10 แบรนด์เซรั่มวิตามิน c ที่สาวๆลงความเห็นว่าดีงาม

หากพูดกันถึงเรื่องผิวแล้ว ย่อมเป็นเรื่องที่ผู้หญิงอย่างเรา ๆ มักให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เพราะในทุก ๆ วัน เราต่างก็ต้องเผชิญกับปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา หรือสภาพอากาศที่ร้อน แดดแรงตลอดทั้งวัน ผิวก็ย่อมต้องได้รับการดูแลกันมากหน่อย แต่จะหวังมาดูแลรักษาในตอนท้ายอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องปกป้องผิวจากสิ่งที่ทำให้หมองคล้ำ ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณ ‘ใบหน้า’

‘ผิวหมองคล้ำ’ มาจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?

                อย่างที่เราก็รู้กันดี ปัญหาผิวหมองคล้ำเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ซึ่งจะเป็นการดีมาก หากเรารู้ถึงสาเหตุ ปัจจัยเหล่านี้ ก็จะช่วยให้เรารู้จักป้องกันและหลีกเลี่ยงได้อย่างทันท่วงที ‘กันไว้ดีกว่าแก้’

  1. แสงแดด

เป็นสาเหตุหลักของตัวการที่ทำร้ายผิวของเรา ส่งผลให้ผิวหน้าและผิวกายคล้ำเสียเพียงแค่เราตากแดดผ่านไป 1 นาทีเท่านั้น ! การหมองคล้ำลงของผิว เป็นสัญญาณที่กำลังบอกเราว่า เซลล์ผิวของเรากำลังถูกทำลาย ซึ่งเราไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดเลย เพราะอาจทำให้ผิวคล้ำเสียสะสมจนสายเกินแก้ได้

  1. ร่มกันแดดได้…แต่กันรังสี UV ไม่ได้

เมื่อเรารู้ว่าแสงแดดเป็นตัวอันตรายอย่างยิ่งของการทำให้ผิวหมองคล้ำ ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหานี้ของสาวหลาย ๆ คน ก็คือ ‘ร่ม’ นั่นเอง จริงอยู่ที่ร่มสามารถกันไม่ให้แสงแดดตกกระทบลงกับผิวของเราโดยตรง แต่ถึงอย่างนั้นร่มก็ไม่อาจปกป้องผิวเราจากความหมองคล้ำได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ต่อให้เป็นร่มที่มีแผงกันรังสียูสีก็ตาม เพราะรังสียูวีสามารถสะท้อนกับวัตถุสะท้อนแสงได้ เช่น กระจก หรือแม้แต่พื้นถนนคอนกรีตเองก็ตาม  

  1. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และแสงจากมือถือ

 สำหรับข้อนี้ สาวออฟฟิศต้องระวังให้ดีเชียว เพราะถึงแม้จะอยู่ในออฟฟิศทั้งวันก็ตาม แต่ต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน รู้หรือไม่ว่า คอมพิวเตอร์มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เป็นสาเหตุหนึ่งของผิวคล้ำเสียได้ รวมทั้งหน้าจอโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนเองก็มีคลื่นแสงที่ส่งผลให้ผิวหน้าเราหมองคล้ำได้ง่ายอีกด้วย

  1. ล้างหน้าไม่สะอาด

ยิ่งแต่งหน้ายิ่งต้องล้างให้สะอาด อย่าได้ละเลยเด็ดขาด เพราะเครื่องสำอางตกค้างเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าเราหมองคล้ำ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำความสะอาดล้างหน้าของเราให้สะอาดหมดจด นอกจากนี้ การปล่อยให้มีเครื่องสำอางตกค้างบนใบหน้า อาจก่อให้การสิวอุดตันได้ด้วย

  1. ผิวขาดน้ำ

ปกติแล้วเราต้องดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว การดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวัน จะส่งผลให้ผิวของเราขาดความชุ่มชื่น แห้งและหยาบกร้าน ซึ่งจะนำไปสู่ความหมองคล้ำได้ในที่สุด หากเราสามารถดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอในแต่ละวันแล้ว ก็จะช่วยป้องกันผิวไม่ได้หมองคล้ำได้ดีทางหนึ่ง

  1. ความเครียด

ว่ากันว่า ‘ความเครียดเป็นศัตรูของความงาม’ แน่นอนว่าคำกล่าวนี้คือความจริง นอกจากความเครียดจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ความเครียดยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ได้อีก เช่น ริ้วรอย ตีนกา แถมยังทำให้แก่กว่าวัยอีกด้วย

  1. ร่างกายเหนื่อยล้า และพักผ่อนน้อย

ดูแล้วไม่เชื่อว่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งของความหมองคล้ำ แต่การพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ และยังคงต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งวัน ผิวก็แย่ลงได้ และยิ่งต้องออกไปเผชิญมลภาวะ เวลาที่ต้องออกไปนอกบ้าน ผิวก็ยิ่งหมองคล้ำ

แก้ไขปัญหาผิวหมองคล้ำได้อย่างไร ?

