10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม

การแต่งหน้าคือกิจกรรมที่ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็สามารถทำได้ แต่ให้เกิดความเป๊ะที่สุดก็ต้องฝึกฝนอยู่เป็นประจำ พร้อมเลือกอุปกรณ์การแต่งหน้าที่มีคุณภาพ มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น เพื่อจะได้รู้ว่าแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด วันนี้จึงขอพามารู้จักกับหนึ่งในผลิตภัณฑ์ช่วยให้ริมฝีปากสวยยิ่งกว่าเดิม บางคนอาจคิดว่ามีแค่ลิปสติกหรือลิปกลอสที่ทำให้ริมฝีปากเราสวยโดดเด่นอย่างเดียว ซึ่งไอเทมที่ว่ายังมี ‘ลิปทินต์’ อยู่ ตัวนี้ใช้ง่ายและสะดวกต่อการใช้สุด ๆ แถมยังให้สีสวยงามกว่าลิปบาล์มและลิปมันเปลี่ยนสีด้วย ที่สำคัญช่วยให้การลงสิปสติกติดทนนานหรือมีสีชัดกว่าเดิม หรือใครชอบทาครั้งเดียวได้สีที่ติดทน ดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ริมฝีปากหนักหรือเหนะหนะเกินไป แนะนำ 10 แบรนด์ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเพียบ คุ้มกับคุณภาพได้เลย พร้อมเทคนิคการเลือกและความรู้เกี่ยวกับลิปทินต์ก่อนใช้งาน คุณจะได้สวยแบบใช่กว่าใครกันเลย!

ลิปทินต์ (Lip Tint) คืออะไร ต่างจากลิปสติกทั่วไปอย่างไร

ลิปทินต์ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปาก ที่ให้สีเป็นธรรมชาติ มีเนื้อสัมผัสบางเบา ติดทนนานกว่าลิปสติกทั่วไป ซึ่งลิปทินต์จะไม่มันวาวเหมือนลิปกลอส และไม่กลบสีปากเดิมมิดเท่ากับลิปสติก แต่ก็นิยมใช้คู่กันเพื่อเพิ่มความแวววาวดูอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี  แลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ริมฝีปากแบบอื่น ๆ คนที่ชอบลุคธรรมชาติแต่งหน้านิดก็ดูดี ลิปทินต์ตอบโจทย์คุณได้ ปัจจุบันหลายแบรดน์พัฒนารูปแบบลิปให้มีความหลากหลายขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ได้ลุคสวยตามต้องการก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับตอนนั้นที่สุด ซึ่งก่อนที่จะไปดูว่าลิปทินต์น่าใช้มีแบรดน์อะไรบ้างนั้น เราควรทราบความต่างของลิปแต่ละแบบกันก่อน

