที่สามารถชมวิวของอุทยานได้แบบพาโนรามา เราจะได้เห็นภาพของป่าสีเขียวและน้ำตกที่ถูกขนาบสองข้างด้วยหุบเขาขนาดใหญ่ สวยงามมากๆ


ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe)

อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี

ทะเลสาบทาโฮ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ อยู่ระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเนวาดาค่ะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในโลก มีทัศนียภาพงดงามตลอดทั้งปี โอบล้อมด้วยเทือกเขาสูง ปกคลุมด้วยหิมะ อากาศดีถึงขนาด Mark Twain ได้กล่าวไว้ว่า “To obtain the air the angels breathe, you must go to Tahoe.” ถ้าอยากได้อากาศบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้า ก็ต้องมาทะเลสาบทาโฮแห่งนี้


บิ๊กเซอร์ (Big Sur)

ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe)

บิ๊กเซอร์ ถูกจัดให้เป็นเส้นทางถนนที่วิวสวยที่สุดในอเมริกา และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกด้วยค่า แหม่ แค่เริ่มก็ไม่ธรรมดาซะแล้วว ถนนเส้นนี้อยู่เลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ทอดยาวมาตั้งแต่ทางตอนเหนือไปจนใต้สุดค่ะ ถึงทางจะคดเคี้ยวและมีโค้งเยอะหน่อยๆ แต่ขับไม่ยากนะคะ เพราะรถไม่เยอะ ขับได้ชิลๆ กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ตลอดทาง ทั้งวิวทะเล ภูเขา ทุ่งหญ้าสีเขียว ดอกไม้นานาชนิดตามทาง ทุ่งดอกป๊อปปี้กำลังบานสะพรั่ง เพลินตาเพลินใจมากกก และถ้ามองดีๆ อาจจะได้เห็นสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็น กวางหางดำ แรคคูน สกังก์ ด้วยค่ะ

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนที่ชื่นชอบการผจญภัย กิจกรรมก็มีทั้ง ล่องเรือดูวาฬ การเดินป่า ตั้งแคมป์ริมแม่น้ำ ซึ่งมีพร้อมทั้งที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ห้องอาบน้ำ บริการซักผ้า คอยอำนวยความสะดวกแก่ทุกคนอีกด้วย


อุทยานแห่งชาติเดธ วัลเลย์ (Death Valley National Park)

บิ๊กเซอร์ (Big Sur)

หลายคนๆ อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นกับอุทยานแห่งชาติเดธ วัลเลย์แห่งนี้ ต้องบอกเลยว่า มีสิ่งที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ โดยตั้งอยู่ในเขตพื้นที่หุบเขาที่ต่ำที่สุด และแห้งที่สุดในสหรัฐอเมริกา ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 282 ฟุต ครอบคลุมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเนวาดา อากาศของที่นี่คือร้อนมากกกก เคยร้อนสูงสุดถึง 56.7 องศา ต้นไม้ต่างๆ เหลือแต่กิ่งก้าน ณ จุดนี้คือรู้แล้วว่า ทำไมถึงได้ชื่อหุบเขาแห่งความตาย พออากาศร้อนมากๆ ทำให้น้ำในทะเลสาบระเหยออกไปหมด จนหลงเหลือเป็นผลึกเกลือสีขาว ทำให้เกิดเป็น ทะเลสาบเกลือ แบดวอเตอร์ บาซิน (Badwater Basin) ที่สวยงามนั่นเอง

ที่นี่เป็นความสวยงามแปลกตา แบบหาดูที่ไหนไม่ได้ ขับรถไประหว่างทางจะได้เห็นภาพของถนนและภูเขาตัดกับท้องฟ้าสีสดใส และวิวแบบในฉากภาพยนตร์เป๊ะๆ และเปิดให้เที่ยวได้ทั้งปี ซึ่งแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ช่วงที่นิยมมากันจะเป็นช่วงหน้าหนาว อากาศจะเย็นสบาย มีหิมะปกคลุมบนยอดเขา กับช่วง Super Bloom เป็นช่วงที่ทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งสวยงาม มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา แต่ไม่ได้มีให้เห็นทุกปีนะ ต้องแล้วแต่สภาพอากาศ แรงลม และปริมาณน้ำฝนด้วย ถ้าฝนตกมาก ก็จะมีดอกไม้บานให้ชมถ่ายรูปกันเพลินไปเลยทีเดียว