                หลังจากที่เรารู้สาเหตุต่าง ๆ ของความหมองคล้ำแล้ว แน่นอนว่าเราต้องหลีกเลี่ยงสาเหตุเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่สาเหตุบางอย่างเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งหมด อย่างเช่น แสงแดด แสงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งความเครียด ดังนั้น เราต้องมองหาวิธีการดูแลรักษา เพื่อให้ผิวหน้าของเรากลับมาขาวกระจ่างใสอีกครั้ง หรือปรับให้มีผิวที่ใสยิ่งกว่าเดิม

  1. ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

มีเครื่องสำอางตั้งมากมาย หาครีมกันแดดเพิ่มขึ้นอีกชิ้นจะเป็นอะไรไป หลายคนเข้าใจว่าการทาครีมกันแดดจะทำให้หน้ามัน เหนียวเหนอะหนะ แต่จริง ๆ แล้ว ครีมกันแดดมีหลายแบบ ทั้งครีมกันแดดเนื้อครีม ครีมกันแดดเนื้อโลชั่น ซึ่งครีมกันแดดแต่ละชนิด ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับหลายสภาพผิว ทั้งนี้ การเลือกครีมกันแดด นอกจากจะต้องเลือกเนื้อครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวแล้ว เรายังต้องดูค่า SPF ที่เหมาะสมอีกด้วย ซึ่งค่า SPF ที่เหมาะสมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ต้องทำในวันนั้น ๆ หากไม่ได้ออกแดดเป็นเวลานาน อาจใช้แค่ SPF 25-30 แต่ถ้าหากวันไหน ต้องออกแดดแรงเป็นเวลานาน ก็ต้องเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป  

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

เรามักจะละเลยข้อนี้อยู่บ่อยครั้ง และที่แย่ไปกว่านั้น คือการดื่ม ‘น้ำ’ ที่ผิดประเภท น้ำเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง แต่น้ำที่ดีต่อผิวนั้น มีแค่ ‘น้ำเปล่า’ เท่านั้น เครื่องดื่มชนิดอื่น เช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟ นั้นถือเป็นข้อยกเว้น เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้ผิวดีขึ้นแล้ว ยังจะทำให้ผิวแย่ลงได้ด้วย เพราะเครื่องดื่มพวกนั้นมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณที่มาก การรับปริมาณน้ำตาลที่มากเกินจำเป็นในแต่ละวัน เป็นสาเหตุหนึ่งของสิว ดังนั้นแล้ว น้ำเปล่า คือ น้ำที่ดีที่สุดในการช่วยให้ผิวสวย ชุ่มชื่น และห่างไกลจากความหมองคล้ำ แถมยังช่วยขับเหงื่อได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย เหงื่อที่ออกมานั้นจะช่วยชะล้างเอาสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขนออกมา ทำให้ผิวดูสดใสมากขึ้น และลดปัญหาอื่น ๆ เช่น สิว จุดด่างดำ รูขุมขนกว้างได้อีกด้วย

  1. มาสก์หน้าไวท์เทนนิ่ง

เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ มาสก์หน้าสามารถใช้ได้ทั้งแบบที่เป็นแผ่นมาสก์ และที่เป็นเนื้อครีมหรือเจล โดยมาสก์หน้าสูตรที่เหมาะกับการคืนความกระจ่างใส ก็คือ สูตรไวท์เทนนิ่ง หรือ AHA ซึ่งเป็นสารสกัดจากผลไม้ ทั้งนี้ ก่อนที่จะทำการมาสก์หน้า อย่าลืมล้างหน้า ล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดก่อนด้วยนะ  

  1. นอนหลับ พักผ่อนให้เต็มที่

การนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ สามารถช่วยให้ผิวดูสดใส และกระจ่างใสขึ้นได้ เพราะในขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่นั้น ร่างกายจะหลั่งสารต่าง ๆ ออกมาเพื่อซ่อมแซมร่างกาย ซึ่งหนึ่งในการซ่อมแซมร่างกาย คือ การฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำร้าย หรือเสียหายนั่นเอง ซึ่งสารตัวนี้ก็ช่วยให้ผิวหมองคล้ำของเรากระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้การนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยลดปัญหาเรื่องริ้วรอย และช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้อีกด้วย