  • ลิปเนื้อแมท หรือเนื้อกำมะหยี่ สีมีความเข้มข้น สวยงาม เด่นชัด ทาแล้วติดทนนาน แต่ไม่มันวาวเหมือนลิปประเภทอื่น
  • ลิปเนื้อครีม มีความเป็นครีม เม็ดสีชัดไม่แพ้ลิปเนื้อแมท เหมาะกับสาว ๆ ที่ที่มีริมฝีปากได้รูป แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากหนา
  • ลิปกลอส มีความมันวาว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและอวบอิ่มได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาปากแห้ง แตก เป็นร่อง เป็นขุย
  • ลิปเนื้อเชียร์และเนื้อซาติน มีสีสันบางเบา ไม่เข้มเหมือนเนื้อครีม ทาทับได้หลายครั้งตามต้องการ เหมาะกับคนที่ชอบลุคใสๆ น่ารักแบบธรรมชาติ
  • ลิปลิควิด มีลักษณะเหลวแบบลิควิด เม็ดสีชัด ติดทนนาน มีให้เลือกทั้งแบบเนื้อแมตต์และเนื้อมันวาว
  • ลิปบาล์ม เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นโดยเฉพาะ มีทั้งแบบมีสีและไม่มี มักใช้ทาก่อนทาลิปสติกทั่วไป หรือลิปแบบอื่นก็ได้
  • ลิปไลเนอร์ เขียนเน้นให้เรียวปากดูคมชัดขึ้นและทาลิปสติกง่ายกว่าเดิม ที่สำคัญควรเลือกสีให้ตรงหรือใกล้เคียงกับลิปสติกที่ทามากที่สุด
  • ลิปฟรอสตี้ มีส่วนผสมของกลิตเตอร์ สีชัดและไม่มันวาวเกินไป ทาแล้วดูเปล่งประกายมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีริมฝีปากบางมาก
  • ลิปเมทัลลิก สีมีความเข้มข้นและมีประกายของเนื้อมุก ทาแล้วดูอวบอิ่ม แต่ไม่มันวาวเหมือนเนื้อกลอส
  • ลิปทินต์ ทาแล้วริมฝีปากดูสวยเด่น ให้สีชัดกว่าแต่ไม่วาวเท่าลิปกลอส จึงนิยมนำมาใช้คู่กัน โดยทาทินต์ไว้ด้านในริมฝีปาก และทาลิปกลอสให้ทั่วริมฝีปากอีกที

ลิปทินต์มีกี่แบบ

แม้ลิปทินต์จะไม่ใช่ลิปสติก แต่ทำให้ริมฝีปากดูมีสีสัน ดูสุขภาพดีมีเลือดฝาก สามารถใช้เดี่ยว ๆ ใช้คู่กับลิปกลอสก็ได้   มีให้เลือกหลากหลายสี เช่นสีชมพู สีสตรอเบอร์รี่ สีส้มหรือสีแดง เป็นต้น ก่อนใช้งานจึงควรรู้ก่อนว่าลิปทินต์มีกี่แบบ

  • ลิปทินต์แบบ Oil มีส่วนผสมของน้ำมัน ทาแล้วได้ลุคฉ่ำวาว รักษาความชุ่มชื้นได้ดี สีเป็นธรรมชาติ มีความแวววาวกว่าลิปทินต์ประเภทน้ำ มีเนื้อสัมผัสคล้ายลิปกลอส
  • ลิปทินต์แบบ Gloss มีคุณสมบัติและเนื้อสัมผัสคล้ายกับลิปสติก ช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่ม แต่ระดับความติดทนของสีน้อย จึงควรทาซ้ำระหว่างวัน
  • ลิปทินต์แบบ Balm ทาง่าย มีน้ำหนักเบาและมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น ทาแล้วริมฝีปากดูนุ่มและฟูขึ้น เหมาะกับมือใหม่หัดแต่งหน้า
  • ลิปทินท์แบบ Matte มีความบางเบาสูง และปกปิดได้ยาวนานไม่แพ้ลิปทินต์แบบอื่น ทาแล้วไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดรอยแตก รอบพับหรือร่องเลย เพราะรูปลักษณ์ของลิปเป็นสไตล์เคลือบ
  • ลิปทินต์แบบ Liquid นิยมมากที่สุดแม้จะไม่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น แต่จะทำให้ริมฝีปากดูมีสีสวยงามและติดทนนานตลอดวัน เนื้อสัมผัสคล้ายเนื้อแมท เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งริมฝีปากให้มีสีเข้ม หรือต้องการแต่งไล่ระดับสี
  • ลิปทินต์แบบ Velvet มีลักษณะเป็นเนื้อกำมะหยี่เนียนนุ่ม แวววาวกำลังดี ทาแล้วไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งและวาวจนเกินไป คือทาแล้วได้ลุคธรรมชาติมากกว่า สามารถทาเดี่ยว ๆ ได้เลยเพราะกลบสีปากเดิมได้มิด
  • ลิปทินท์แบบลอกออก ทาแล้วดูสดใส ฉ่ำ และติดทนนานกว่าแบบอื่น วิธีใช้คือให้ทาเคลือบริมฝีปากหนา ๆ ทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที แห้งแล้วลอกออก เพื่อผลลัพธ์ให้สีชัดมากขึ้น รวมถึงดูชุ่มชื่นอวบอิ่มกว่าเดิม ควรทาลิปบาล์มทับให้ทั่ว ๆ ตลอดวัน