อุทยานแห่งชาติซิคัวย่า และอุทยานแห่งชาติคิงส์แคนยอน 

100 อันดับสถานที่ยอดนิยมที่สุดในอเมริกา 1

อุทยานแห่งชาติซิคัวย่า และ อุทยานแห่งชาติคิงส์แคนยอน ทั้ง 2 อุทยานนี้อยู่ใกล้ๆ กัน โดยเริ่มที่อุทยานแห่งชาติคิงส์แคนยอน อันโด่งดังในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขา เซียร์ราเนวาดา (Sierra Nevada) จุดเด่นของที่นี่ก็คือ หุบเขาคิงส์ริเวอร์ หรือ แม่น้ำกษัตริย์ (Valley of the Kings River) ซึ่งนับเป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในโลก! ลึกถึงประมาณ 2,500 เมตร ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์และงดงาม

มีถ้ำบอยเดน (Boyden Cavern) เป็นถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ มีกลุ่มหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และเป็นที่อยู่ของค้างคาวด้วย อีกจุดหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีก็คือ น้ำตกคิงส์แคนยอน (Kings Canyon Waterfalls) เดินมาเหนื่อยๆ ได้แวะพัก รับความสดชื่นจากน้ำตกก็ฟินไม่น้อย ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของคนที่ชอบการท่องเที่ยวผจญภัยแบบธรรมชาติ เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งเดินป่า ซึ่งจะมีทั้งระยะสั้นและระยะไกล ขี่ม้าในช่วงหน้าร้อน และตกกลางคืนก็สามารถนอนตั้งแคมป์ดูดาวได้อีกด้วย


เกาะอัลคาทราซ

อาคารเอ็มไพร์สเตต

เกาะอัลคาทราซ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางอ่าวซานฟรานซิสโก ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เกาะนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งประภาคาร ป้อมปราการของกองทัพ และยังเป็นคุกทหารจนถึงปี 1963 หลังจากนั้น เกาะอัลคาทราซก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ปัจจุบันนี้ เกาะอัลคาทราซเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์จากการอนุมัติโดยหน่วยงานอุทยาน แห่งชาติ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ “Golden Gate National Recreation Area” และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมโดยเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือ 33 ใกล้กับ ฟิชเชอร์แมนวาร์ฟ (Fisherman’s Wharf) ในซานฟรานซิสโก นอกจากนี้เกาะแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติในปี 1986


วอลล์สตรีท

วอลล์สตรีท

นี่คือถนนในแมนฮัตตันซึ่งเป็นตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) หลายคนบอกว่าที่นี่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลกและไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะนี่คือศูนย์กลางทางการเงินของอเมริกา ด้านหน้าอาคารของอาคารนี้มีธงชาติอเมริกันขนาดใหญ่ทอดยาวมักจะเต็มไปด้วยผู้คน นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1792 และจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม


พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิตัน

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิตัน

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิตัน เป็นแหล่งรวมศิลปะตั้งแต่ยุคโบราณ – ปัจจุบัน ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ที่มหานครนิวยอร์ก ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกก่อตั้งขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1870 เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่มีขนาดใหญ่มากศิลปะถึง 2 ล้านชิ้น ภายในพิพิธภัณฑ์มีแบ่งทั้งหมด 19 แผนก ส่วนในอาคารหลักจะเรียกกันว่า the met เป็นหอศิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้อำนวยการ ก็คือ ทอมัส พี. แค็มพเบลล์ เป็นหอศิลที่สะสมงานคลาสสิกต่างๆ รวมไปถึงศิลปะสมัยอียิปต์โบราณ , จิตรกรรม , ประติมากรรม ของทุกประเทศในยุโรปทางฝั่งตะวันตก รวมกับงานศิลปะสมัยใหม่ของอเมริกัน แล้วทางพิพิธภัณฑ์ก็ยังได้เป็นเจ้าของศิลปะจากทวีปแอฟริกาในหลายประเทศ ศิลปะของเอเชีย ศิลปะของหมู่เกาะปาซิฟิค แล้วก็ยังมีศิลปะในยุคโบราณของอาณาจักรไบเซนไทน์ และศิลปะของชาวมุสลิมอีกด้วย