  1. สครับผิวทุกสัปดาห์

ทุกสัปดาห์ หากเราได้ขัดผิวเบา ๆ ย้ำว่า ‘เบา ๆ’ นะ ขัด ๆ ถูก ๆ เบา ๆ  2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็จะช่วยให้ผิวกลับมาดูขาวกระจ่างใสขึ้นได้เร็วขึ้น ข้อสำคัญคือ ห้ามขัดแรง ๆ และขัดทุกวันอย่างโดยเด็ดขาด การขัดผิวจะช่วยจัดการกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือขี้ไคล ทั้งนี้หากขัดแรงเกินไป หรือขัดมากไป จะให้ผลตรงกันข้าม ซึ่งนั่นเป็นการทำร้ายผิวอย่างร้ายแรงเลยทีเดียว เพราะผิวจะอ่อนแอลง บางลง และไม่สามารถทนรับรังสียูวีจากแสงแดดได้ แถมยังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด้วย

  1. เพิ่มความขาวใสด้วยวิตามิน C

อย่างที่เราก็รู้กันดีว่า วิตามินซีช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นได้ และนับเป็นวิตามินที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของสาว ๆ การบำรุงผิวหมองคล้ำด้วยวิตามินซีนั้น เรามักจะเห็นในรูปแบบของครีมบำรุง หรือโลชั่น แต่ถ้าจะให้ดี ลองมองหาวิตามินซีในรูปแบบของเซรั่ม เนื้อเหลวแบบน้ำจะสามารถซึมเข้าสู่ผิวและเข้าบำรุงผิวได้ดีกว่าแบบครีม ที่มีเนื้อโมเลกุลที่ค่อนข้างหนัก ทำให้เข้าซึมสู่ผิวได้ยากกว่า

ประโยชน์ดี ๆ ของเซรั่ม

                หากจะให้แนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงเพื่อผิวขาวกระจ่างใส และมีประสิทธิภาพมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ‘เซรั่มวิตามินซี’ สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) ในรูปแบบของเซรั่มนั้น มีข้อดีที่ทำให้เป็นที่สุดของการบำรุงผิว ดังต่อไปนี้

  1. เซรั่มมีอนุภาคโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้สามารถซึมเข้าบำรุงผิวได้ดี
  2. เซรั่มผลิตจากส่วนประกอบเข้มข้น เราจะเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว และชัดเจน
  3. ไร้ส่วนประกอบที่กระตุ้นให้เกิดสิวอุดตัน ดังนั้น สำหรับสาว ๆ ที่ผิวหน้ามัน หรือเป็นสิวง่าย ใช้เซรั่มในการบำรุงผิวจะเหมาะที่สุด ทั้งนี้ เซรั่มยังเหมาะกับทุกสภาพผิวอีกด้วย
  4. สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวตัวอื่น เพื่อการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

เซรั่มวิตามินซี 10 แบรนด์ที่ดีที่สุด

Yanhee Serum Vit C เซรั่มวิตามินซี

vitamin c serum

คุณสมบัติ : เซรั่มบำรุงผิว 5 in 1 เผยผิวสู่ความขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ รอยคล้ำสะสม ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำแลดูอ่อนเยาว์ พร้อมปรับผิวให้เรียบเนียน มีสีผิวสม่ำเสมอ

วิธีใช้ : ควรใช้หลังทำความสะอาดใบหน้า โดยลูบไล้ทั่วใบหน้าและลำคอ นวดวนเบา ๆ ยกเว้นบริเวณรอบดวงตา สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน

ราคา : 129 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.yanheeshop.com


Preme Nobu Natural C White เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มวิตซีเข้มข้น

คุณสมบัติ : วิตามินบำรุงผิวสูตรอ่อนโยน ให้คุณค่าวิตามินซีสูตรเฉพาะของพรีม โนบุ ที่ซึมผิวได้ล้ำลึก พร้อมสารสกัดจากธรรมชาติอีก 3 ชนิด Mulberry, Peony และ Scutellaria ที่จะช่วยปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้กระจ่างใส เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มนวล ชุ่มชื่นได้อย่างยาวนาน

วิธีใช้ : ลูบไล้ทั่วใบหน้าและลำคอ ใช้เป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น

