10 สุดยอดรองเท้าวิ่ง ที่นักวิ่งต้องมีไว้

ในยุคปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ เริ่มหันมาออกกำลังกายกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงห่างไกลโรค ซึ่งกิจกรรมสำหรับการออกกำลังกายก็มีมากมายหลายแบบ สุดแท้แต่ใครจะชอบแบบไหน แต่กิจกรรมที่ฮอตฮิตอย่างหนึ่งที่มักจะเห็นผู้คนถ่ายรูปหรือไม่ก็เชคอินข่มกันตามหน้าโซเชียลอยู่บ่อยๆคงจะหนีไม่พ้น การวิ่ง ที่ไม่ว่าจะวิ่งมาราธอน วิ่งตามสวนสาธารณะ หรือแม่แต่วิ่งกันในที่ร่มอย่างฟิตเนสสตูดิโอ ทุกคนก็ต้องใส่รองเท้าวิ่งกันใช่ไหมล่ะ วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำ 10 อันดับรองเท้ากีฬาสำหรับวิ่งที่ดีที่สุดในปี 2019 เผื่อนักวิ่งคนใดกำลังแพลนหารองเท้าคู่ใจคู่ใหม่ จะได้มีตัวเลือกไว้พิจารณากันค่ะ กระเป๋าตังค์ในมืออาจจะสั่นไปตามๆกัน เตือนแล้วนะ!

แต่ก่อนจะไปดู 10 อันดับรองเท้ากีฬาสำหรับวิ่งที่ดีที่สุดในปี 2024 เรามาดูปัจจัยในการเลือกรองเท้าวิ่งกันก่อนว่าเค้าต้องพิจารณาอะไรกันบ้าง แน่นอนว่าดูแค่รูปร่างหน้าตาก็คงจะไม่ได้หรอก จริงไหม มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

  1. น้ำหนักรองเท้า

รองเท้าวิ่งทั่ว ๆไป สำหรับผู้ชายจะมีน้ำหนักอยู่ประมาณ 250-270 กรัม ส่วนรองเท้าของผู้หญิงก็จะเบากว่านิดหน่อย จะบอกว่าน้ำหนักรองเท้ามีผลต่อการวิ่งพอสมควรเลย เมื่อเปรียบเทียบรองเท้าวิ่งที่น้ำหนักต่างกัน รองเท้าที่น้ำหนักเบากว่าจะรับแรกกระแทกขณะวิ่งได้น้อยกว่า แต่ไม่ใช่ว่ารองเท้าน้ำหนักเบาๆไม่ดีนะ ข้อดีของมันก็มีคือ คุณจะสามารถทำสปีดได้ดีกว่าด้วยความเบาของมันนี่แหละ รองเท้าน้ำหนักเบาจึงเหมาะกับการวิ่งระยะสั้น ๆ ที่ต้องการสปีด ในทางกลับกันสำหรับนักวิ่งที่ชอบวิ่งนาน วิ่งในระยะทางยาว ๆ รองเท้าที่มีน้ำหนักมากหน่อยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากมันสามารถลดแรงกระแทกขณะวิ่งได้ดีกว่านั่นเอง

รองเท้าวิ่งมาราธอน ดีที่สุด

2. Heel drop หรือ Drop คือ ความต่างของความสูงระหว่างส้นเท้าจนถึงปลายเท้า ถ้าอ่านแล้วงง พูดง่ายๆมันก็คือค่าที่บ่งบอกความลาดเอียงของพื้นรองเท้านั่นเอง
รองเท้าวิ่งส่วนมากจะมี Drop อยู่ระหว่าง 8 – 12 มิลลิเมตร แต่ก็มีรองเท้าบางรุ่นที่ Drop น้อยกว่า 8 มิลลิเมตร ซึ่งเขาจะเรียกกันว่า Low drop หรือ Zero drop ซึ่งจะให้ความรู้สึกเหมือนวิ่งเท้าเปล่า