ยอดเขาแมกคินลีย์ ตั้งอยู่ในรัฐอะแลสกา 

เดย์โทนาบีช

สหรัฐอเมริกา อยู่ในแนวเทือกเขาอะแลสกาซึ่งเป็นแนวต่อเนื่องมาจากแนวเทือกเขาร็อกกี เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ สูงถึง 6,194 เมตรจากระดับน้ำทะเล ยอดเขาแห่งนี้เป็นจุดเด่นกลางอุทยานแห่งชาติดีนาลิด้วยใครที่ได้มีโอกาสเดินทางไปอะลาสก้า ก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวยอดเขาอันสูงใหญ่แห่งนี้นะ


เดย์โทนาบีช

หุบเขาโมนูเมนต์

ที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองสุดคึกคัก Daytona Beach ที่นี่เป็นเมืองสำคัญที่มีคนอยู่ราว 61,000 คนและมีอะไรให้ดูมากมาย เช่น สวนสนุกบอร์ดวอล์ค สะพานเทียบเรือ ห้างสรรพสินค้า Volusia หากคุณยังมีเวลาอยู่บ้าง ลองแวะไปที่ สนามกอล์ฟ Daytona Beach และ สวนน้ำ Daytona Lagoon Waterpark


หุบเขาโมนูเมนต์

ชายหาดไวกิกิ

หุบเขาโมนูเมนต์ (Monument Valley) ตั้งอยู่ที่เส้นเขตแดนระหว่างรัฐยูทาห์กับรัฐแอริโซนาทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อหุบเขามีที่มาจากแท่งหินค้ำขนาดมหึมา ซึ่งกระจัดกระจายอยู่บนที่ราบไม้พุ่มอันแห้งแล้ง ภูมิภาคแถบนี้เต็มไปด้วยแท่งหินหรือซากหินที่หลงเหลือจากการสึกกร่อน นักธรณีวิทยาเรียกแท่งหินลักษณะดังกล่าวนี้ว่า”โมนูเมนต์”(โมนูเมนต์) ซึ่งมีลักษณะคล้ายสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุยษ์เช่น ตึกสูง หินแท่งรูปร่างแปลกตาจำนวนมากเหล่านี้ถูกเรียกขานว่า”หินรูปประสาท”ซึ่งเป็นแท่งหินที่มีลักษณะยอดราบ หรือเรียกอีกอย่างเนิน”เมซา”(mesa) สูงกว่า 300 เมตร และด้านบนมีหินคล้ายใบเสมาปรากฏอยู่ นอกจากนี้ยังมี”หินรูปถุงมือ”ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินยอดป้านดูคล้ายนิ้วมือทั้งสี่ ไม่ไกลมีแท่งหินรูป”แม่ไก่ในรัง” ถัดมาเป็น”เนินยอดบ้านเมอร์ริค”และ”เนินยอดบ้านมิตเชล” และมี”หินรูปแม่อธิการ”และ”หินแม่ชีทั้งสาม”ซึ่งทั้งสองเนินเป็นหินที่สูงที่สุดในกลุ่มแท่งหิน สูงกว่า 245 เมตร


ชายหาดไวกิกิ

ฟิฟท์ อเวนิว

เพียงเท้าสัมผัสทรายสีขาวสะอาดของชายหาดไวกิกิ คุณก็ทราบได้ทันทีว่ามาถึงฮาวายแล้ว แช่เท้าในน้ำอุ่นๆ ของทะเลแปซิฟิก ชมนักโต้คลื่นวาดลวดลายบนเกลียวคลื่น หรือจะนั่งปล่อยอารมณ์ใต้ร่มเงาต้นปาล์ม และมองเนินเขาสีเขียวของไดมอนด์เฮด ถ้าคุณชอบว่ายน้ำ แนะนำให้ไปด้านตะวันตกของชายหาด ที่นั่นมีแนวปะการังล้อมเป็นบึงธรรมชาติ ตรงนี้เป็นบริเวณที่ปลอดภัยมากที่สุด เพราะอยู่ห่างจากคลื่นและบรรดากระดานโต้คลื่นด้วย