  • วิธีใช้สำหรับวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว : ใช้เป็นประจำทุกวัน
  • วิธีใช้สำหรับผู้ใหญ่ : ใช้บำรุงผิวก่อนการทาเดย์ครีม และไนท์ครีมทุก ๆ วัน

ราคา : 175 บาท (15 กรัม)

ข้อมูลเพิ่มเติม : premenobu.co.th


Boots Vitamin C Skin Smoothing Serum เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มวิตามินซี boots

คุณสมบัติ : ซึมซาบง่าย ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวหน้าให้แลดูขาวกระจ่างใสจากวิตามินซี Sodium Hyaluronate พร้อมทั้งยังมีส่วนผสมจากสารสกัดว่านหางจระเข้ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้ากระชับและยืดหยุ่น

วิธีใช้ : บำรุงผิวด้วยเซรั่มทุกวัน หลังล้างหน้า

ราคา : 250 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.th.boots.com


Pharma C20 Serum เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มวิตามินซี เซเว่น

คุณสมบัติ : เซรั่มวิตามินซีจากธรรมชาติเข้มข้น ปราศจากสี แต่งกลิ่น แอลกอฮอล์ สารปรอทและสเตียรอยด์ ช่วยให้ใบหน้าขาวเนียนใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยต่าง ๆ พร้อมลดเลือนรอยสิวได้ดี ที่สำคัญเซรั่มตัวนี้มันสามารถเติมเต็มและจัดการกับรอยหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ใบหน้าเรียบเนียน นอกจากนี้ยังอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย

วิธีใช้ : ใช้ทาทั่วใบหน้าเป็นประจำ โดยไม่ต้องล้างออก ทั้งนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ เช่น ครีมกันแดดและเครื่องสำอาง

Tips  : หากใช้คู่กับเครื่องสำอาง ให้ลงเซรั่มก่อนอย่างน้อย 10-15 นาทีก่อนแต่งหน้า  

ราคา : 590 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : pharma-c20.lnwshop.com


Oriental Princess Natural Intensive C Skin Boosting Serum เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มวิตามินซี รีวิว

คุณสมบัติ : เซรั่มวิตามินซีจากสารสกัดวิตามินซีเข้มข้น ช่วยคงความอ่อนโยนให้ผิว ปกป้องและคงความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า พร้อมปรับผิวหน้ากระจ่างใส ลดการจับกลุ่มของเม็ดสี อันเป็นสาเหตุของฝ้าและกระ คืนความสดใสและเข้าบำรุงผิวจากความอ่อนล้าจากมลภาวะ ช่วยให้ผิวหน้าสดชื่น แข็งแรง ลดการระคาบเคือง ผิวแลดูเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย

วิธีใช้ : ควรใช้ก่อนครีมบำรุง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์เร็ว

ราคา : 475 บาท (60 มิลลิลิตร)

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.orientalprincess.com


Cute Press Super Strength 10% Vitamin C Booster Serum เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มวิตามินซี ยี่ห้อไหนดีที่สุด

คุณสมบัติ : เซรั่มบำรุงผิวที่อุดมด้วยอนุพันธ์ของวิตามินซี ในรูปแบบแคปซูลนาโนเข้มข้นถึง 10% ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น พร้อมผสานวิตามินอีที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและเสริมการทำงานของวิตามินซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ทั้งยังมีคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น แลดูยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดีขึ้น

วิธีใช้ : ลูบไล้เซรั่มให้ทั่วผิวหน้าและลำคอ หลังทำความสะอาดใบหน้าเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน

ราคา : 599 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.cutepress.com


BSC Expert White Whitening Vit-C Concentrate Serum เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มยี่ห้อไหนดีที่สุด

คุณสมบัติ : เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น มีประสิทธิภาพสูง ไม่เสื่อมสลายง่าย ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส พร้อมเสริมการทำงานด้วย Gluta Phyto, Brassica Napus Extract, TGP2 ที่จะเข้าช่วยผลัดเซลล์ที่หมองคล้ำ สีผิวสม่ำเสมอ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเผยผิวเรียบเนียน พร้อมคงความชุ่มชื้น และความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

วิธีใช้ : ใช้ประมาณ 1-2 หยด ทาเช้าและเย็นเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง

ราคา : 1,200 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.bsccosmetology.com


Beauty Buffet Lansley Vitamin C Serum เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มยี่ห้อไหนดี