เทคนิคเลือกลิปทินต์ให้ดีที่สุด

  1. เลือกจากรูปแบบของลิปทินต์ จากข้างต้นจะเห็นแล้วว่าลิปทินต์นั้นมีอยู่ 7 แบบ แต่ละแบบต่างมีคุณสมบัติ เนื้อสัมผัส เทคนิคการทา และความเหมาะกับรูปแบบริมฝีปากของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
  2. ดูจากโทนสีผิวของตัวเอง แบ่งออกเป็น สีแทนหรือโทนอบอุ่น สังเกตง่าย ๆ ด้วยการลองดูแขนเมื่อโดนแสงแดด จะมองเห็นเส้นเลือดสีเขียว คุณจึงเหมาะกับลิปทินต์สีน้ำตาล สีแดง สีส้มหรือสีพีช ส่วนผิวสีอ่อนหรือเป็นโทนเย็น สังเกตุจากการที่แขนโดนแสงแดดแล้วปรากฎเส้นเลือดใต้ผิวออกสีฟ้า จึงควรเลือกลิปทินต์โทนเย็น เช่น สีม่วง สีแดงหรือสีชมพู
  3. ดูส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นว่ามีหรือไหม และมีสารที่อันตรายกับผิวอยู่หรือเปล่า เพื่อให้ริฝีปากดูชุ่มชื่นสุขภาพดีจริง อย่าเห็นเพียงแค่ราคาที่ถูก หรือเห็นว่าสร้างสีชัดมากกว่าการให้ชุ่มชื่นเพียงอย่างเดียว พร้อมหลีกเลี่ยงส่วนผสมอันตรายอย่างนิกเกิล โลหะ หรือสารตะกั่วด้วย
  4. ควรเลือกลิปมีมาตราฐานรับรองความปลอดภัยอย่างชัดเจน มีผลการทดสอบ หรือมีรีวิวน่าเชื้อถือให้ศึกษาก่อน
  5. เลือกจากบรรจุภัณฑ์และความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งบางคนอยากพกพาไปเติมระหว่างวัน จึงควรดูน้ำหนัก วัสดุแตกง่ายหรือเปล่า สามารถทาในตอนนั้นได้เลยหรือไหม เช่น บนรถ ในลิฟต์ จะสะดวกแค่ไหน เป็นต้น

ทาลิปทินต์อย่างไงให้เป๊ะที่สุด

  • เตรียมริมฝีปากก่อนทา ด้วยการสครับขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเป็นประจำ อาจใช้ลิปสครับ แปลงสีฟันหรือบางอันมีที่ขัดอยู่ด้านหลังแปลงมาขัดเบา ๆ ตามด้วยการมาส์กริมฝีปากต่อยิ่งดี
  • ทาลิปมันหลาย ๆ ชั้นก่อนทาลิปทินต์ เพื่อรักษาความชุ่มชื่น เนียนนุ่น ทาแล้วได้สัมผัสเรียบสม่ำเสมอ
  • ใช้ลิปกลอสทาทับอีกครั้ง เพื่อสร้างความชุ่มชื่น แวววาว สดใส แลดูเด็กลงอย่างที่ต้องการ แต่หากไม่ชอบให้มันวาวมาก ให้ใช้แค่ลิปมันหรือลิปบาล์มพอ
  • ไม่ควรใช้นิ้วมือเกลี่ยสีลิป ควรใช้อุปกรณ์ที่ให้มากับบรรจุภัณฑ์เกลี่ยแทน สีจะดูสม่ำเสมอกว่า
  • สาว ๆ ที่มีริมฝีปากใหญ่หรือลงสีลิปหนักเกิน แนะนำให้ใช้แปรงปัดแป้งฝุ่นปัดที่ขอบปาก สีของลิปจะออกมาฟุ้งดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • ควรทาแบบไล่ระดับสี เพื่อเพิ่มความละมุน ไม่ให้ริมฝีปากดูมันเยิ้มหรือมีสีจัดจ้านมากไป และควรใช้คอนซีลเลอร์กลบสีของริมฝีปากก่อน เมื่อทาลิปทินต์แล้วจะยิ่งทำให้สีลิปตรงปกมากขึ้น