ถ้าคุณอยากลองโต้คลื่น ชายหาดไวกิกิเป็นที่ที่เหมาะที่สุด เกลียวคลื่นที่นี่ค่อนข้างนุ่มนวลเหมาะสำหรับมือใหม่ แถมตามชายหาดจะมีเพื่อนๆ นักโต้คลื่นใจดีคอยให้คำแนะนำคุณ หัดโต้คลื่นเสร็จแล้ว ลองเดินไปสำรวจรูปปั้น Duke Kahanamoku ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวจริง ยืนอ้าแขนตรงทางเดินด้านหลังชายหาด “ท่านดยุค” เป็นอดีตแชมป์ว่ายน้ำโอลิมปิก และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ริเริ่มกีฬาโต้คลื่นของโลก


ฟิฟท์ อเวนิว

ภูเขาไฟคีเลาเวอา

ถนนฟิฟท์ อเวนิวในเมืองแมนฮัตตันแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่มีร้านรวงราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยทอดยาวจากมิดทาวน์ในแมนฮัตตัน ช่วงถนนสายที่ 49 และ 60 ของฟิฟท์ อเวนิวเป็นที่ตั้งของร้านค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกและเป็นจุดหมายของขาช้อปทั่วทุกมุมโลก แม้ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องการช้อปปิ้ง แต่กลับมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมความงามของเมืองมาเยี่ยมชมมากกว่านักช้อป เพราะที่นี่มีสถานที่น่าสนใจให้ชมมากมายเช่นกัน

แน่นอนที่สุดหากคุณชอบช้อปต้องไปที่นี่!!


ภูเขาไฟคีเลาเวอา

อุโมงค์น้ำแข็งอลาสก้า

ภูเขาไฟคีเลาเวอา เป็นภูเขาไฟรูปโล่และเป็นภูเขาไฟมีพลังในเกาะฮาวาย เป็นหนึ่งในภูเขาไฟ 5 ลูกที่ประกอบกันเป็นเกาะฮาวาย ตั้งอยู่แนวชานฝั่งทางตอนใต้ของเกาะมีอายุระหว่าง 300,000 ถึง 600,000 ปี ยอดของภูเขาไฟลูกนี้โผล่พ้นระดับน้ำทะเลเมื่อประมาณ 100,000 ปีก่อน ถ้าคุณชอบชมภูเขาไฟที่นี่ตอบโจทย์คุณได้เช่นกัน


อุโมงค์น้ำแข็งอลาสก้า

ทุ่งดอกบลูเบล

อุโมงค์น้ำแข็งอลาสก้า ยาวกว่า 19 กิโลเมตรนี้ ตั้งอยู่ที่หุบเขา Mendenhall ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Juneau รัฐ
อลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกาออกไป ก้อนน้ำแข็งน้อยใหญ่จำนวนมหึมาแขวนตัวลอยอยู่ในอากาศ น้ำแข็งบางส่วนที่ละลายสร้างธารน้ำไหลลอดลงสู่โตรกหินด้านล่าง เป็นความอลังการจากธรรมชาติที่น่าไปชมจริงๆ


ทุ่งดอกบลูเบล

นาปา วาเล่ย์

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมืองวิลโลว์ เมืองเล็กๆ ในรัฐเท็กซัสแห่งนี้ กลับกลายเป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามมากๆ อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะทุ่งดอกบลูเบลที่สวยงามมากๆ ทำให้ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่น่ามาเที่ยวมากๆ สำหรับคนที่ชอบความสวยงามของดอกไม้ใบไม้ ธรรมชาติ และอากาศดีๆรับรองฟิน


นาปา วาเล่ย์

เอวาลอน เกาะซานตา คาตาลินา

แหล่งผลิตไวน์ชื่อดังของประเทศ อยู่ห่างจากซานฟรานซิสโก 100 ก.ม.นอกจากจะไปทัวร์ชมไร่องุ่น และทุ่งดอกมัสตาร์ดสวยงาม ชิมไวน์รสเลิศ ร้านอาหารในแถบนี้ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอาหารฝรั่งเศส และหากอยากจะพักเหนื่อยผ่อนคลายความเมื่อยล้า บ่อโคลนบำบัดผิวและร่างกาย โคลิสโตกา (Calistoga) ก็อยู่ไม่ไกลเช่นกัน