แล้ว Drop มันมีผลอย่างไรล่ะทีนี้?
ว่ากันง่ายๆเลย ยิ่ง Drop เยอะเท่าไหร่ นั่นก็แปลว่ารองเท้าสามารถรองรับส้นเท้า หย่อนเอ็นร้อยหวายและน่องได้มากเท่านั้น รองเท้าที่ Drop เยอะ ๆ จะช่วยบังคับให้เราลงน้ำหนักด้วยกลางเท้า น้ำหนักมันก็จะกระจายได้ทั่วเท้า ซึ่งตรงกันข้ามกับแบบ Zero drop ที่ไม่มีที่รองรับส้นทำให้เอ็นร้อยหวายและน่องยืดอย่างเต็มที่ และทำให้เราต้องลงน้ำหนักไปที่ปลายเท้า ซึ่งอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บขณะวิ่งได้ง่าย

ทีนี้ใครจะผันตัวเองมาเป็นนักวิ่งก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆในการเลือกรองเท้าใส่วิ่งกันแล้ว หลักๆ ก็คือเลือกน้ำหนักและ Drop ของรองเท้าให้เหมาะสมกับสรีระเท้าและลักษณะการวิ่งของเรานั่นเอง

ได้เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆสำหรับการเลือกรองเท้าวิ่งกันไปแล้ว ก็มาเข้าสู่ 10 อันดับรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดในปีนี้กันได้เลย

Hoka One One Carbon X

รองเท้าวิ่ง

น้ำหนัก: 241 กรัม (ชาย)/ 204 กรัม (หญิง)

Heel drop: 5 มิลลิเมตร

ราคาราว 7,2xx บาท

รองเท้าวิ่งที่กระแสความนิยมพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว หลังจากวางขายได้ไม่นาน เนื่องจากมันเป็นรองเท้าที่นักวิ่ง Jim Walmsley สวมใส่และสามารถทำลายสถิติ 50 ไมล์ หรือราว 80 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 4.50.08 ชม. แต่เหตุผลที่เจ้า Hoka One One Carbon X ได้อันดับ 1 ไม่ใช่แค่เพราะ Jim Walmsley ใช้ทำลายสถิติได้หรอกนะ จุดเด่นของตัวรองเท้าเองก็คือ มีการฝังแผ่นคาร์บอนใต้ฝ่าเท้าประกบกับโฟม PROFLY X ทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และรองรับ แรงกระแทกได้อย่างดี นอกจากนี้ตัวพื้นรองเท้ายังเป็น Rubberized foam ที่เบาแต่สามารถส่งแรงคืนได้อย่างดีขณะวิ่ง เมื่อโฟมสองนวัตกรรมรวมกันอยู่ในรองเท้าคู่เดียวจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งได้ดีสุดๆไปเลย เด่น ๆ ก็ถือว่าคู่นี้เน้นความเบาที่สามารถรองรับแรงกระแทกและช่วยเพิ่มแรงส่งขณะวิ่งได้ดีมากเลยทีเดียว


Under Armour HOVR Guardian

รองเท้าวิ่งผู้หญิง

น้ำหนัก: 340 กรัม (ชาย)/ 278 กรัม (หญิง)

Heel drop: 8 มิลลิเมตร

ราคาราว  6,1xx บาท

รุ่นนี้แม้น้ำหนักจะค่อนข้างหนักและหน้าตาจะดูโบราณไปหน่อย แต่คู่นี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันข้อเท้าบิดขณะวิ่ง ด้วยแผ่นรองที่ผลิตจากโฟมหุ้มด้วยโครงสร้างตาข่ายที่ช่วยในเรื่องการรับแรงกระแทกและส่งคืนแรง ซึ่งตัวรองเท้ายังรองรับบริเวณส้นและกลางเท้าได้เป็นพิเศษ นอกจากนี้รองเท้ารุ่นนี้ยังมีชิพติดตั้งอยู่เพื่อใช้เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน MapMyRun สำหรับวิเคราะห์และให้ข้อมูลการวิ่งได้แบบเรียลไทม์และแม่นยำอีกด้วย คู่นี้มีความเด่นในเรื่องความปลอดภัยขณะวิ่ง สมกับชื่อรุ่นว่า Guardian แถมยังล้ำจากชิพที่ฝังอยู่ในรองเท้าอีก รุ่นนี้จึงเหมาะกับการวิ่งระยะไกลสุดๆ