10 แบรนด์ลิปทินต์คุณภาพดี การันตรีจากบิวตี้บล็อคเกอร์ ปากสวยจนต้องมอง

Etude House : Dear Darling Water Gel Tint

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 2

ลิปทิ้นท์ในตำนานของ ETUDE มีสีให้เลือกมากมาย และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ โดยทินต์ที่นำมาแนะนำนี้มีสีแน่น เป็นลิปทินท์เนื้อเจลบางเบา เกลี่ยง่าย ได้รับการเคลมว่าสีติดทนนานมาก ยิ่งโทนสีเข้มยิ่งติดดี เพราะด้วยปริมาณเม็ดสีเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ทาได้ท้งแก้มและปาก มาพร้อมกลิ่นฟรุ้ตตี้หอม ๆ จากส่วนผสมของสารสกัดผลไม้หวานฉ่ำ เช่น สารสกัดจากทับทิมอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินผสานกับสารสกัดจากเบอร์รี่  ริมฝีปากจึงชุ่มชื่นแลดูสุขภาพดี

ทิ้นต์ตัวดังขายดีทั้งในเกาหลีและไทยได้มาใน Packaging โฉมใหม่ เพิ่มขนาดแต่ราคาเท่าเดิม มีปริมาณความจุที่เพิ่มขึ้น 4.5g > 5g ปากขวดที่สูงขึ้นช่วยทำให้เนื้อทิ้นต์ไม่ไหลออกมาด้านนอก และล่าสุดรุ่นใหม่กับมอยเจอร์ทิ้นต์ให้สีหวานสดใสเหมือนไอศกรีม ช่วยให้ความสดชื่นเหมือนไอศกรีมที่ละลายบนริมฝีปาก หรือใครอยากลองทิ้นท์ตัวขายดีของ ETUDE ในคอนเลคชั่น Muhly Romance ก็ออก 2 เฉดสีใหม่ให้กลิ่นอายความโรแมนติกในตัว

ชื่อแบรนด์ : The Face Shop

ปริมาณสุทธิ : 5 g.

ราคา : แท่งละ 200 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ etude, konvy, Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


A’Pieu : Water Light Tint

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 3

ลิปทินต์แบบจุ่มของเกาหลีที่หลายคนแนะนำ เพราะมีสีสันสดใส ติดทนนานตลอดวัน ทาง่าย น้ำหนักเบา เหมือนได้เติมน้ำให้กับริมฝีปาก จึงดูอวบอิ่มชุ่มชื้น แลดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญตัว Packaging ยังเหมือนคู่แฝดแบรนด์ YSL แต่ราคาถูกกว่า 5 เท่า มือใหม่หัดทาใช้ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาสีตกร่องหรือเป็นขรุยเลย เพราะจากส่วนผสมของน้ำและน้ำมันที่มีทำให้ริมฝีปากเจิดจรัสน่ามองแทน

ตัวนี้มีให้เลือกด้วยกัน 16 เฉดสี ซึ่งตัวขายดีของรุ่นก็คือเบอร์ #RD03 เป็นสีแดงตุ่น ๆ นู้ดๆ เม็ดสีแน่น ทาออกมาแล้วรับรองว่าสวยไม่ผิดหวัง พร้อมช่วยให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี เนียนสวย ชุ่มชื่น แวววาว อวบอิ่ม บวกกับกลิ่นหอมผลไม้แสนน่ากิน หรือจะลองเบอร์ RD04 ก็จะออกเป็นสีแดงตุ่น ๆ เชอร์รี่ที่ฉ่ำมาก สวยมากและติดทนมากไม่แพ้กัน ที่สำคัญทาแล้วไม่หนักปาก

ชื่อแบรนด์ : A’pieu

ปริมาณสุทธิ : 5 g.