เอวาลอน เกาะซานตา คาตาลินา

เพียร์ 39 ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ

จุดเด่นของเมืองนี้ คือ ตึกรามบ้านช่องในสถาปัตยกรรมเก่าที่สูงไม่เกิน 3 ชั้น ตั้งลดหลั่นเรียงรายกันลงมาจากเนินไหล่เขา มีความสวยงามอย่างมากและเป็นภาพในโปสการ์ดต่างๆ มากมาย เมืองนี้มีทั้งคาสิโนในตึกเก่าสไตล์ อาร์ต เดโค (Art Deco) ชื่อดัง อันเป็นศูนย์รวมของพิพิธภัณฑ์ โรงละคร ห้องโถงเต้นรำอีกมากมาย สถานที่พักตากอากาศลือชื่อ และสถานที่ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ เป็นแหล่งเดินป่าชื่อดัง มีจุดชมวิวสัตว์ป่าหายาก เช่น วัวกระทิงอเมริกัน กระรอกดินแคลิฟอร์เนีย นากทะเลที่กำลังสูญพันธุ์ และอื่นๆอีกจำนวนมาก


เพียร์ 39 ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ

ลาสเวกัส (Las Vegas) รัฐเนวาดา (Nevada)

จุดพักนักท่องเที่ยวยอดฮิต เป็นสะพานปลา-ท่าเรือที่สามารถมองเห็นอ่าวซานฟรานซิสโกได้ และมาซานฟรานซิสโกทั้งทีต้องมาชิมซุปหอย เคลม ชาวเดอร์ (Clam chowder) ที่ท่าเรือยอดฮิตแห่งนี้ นอกจากร้านอาหารมากมาย ก็ยังมีร้านสินค้าต่างๆ ร้านช็อกโกแลตยอดนิยมจิอาเดลลี่ (Ghirardelli) และพิพิธภัณฑ์ในบริเวณใกล้เคียงกันด้วย


ลาสเวกัส (Las Vegas) รัฐเนวาดา (Nevada)

เดินเที่ยวย่านบรอดเวย์

เมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายแต่อัดแน่นไปด้วยคาสิโนรีสอร์ทชื่อดัง โรงแรมสุดหรู และโชว์ระดับโลกสุดอลังการ นอกจากนี้ยังมีเขื่อนฮูเวอร์ (Hoover Dam) เขื่อนยักษ์ที่เคยใช้ถ่ายทำภาพยนต์ทรานสฟอเมอร์และซุปเปอร์แมน พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมันดาเลย์ (Mandalay Bay Shark Reef) หน้าผาหินแดงเรดร็อค (Red Rock Canyon) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ป้ายไฟนีออนมิวเซียม (Neon Museum) ที่น่าสนใจ ที่สำคัญคุณต้องไม่พลาดการแสดงโชว์แสงสีเสียงที่มีให้นักท่องเที่ยวดูฟรีๆ ที่หลายโรงแรมจัดมาประชันกันเพื่อเรียกลูกค้ายามค่ำคืน


เดินเที่ยวย่านบรอดเวย์

เดินชิลๆย่านไทม์สแควร์

บรอดเวย์ เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวสำคัญของนิวยอร์ค ย่านนี้เป็นที่ตั้งโรงละครกว่า 40 แห่ง กลางคืนถนนจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟนีออนหลากสีจากป้ายชื่อ ป้ายโฆษณาโรงละครต่างๆ ละครเพลงบรอร์ดเวย์คือวัฒนธรรมทางดนตรีของสหรัฐฯที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะละครเพลง มีอิทธิพลขนาดถูกนำมาตั้งเป็นชื่อถนนและชื่อย่าน ด้านธุรกิจละครบรอร์ดเวย์ของที่นี่ได้รับความนิยมเพราะมีสายสัมพันธ์กับฮอลลีวู้ด นักแสดงฮอลีวู้ดหลายคนแจ้งเกิดจากที่นี่ ส่วนนักแสดงหลายคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็เลือกที่จะมารับงานเล่นละครเวทีเพื่อฝึกทักษะหรือหารายได้พิเศษ การเข้าชมละครเวทีที่นี่จึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด


เดินชิลๆย่านไทม์สแควร์

เที่ยวย่านอัปเปอร์อีสต์ไซด์

ไทม์สแควร์  อีกหนึ่งย่านแห่งความครึกครื้น นิยามความเป็นเมืองที่ไม่หลับไหลได้ดี เพราะแสงสีของไฟยามคํ่าคืนของที่นี่เป็นจุดซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชม  ย่านไทม์สแควร์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นนิวยอร์คที่แท้จริง แม้จะดูสับสนวุ่นวาย แต่ที่นี่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ ย่านนี้ตั้งชื่อตามหนังสือพิมพ์ The New York Times ที่ย้ายสำนักงานใหญ่มาที่นี่ในปี 1904 ไทม์สแควร์จะมีการเปิดไฟสว่าง 24 ชั่วโมง มีข่าวตัวอักษรวิ่ง ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์และป้ายโฆษณาเคลื่อนไหวตลอด สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจคือพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ และในช่วงปีใหม่ไทม์สแควร์เป็นจุดเคาน์ดาวน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก


เที่ยวย่านอัปเปอร์อีสต์ไซด์

ทานแฮมเบอร์เกอร์ที่ Aucheval

อัปเปอร์อีสต์ไซด์ ตั้งอยู่ระหว่างเซ็นทรัลพาร์คและแม่น้ำอีสต์ คือย่านทันสมัยของนิวยอร์ค เอกลักษณ์เป็นอาคารบ้านเรือนที่สร้างจากอิฐสีน้ำตาลอมแดง อัปเปอร์อีสต์ไซด์คือย่านที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้สูง แต่ก็พอจะมีโอกาสหา โรงแรม ที่พัก หรือ โฮมสเตย์ ได้บ้าง จุดเด่นของย่านนี้อยู่ที่ความใกล้เซ็นทรัลพาร์คแบบเดินไม่กี่ก้าว โดยสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์คถือเป็นโอเอซิสของเมืองนิวยอร์ค มีพื้นที่กว่า 843 เอเคอร์ ภายในมีทั้ง สวนสัตว์ ร้านอาหาร ม้าหมุน โรงละครกลางแจ้ง ลานสเก็ตน้ำแข็ง และอ่างเก็บน้ำ กิจกรรมที่ชาวนิวยอร์คเกอร์ชอบทำมีทั้ง การวิ่งออกกำลังกาย ขี่จักรยาน ถีบเรือปั่น เดินเล่น ปิ๊กนิก และนั่งพักผ่อน ฤดู ที่สวยงามคือ ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง


ทานแฮมเบอร์เกอร์ที่ Aucheval

ทานแฮมเบอร์เกอร์ที่ Aucheval

แฮมเบอร์เกอร์ของร้าน Aucheval เป็นอะไรที่เลอค่ามาก ร้านนี้ดังถึงขั้นต่อแถวนานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว จุดเด่นคือเป็นร้านไดเนอร์วินเทจ ร้านไม่ใหญ่มาก เมนูดังก็คือชีสเบอร์เกอร์ที่ฉ่ำมาก ๆ เนื้อคุณภาพดีคุ้มค่ากับการรอคอย แต่ถ้าคุณไม่อยากรอคิวนาน ๆ ร้านนี้มีอีกสาขาชื่อว่า Small Cheval ซึ่งเบอร์เกอร์ไม่ได้ต่างอะไรมากเพราะใช้วัตถุดิบจากแหล่งเดียวกัน


ทานอาหารไทยที่ Isaan Station Thai Street Food อีสานสเตชั่น

ทานอาหารไทยที่ Isaan Station Thai Street Food อีสานสเตชั่น

ร้านอาหารไทยค่อนข้างดังที่LA ร้านนี้เน้นขายอาหารอีสาน ส้มตำ ไก่ทอด น้ำตก อาหารจานค่อนข้างใหญ่ นอกจากอาหารอีสานยังมีขายอาหารจานเดียว ราคาเริ่มประมาณ $8 เมนูเด็ดก็อย่างเช่น ข้าวกระเพราหมู จานใหญ่มากๆ เทียบเท่าบ้านเรา3เท่า ส้มตำไทยรสจัด เน้นเปรี้ยว/หวาน คอหมูย่างอร่อยเด็ดอร่อยมากเหมือนทาน
สเต๊กหมูเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นเตาถ่านย่าง น้ำจิ้มเเจ่วก็อร่อย ไปLA อย่าลืมร้านนี้

Kongrath
Kongrath

The inspiration about writing comes from hour and hour of constant work because I want to make contribution to the world.

Top Best Brand สุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด
Logo