New Balance FuelCell Rebel

รองเท้าวิ่งมาราธอน

น้ำหนัก: 207 กรัม (ชาย)/ 175 กรัม (หญิง)

Heel drop: 6 มิลลิเมตร

ราคาราว  3,9xx บาท

คู่นี้รูปร่างหน้าตาจัดว่าดี สีสันสดใส ดูมีความทันสมัยที่น่าจะเตะตานักวิ่งวัยรุ่นได้ดี ด้วยลายด้านนอกเป็นเส้นใย Trace ที่ทั้งสวยทั้งช่วยกระชับเพราะปรับตามรูปเท้าผู้สวมใส่ได้ดี นอกจากนี้มาพร้อมแผ่นรองที่ทำจากโฟมชื่อว่า FuelCell ตามชื่อรุ่น ที่เคลมว่าช่วยซับแรงกระแทกได้อย่างรวดเร็วและมีอายุการใช้งานที่นาน แถมน้ำหนักเบาช่วยให้นักวิ่งสัมผัสได้ถึงความเร็วในการวิ่งที่ดีขึ้น คู่นี้จึงเหมาะสำหรับนักวิ่งที่อยากจะใส่สปีดเป็นที่สุด


Nike Zoom Pegasus Turbo 2

รองเท้าวิ่งผู้ชาย

น้ำหนัก: 220 กรัม (ชาย)/ 193 กรัม (หญิง)

Heel drop: 10 มิลลิเมตร

ราคาราว 6,4xx บาท

แบรนด์นี้ยังคงไม่ทำให้ผิดหวังในเรื่องรูปลักษณ์และสีสันที่ฉูดฉาดสดใส Nike Zoom Pegasus Turbo รุ่นที่สองนี้เทียบกับ Pegasus 35 Turbo รุ่นแรก รุ่นที่สองจะดีไซน์รูร้อยเชือกเป็นแบบใหม่ที่สามารถร้อยได้หลากหลายแบบโดยที่ยังไม่ทิ้งความกระชับขณะสวมใส่ ส่วนผ้าที่ใช้จะเป็นผ้า Mesh ชั้นเดียวและบางลงทำให้รู้สึกโปร่งสบายกว่ารุ่นแรก  แผ่นรองบริเวณส้นน้ำหนักเบาแต่รองรับแรกกระแทกได้ด้ดีด้วยโฟมที่มีชื่อว่า ZoomX และยังมีโฟม React ที่มีแรงส่งคืนกลับมาได้อย่างนุ่มนวลเวลาวิ่ง โดยรวมแล้วรุ่นนี้จะใช้วิ่งสปีดแบบทำความเร็วก็ดี หรือจะวิ่งเหยาะๆสบายๆก็ยังได้


Reebok Forever Floatride Energy

ยี่ห้อรองเท้า

น้ำหนัก: 264 กรัม (ชาย)/ 219 กรัม (หญิง)

Heel drop: 10 มิลลิเมตร

ราคาราว  4,9xx บาท

ตัวนี้ผลิตมาเพื่อตอบโจทย์นักวิ่งมือใหม่สายมุ่งมั่นที่จะไม่มีทางเลิกวิ่งไปง่ายๆ ถ้าเริ่มแรกใช้รองเท้าวิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นทั่วๆไป พอเสพติดการวิ่งขึ้นมา ก็อาจจะต้องอัพเกรดเป็นคู่ใหม่เพื่อเพิ่มการซัพพอร์ตให้มากขึ้น แต่สำหรับ Reebok Forever Floatride Energy คู่นี้ จะใส่ตั้งแต่เริ่มหัดวิ่งก็ดี พอเริ่มสนุก วิ่งไปเรื่อยๆสักระยะ เจ้าคู่นี้ก็ยังตอบโจทย์การซัพพอร์ตได้อย่างเพียงพอแบบไม่ต้องไปอัพเกรดเป็นคู่ใหม่ ถือว่าเป็นรองเท้าคู่เก่งของมือใหม่ไปสู่มืออาชีพก็ยังได้ ตัววัสดุผ้าเป็น Engineered mesh บางเบาและช่วยระบายอากาศให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ส่วนตัวพื้นเป็น Floatride Energy Foam โฟมรุ่นใหม่ที่ให้ความนุ่มและมีคุณสมบัติรองรับแรงกระแทกและส่งแรงคืนได้อย่างดี คู่นี้จึงถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับมือใหม่หัดวิ่งจริงๆ