ราคา : แท่งละ 470 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์  Lazada, Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


Peripera : INK VELVET

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 4

ทินต์สีเข้มแต่น้ำหนักเบา เม็ดสีมีความคมชัดติดแน่นทนนานราวกับวิปครีม เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทาลิปหนาจนรู้สึกว่าหนักไป ลักษณะเป็นครีมแมทเนื้อกึ่งกำมะหยี่บางเบา นุ่มลื่น เกลี่ยไล่ระดับสีได้ง่ายด้วยหัวพู่กันขนาดพอเหมาะที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งตึง แตกหรือเป็นขุย เช่น วิตามินอี, น้ำมันเมล็ดฝ้าย, น้ำมันชาเขียว, น้ำมันมะม่วง และอีลาสโตเมอร์ช่วยเติมเต็มรอยแยกของริมฝีปากให้เรียบเนียนอย่างที่ต้องการ บวกกับส่วนผสมของโอลีฟออยล์, มารีนคอลลาเจน, ออแกนิค โจโจบาออยล์, กรดไฮยาลูโรนิค และสารสกัดจากดอกอานิก้า ก็ยิ่งทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นเปล่งปลั่งนุ่มเนียนกว่าเดิม ที่สำคัญแทบไม่ต้องทาซ้ำหลังรับประทานอาหารเลย เพราะสีคมชัดติดทนยาวนานจริง

ชื่อแบรนด์ : Peripera

ปริมาณสุทธิ : 4 g.

ราคา : แท่งละ 299 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ Lazada, Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


Mamonde : Highlight Lip Tint Matte

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 5

ลิปทินต์เนื้อครีมที่ให้ฟินนิชสีสวยงาม มาในสองเนื้อสัมผัสให้ได้เลือก คือ TINT MATTE และ TINT VELVET ทั้งสองตัวต่างมีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม บางเบา ดูเป็นธรรมชาติ ทาแล้วริมฝีปากสบายติดทนแบบไม่ต้องเติมบ่อยระหว่างวัน โดยรุ่นนี้ แบ่งเป็นเนื้อแมท 5 เฉดสี อีก 10 สีเป็นเนื้อเวลเว็ต รูปแบบ Packaging มีความกระทัดรัด  ใช้ง่ายแค่หมุนออกมาก็ใช้ได้เลย โดยมีหัวแปรงช่วยเกลี่ยเนื้อลิปได้ดีกว่าเดิมอยู่ ตัวเม็ดสีชัด พร้อมเก็บความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากไม่แห้งแตกระหว่างวัน

เนื้อครีมจะเป็นฟินนิชแบบแมตต์ เนื้อเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ไม่จับตัวเป็นก้อน มีถึงสีสันสดใส 5 เฉดสี ทาแล้วยังคงความเนียนนุ่มและเรียบเนียนอยู่ ให้สีที่ชัดเจนและติดทนทั้งวัน (ให้ผลลัพธ์แบบแมตต์) โดยไม่เลือนหรือหลุดร่อน มอบสีสันสดใสดูเป็นธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก ไม่ทำให้ปากแห้ง แต่หากใครชอบเนื้อเบาสบาย ฉ่ำวาว ดูอวบอิ่มและเซ็กซี่ในตัว ขอแนะนำให้ใช้แบบเวลเว็ตแทน เพราะตัวนี้มีเท็กซ์เจอร์เนื้อครีมโกลว์เป็นธรรมชาติ ทาแล้วริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื้นตลอดวัน ด้วยคุณค่าสารบำรุงจากน้ำมันดอกโรสฮิปที่มีกลิ่นหอม

ชื่อแบรนด์ : Mamonde

ปริมาณสุทธิ : 5 g.