Nike Air Zoom Pegasus 36

รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี

น้ำหนัก: 280 กรัม (ชาย)/ 264 กรัม (หญิง)

Heel drop: 10 มิลลิเมตร

ราคาราว  4,6xx บาท

คู่นี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Pegasus ของ Nike รุ่นใหม่นี้ได้ปรับปรุงหน้ารองเท้าให้สวมใส่สบายและกระชับมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวผ้าเป็นวัสดุตาข่าย Engineered Elite กับรูระบายอากาศมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศได้ดี แถมทำให้เย็นเท้าเวลาใส่ ตัวพื้นรองเท้าด้านใน Zoom Air ยาวตลอดชิ้นที่จะช่วยให้วิ่งได้อย่างสบายๆ เพราะมันช่วยทั้งลดแรงกระแทกและส่งแรงคืนได้ดี ส่วนตัวพื้นรองเท้าด้านนอกเป็นลายวาฟเฟิลช่วยเสริมการยึดเกาะเวลาวิ่งบนพื้นผิวที่แตกต่างกัน นอกจากนี้คอลลาร์ตรงส้นถูกทำให้บางลงเพื่อลดการเสียดสีกับเอ็นร้อยหวายทำให้วิ่งได้อย่างไม่รำคาญ โดยรวมแล้วคู่นี้ก็ไม่เลวเลยที่จะเลือกเป็นรองเท้าวิ่งคู่ใจ


On Cloudswift

รองเท้าใส่วิ่ง

น้ำหนัก: 290 กรัม (ชาย)/ 240 กรัม (หญิง)

Heel drop: 7 มิลลิเมตร

ราคาราว  4,7xx บาท

On Cloudswift รองเท้าวิ่งทรงสวยแปลกตาดูแล้วไม่น่าเบื่อ วัสดุผ้าเป็น Engineered mesh แบบไม่ยืดหยุ่นทำให้ไม่รัดเท้าจนรู้สึกอึดอัดเวลาใส่ มาพร้อมกับโฟมกันกระแทกรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Helion ที่เคลมว่าเป็น Active Super Foam เด้งได้เด้งดี ช่วยทั้งซับแรกกระแทกและดีดส่งแรงคืนได้ดี ส่วนพื้นด้านนอกที่เป็นโฟมมีโพรงเรียกว่า Cloudtec สัมผัสได้ถึงความยืดหยุ่น ช่วยเสริมการรับแรงกระแทกและเมื่อทิ้งน้ำหนักไปที่รองเท้าจะรู้สึกถึงการยึดเกาะพื้นผิวได้ดีไปอีก คู่นี้เหมาะสำหรับการวิ่งเก็บระยะมากกว่าและเนื่องจากเป็นรองเท้าสายซัพพอร์ตจึงไม่เหมาะกับการวิ่งทำความเร็วสักเท่าไหร่


Brooks Glycerin 17

running shoes

น้ำหนัก: 300 กรัม (ชาย)/ 261 กรัม (หญิง)