ราคา : แท่งละ 450 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ Lazada, Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


YSL : Vernis A Levres Water Stain

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 6

ลิปทินต์ที่ให้เนื้อสัมผัสติดทนนานแบบลิปสเตน พร้อมความฉ่ำน้ำ ทาแล้วไม่เหนียวเหนะเพราะมีเทคโนโลยีน้ำผสมอยู่ถึง 40% ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นยาวนานแทน เสมือนฟิล์มบาง ๆ เคลือบไว้ เม็ดสีของลิปสดชัด แค่ทาครั้งเดียวสีก็ติดทนแล้ว หากอยากเพิ่มความแวววาวหรือระดับความชัดเจนของสีสันให้มากขึ้น สามารถทาทับได้อีกครั้งโดยไม่ทำให้ริมฝีปากรู้สึกหนัก และมีถึง 18 เฉดสีทั้งโทนนู้ด โทนส้ม โทนชมพู และโทนแดง เฉดสีผิวไหนก็เลือกหยิบไปใช้ได้คอลเล็คชั่นนี้ได้รับการตอบรับดีมาก

พิเศษยิ่งขึ้นด้วยหัวแปรงของอีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์มาในรูปแบบทรงโค้ง wave shape โอบรับกับรูปทรงริมฝีปากทำให้การกระจายตัวของเนื้อลิปเป็นไปอย่างนุ่มนวล ซับปริมาณเนื้อลิปได้พอดี ให้สีชัด ไม่เป็นคราบ ช่วยเติมเต็มการทาลิปสเตนยิ่งง่ายดาย เจิดจ้าและสะดุดตาขึ้น ในแบบที่ ‘ยังคงเป็นริมฝีปากของคุณ…แต่ดูดีกว่าเดิม’

ชื่อแบรนด์ : YSL

ปริมาณสุทธิ : 5.9 g.

ราคา : แท่งละ 1,500 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ yslbeauty, central, Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


It’s Skin : Babyface Oil Drop Tint

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 7

ลิปทินต์แสนน่ารักมาในรูปแบบออยล์ ให้สีสวย ติดทน พร้อมช่วยบำรุงริมฝีปากที่แห้ง แตก เป็นขุยให้กลับมาเนียนนุ่มน่าสัมผัส บวกกลิ่นหอมสดชื่นจากส้มก็ยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่น ตัวสีมีความสดใสในตัว ใช้แล้วจึงดูเป็นธรรมชาติ ลักษณะของผลิตภัณฑ์จะเป็นขวดพลาสติกใสเล็ก ๆ สามารถมองเห็นสีภายในว่าแยกเป็น 2 ชั้น ด้านบนใส ๆ จะเป็นออยล์ ส่วนข้างล่างนั้นคือสีทินต์ ก่อนใช้ทุกครั้งต้องทำการเขย่าขวดเก่อน เพื่อให้ออยล์และทินต์เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ทาออกมาแล้วสวยได้ดั่งใจ  สำหรับทินต์รุ่นนี้มี 3 สีคือ #01 Cherry Oil สีแดง, #02 Strawberry Oil สีชมพู และ #03 Orange Oil สีส้ม เมื่อหมุนฝาออกมาจะเห็นหัวแปรงสำหรับทา คำแนะนำเพื่อให้สีชัด ชุ่มชื่น เนียนสวยตลอดวัน ควรทาทุก 2 ชั่วโมง เพราะเวลากินอาหารอาจเริ่มหลุดออก ยิ่งบริเวณไหนของริมฝีปากมีความแห้ง สีก็จะติดอยู่ตรงนั้นนานกว่าบริเวณอื่น

ชื่อแบรนด์ : It’s Skin

ปริมาณสุทธิ : 5 g.

ราคา : แท่งละ 320 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


3CE Velvet Lip Tint

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 8

ลิปทินต์เนื้อแมท หน้าตาคล้ายลิปจุ่มแบบแมทแต่เวลาทาจะรู้สึกเบากว่า และมีพิกเมนท์แน่น ทำให้ได้เม็ดสีแน่นคมชัด สีสวยสดใสสไตล์เกาหลีเลย ทาแล้วริมฝีปากดูเรียบเนียนดุจกำมะหยี่ สีแนบสนิทกับปากเป็นเนื้อเดียวกัน พร้อมสัมผัสที่เรียบลื่นบางเบาเป็นธรรมชาติ รูปแบบ Packaging ก็แสนจะสวยงาม เรียบแต่ดูดีเวอร์  มัดใจคนชอบลิปได้ตั้งแต่แรกเห็น

ทินต์สวยออกมาให้เลือกถึง 10 สี โดยสีที่หลายคนต่างแนะนำก็มี #New Nude, #Pink Break, #Private, #Daffodil, #Cutesicle ทุกตัวคือดีมาก ทาแล้วเรียวปากออกมาสวยจนต้องสยบ ไม่ซื้อเสียดายแน่นอน เพราะทุกตัวต่างเป็นลิปเนื้อเชอเบทสีสวยสดใส เกลี่ยง่าย กลมกลืนกับริมฝีปากเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อแห้งจะกลายเป็นเนื้อแมทติดทนยาวนาน ให้สัมผัสที่ดูเรียบลื่นบางเบาเป็นธรรมชาติ

ชื่อแบรนด์ : 3CE

ปริมาณสุทธิ : 5 g.

ราคา : แท่งละ 820 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ beautykissy, Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


Cathy Doll : Social Heart Vivid Tint

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 9

ลิปทินท์เนื้อแน่น สีชัดพิเศษ เกลี่ยได้ง่าย ช่วยเพิ่มสีสันสดใสให้กับริมฝีปากแบบติดทน ไม่ตกร่อง พร้อมสัมผัสเย็นสบายและสดชื่นหลังทา จากส่วนผสมของเมนทอล สารสกัดจากอโลเวร่า ที่มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมริมฝีปากคล้ำและแห้งกร้านหลังถูกแสงแดด บวกกับความหอมของเบอร์รี่ อโลเวร่าและไฮยาลูรอนเข้ามาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงริมฝีปาก ปลอบประโลมริมฝีปากคล้ำ แห้งกร้าน หลังเจอแดดได้เป็นอย่างดีอีก ทุกครั้งที่ทารู้สึกได้เลยว่าริมฝีปากแลดูอ่อนนุ่มเอิบอิ่ม

รุ่นนี้ออกมาถึง 6 ตัว ได้แก่สี สี 01 โทนส้มสดใส, สี 02 หวานพีชละมุน, สี 03 ชมพูพิ้งค์จัดจ้าน, สี 04 แดงอมชมพู, สี 05 แดงดูเลือดฝาดธรรมชาติ และสี 06 แดงเซ็กซี่น่าค้นหา หรือใครอยากลองแบบซองก่อนแบรนด์เขาก็มี ออกมาให้เลือก 4 สี น้ำหนักเบา พกพาง่าย เมื่อหมุนออกมาจะเห็นว่าตัวฝามีแปรงจิ้มจุ่มพร้อมทา ซึ่งมีความเรียวเล็กเข้ากับรูปปาก ใช้งานสะดวกเข้าไปอีก

ชื่อแบรนด์ : Cathy Doll

ปริมาณสุทธิ : 3.5 g.