Heel drop: 10 มิลลิเมตร

ราคาราว  4,2xx บาท

ในด้านความรู้สึกขณะสวมใส่ Brooks Glycerin 17 คู่นี้ยังคงทำได้ดีเหมือนรุ่นก่อนหน้าอย่าง Brooks Glycerin 16 เพียงแค่หน้าตาเปลี่ยนไป จุดเด่นของ Brooks Glycerin 17  คือความนุ่มนิ่มวิ่งสบายเท้า แต่ก็ซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีด้วย DNA Loft foam ยาวเต็มพื้นรองเท้า ส่วนพื้นด้านนอกตรงส้นเป็น Hard carbon rubber และส่วนหน้าเป็น blown rubber ทำให้เหมาะกับการวิ่งบนพื้นถนน นักวิ่งหลายคนที่ได้ลองแบรนด์  Brooks เป็นต้องติดใจเกือบทุกราย


New Balance 890 v7

รองเท้าสําหรับวิ่ง

น้ำหนัก: 204 กรัม (ชาย)/ 158 กรัม (หญิง)

Heel drop: 6 มิลลิเมตร

ราคาราว  3,8xx บาท

ใครที่มีปัญหานิ้วเท้าชนกับปลายรองเท้าทำให้เจ็บนิ้วเท้าเวลาวิ่ง New Balance รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าน้ำหนักจะเบาแต่สามารถฉีกข้อจำกัดของรองเท้าน้ำหนักเบาไปได้ นั่นคือ สามารถใส่วิ่งระยะยาวอย่าง Half marathon หรือ full marathon ได้ วัสดุผ้า mesh ถักลายแบบใหม่ ตัวพื้นด้านในเป็น REVlite foam ที่ให้ความกระชับทำให้ทำเวลาในการวิ่งได้ดียิ่งขึ้น ส่วนพื้นรองเท้าด้านนอกก็เป็น REVlite foam ที่มีความทนทานและยืดหยุ่นมากขึ้น ยึดเกาะพื้นผิวได้เป็นอย่างดี วิ่งบนพื้นเปียกก็ไม่มีลื่น ด้วยราคาเท่านี้ถือว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่คุ้มค่าสมราคา


Hoka One One Clifton 6

รีวิวรองเท้าวิ่

น้ำหนัก: 255 กรัม (ชาย)/ 209 กรัม (หญิง)

Heel drop: 5 มิลลิเมตร

ราคาราว  4,9xx บาท

รองเท้ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ Hoka เลยก็ว่าได้ จุดเด่นก็คือพื้นโฟมที่นุ่มนวลดั่งมาร์ชเมลโล่ คุณสมบัติคืนตัวได้ดีและเพิ่มแรงส่งทำให้เพิ่มความเร็วขณะวิ่งได้สบายๆ ฐานรองเท้ามีความกว้างรองรับการวิ่งได้ดีและก็ซับแรงกระแทกได้ดีอีกด้วย เป็นรองเท้ากลางๆที่ใส่วิ่งได้ทุกระยะ


เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 อันดับรองเท้ากีฬาสำหรับวิ่งแห่งปี 2024 ราคาก็มีทั้งพอรับได้ไปจนถึงแพงนิดหน่อย เห็นแล้วเงินในมือคงสั่นไปตามๆกัน

แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปรีบไปถอย 1 ใน 10 รองเท้าวิ่งพวกนี้ตามคำแนะนำของบทความนี้นะ นอกจากรองเท้า 10 อันดับที่กล่าวไปแล้วก็ยังมีอีกหลายรุ่นที่อาจจะตอบโจทย์คุณได้มากกว่า จะบอกว่ารองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เนื่องจากพื้นฐานทางสรีระ ความชอบ สไตล์การวิ่งของแต่ละคนแตกต่างกัน ดังนั้นในการเลือกรองเท้ากีฬาคู่ใจควรลองสัมผัสด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ รีวิวต่างๆเป็นเพียงแค่ข้อมูลเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจ แต่ความพึงพอใจและความสบายของผู้สวมใส่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด…

ก็ขอจบการแนะนำ 10 อันดับรองเท้ากีฬาสำหรับวิ่งแห่งปี 2024 ไว้เพียงเท่านี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับรองเท้าวิ่งไปไม่มากก็น้อย หรือไม่ได้เลย? ได้สิ ฮ่าๆ

ขอให้ทุกคนสนุกกับการวิ่งนะคะ

Suphida Banlang
Top Best Brand สุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด
Logo