ราคา : แท่งละ 169 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละที่

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ karmarts, Shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


lilah b. : Tinted Lip Balm

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 10

ลิปทินต์ตัวดังจากแบรนด์ฝั่งอเมริกาที่สายบิ้วตี้ต่างแนะนำ เพราะตัวนี้มีความคลีน ปราศจากสารเคมีหรือสิ่งอันตรายต่อผิวอย่างพาราเบน ซัลเฟต พาทาเลต และน้ำหอมสังเคราะห์ จึงสามารถคลีเอทลุคได้อย่างปลอดภัย แลดูเป็นธรรมชาติในทุกวัน มีทั้งสีแดงอมชมพู, ชมพูอ่อนและพลัมชิมเมอร์ พร้อมการบำรุงอย่างเข้มข้น ช่วยบรรเทาริมฝีปากที่แห้งแตกเป็นขุยให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ซึ่งสีที่บางเบาในลิปยังช่วยให้คุณได้รับเม็ดสีในปริมาณที่เหมาะสม บวกกับขี้ผึ้งและน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ในลิปก็ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายระหว่างใช้ด้วย

ชื่อแบรนด์ : lilah b.

ปริมาณสุทธิ : 0.10 ออนซ์.

ราคา : แท่งละ 1,145 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในตอนนั้น

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ lilahbeauty, shopee หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


Dior : Addict Lip Tattoo

10 ลิปทินต์น่าลอง รีวิวเยอะ ทาแล้วเป๊ะปัง ได้ลุคสวยดูเป็นธรรมชาติกว่าเดิม 11

ลิปทินต์แทททูติดแน่นนานถึง 10 ชั่วโมง มีเนื้อสัมผัสบางเบา ทาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนยังไม่ได้ทา จึงรู้สึกสบายผิวปากตลอดวัน แต่สียังคงชัดอยู่จากพิกเมนต์ที่แนบสนิทไปกับริมฝีปากอย่างเป็นธรรมชาติ หากใครชอบทาลิปแบบลิคควิดเนื้อแมทเบาสบายผิวปากแล้วล่ะก็ตัวนี้ตอบโจทย์ ทาแล้วไม่รู้สึกปากแห้ง ไม่มีคราบลอก และไม่มันวาวเกินไป หรือใครมาสายเกา ก็สามารถทาไว้ด้านในแล้วทาลิปทับเพื่อความติดทนและมีสีสันในตัวก็เริ่ดเวอร์

Dior ตัวนี้ออกมาด้วยกันถึง 9 เฉดสีขายดีทุกอัน ไม่ว่าจะเป็นสี Natural Peach, Natural Nude, Natural Red ไปจนถึง Natural Beige สามารถเข้าได้กับริมฝีปากทุกโทนสี มาพร้อมเนื้อบางเบาไร้น้ำหนัก สบายริมฝีปากทุกครั้งที่ใช้ แถมทุกอันยังเป็นสูตรกันน้ำติดแน่นทนนานด้วย เพียงแค่แตะหัวแปรงลงตรงกลางเรียวปาก แล้ววาดลงตามรูปริมฝีปากจากด้านซ้ายไปด้านขวาจนกระทั่งเต็มเรียวปากเท่านั้น

ชื่อแบรนด์ : Dior

ปริมาณสุทธิ : 6 ml

ราคา : แท่งละ 1,390 บาท หรือขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในตอนนั้น

ช่องทางการซื้อ : เว็บไซต์ sephora, central หรือตามเว็บไซต์แบรนด์ชั้นนำทั่วไป


ลิปทิ้นต์ทุกตัวน่าใช้มาก ๆ หลากหลายทั้งเฉดสี ขนาด คุณภาพ บรรจุภัณฑ์แสนดึงดูด รวมถึงราคาก็มีให้เลือกตามความเหมาะสม ซึ่งทุกแบรนด์สามารถแต่งสไตล์ Everyday Look และลุคอื่น ๆ ได้ตามใจเรา ซึ่งเราก็ต้องฝึกฝนเทคนิคการแต่งหน้าเพิ่ม หรือมือใหม่หัดแต่งลองใช้แบบกลอสและบาล์มก่อนก็ได้ จากนั้นค่อยขยับเป็นแมท Liquid หรือ Velvet ต่อไป เป็นการครีเอทลุคใหม่ ๆ ให้มากขึ้น

Dearzuffi
We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

Top Best Brand สุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด
Logo