คุณสมบัติ : เซรั่มบำรุงผิวหน้าจากวิตามินซีสูตรเข้มข้นพิเศษ ในรูปแบบที่มีความคงตัวสูง (Ascobyl Glucoside) ซึ่งพัฒนาขึ้นจากทางเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่น ช่วยปรับโทนสีผิวให้กระจ่างใส ลดการจับกลุ่มกันของเม็ดสี อันเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระและจุดด่างดำ แลดูอ่อนเยาว์ ทั้งยังมี Chamomile Extract ช่วยปรับสภาพผิว ปกป้องผิวจากมลภาวะ ลดการระคายเคืองผิว พร้อมเพิ่มความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว และ PHAs พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดความเสี่ยงในการเกิดการระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่มกระจ่างใสไร้ริ้วรอย

วิธีใช้ : ทาเซรั่มให้ทั่วใบหน้า ก่อนแต่งหน้าและก่อนนอน เป็นประจำทุกวัน

ราคา : 600 บาท

Tips : ควรใช้คู่กับ Beauty Buffet Lansley Vitamin C Serum Cream

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.beautybuffetshop.com


It’s Skin Power 10 Formula VC Effector เซรั่มวิตามินซี

ครีมวิตามินซีทาหน้า

คุณสมบัติ : เซรั่มบำรุงผิวเนื้อบางเบาเพื่อผิวขาวกระจ่างใส  ด้วยส่วนผสมจากวิตามินซีเข้มข้น และชาเขียว ที่ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ อันเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ  และกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวเรียบเนียนสดใสยิ่งขึ้น สัมผัสความแตกต่างของผิวอย่างเห็นได้ชัด เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง 

วิธีใช้ : หยดเซรั่มประมาณ 1-2 หยด ทาให้ทั่วผิวหน้าเช้า – เย็น ตามด้วยครีมบำรุงผิวหน้าตามปกติ

ราคา : 690 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.konvy.com


Garnier Dark Spot Corrector เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มยี่ห้อไหนดีค่ะ

คุณสมบัติ : เซรั่มลดรอยสิว จุดด่างดำจากสิวและจุดด่างดำแห่งวัย ช่วยให้ผิวเรียบเนียนชุ่มชื้นขึ้นด้วยวิตามินซีในรูป Ascorbic acid ที่ให้มาถึง 5% เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำให้หน้ามัน แถมยังให้ความรู้สึกชุ่มชื้นร่วมด้วย เหมาะกับทุกสภาพผิว

วิธีใช้ : ทาหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน จะทาทั่วหน้าหรือทาเฉพาะบริเวณที่มีจุดด่างดำก็ได้ แต่แนะนำให้ทาทั่วหน้า เพื่อผิวขาวกระจ่างใสทั่วใบหน้า

ราคา : 299 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.garnier.co.th


Tips ใช้เซรั่มอย่างไรให้เห็นผลดีที่สุด

                ต่อให้เรามีเซรั่มที่ดีที่สุดอยู่ในมือ แต่หากใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกวิธี ก็อาจจะไม่สามารถดึงเอาประสิทธิภาพสูงสุดของเซรั่มออกมาได้นะ

  1. ล้างทำความสะอาดหน้าให้หมดจดเสียก่อน

เซรั่มจะเกาะติดกับฝุ่นและเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ง่าย ดังนั้น เพื่อให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด ควรแน่ใจว่าทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดหมดจดแล้ว แนะนำให้ใช้น้ำอุ่น-ร้อน เพื่อช่วยขยายรูขุมขน ทำให้เซรั่มซึมสู่ผิวได้ดีกว่าใช้น้ำเย็นซึ่งจะทำให้รูขุมขนปิด

  1. ควรทาเซรั่มบนผิวที่ชื้น

ว่ากันว่าผิวที่ชื้นจะช่วยให้ซึมผ่านได้ดีกว่าผิวแห้ง ๆ ถึง 10 เท่า ดังนั้น จึงควรทาเซรั่มลงบนผิวที่ชื้นหลังการทำความสะอาด หรือหลังการใช้โทนเนอร์ แล้วนวดเซรั่มลงบนผิวหน้าด้วยฝ่ามือเบา ๆ

  1. ใช้เซรั่มนิดเดียวก็เพียงพอ

เซรั่มมีความเข้มข้นสูงมาก เพื่อให้คุ้มค่าทุกหยด แค่ไม่กี่หยดหรือกะดูไม่เกินเม็ดถั่ว มากกว่านั้นเป็นการสิ้นเปลืองอย่างไม่จำเป็น

  1. ลงเซรั่มเสร็จก็รอแป๊บ ก่อนลงมอยซ์เจอไรเซอร์

เซรั่มไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นผิว เรายังต้องใช้สกินแคร์ตัวอื่น อย่างครีม หรือมอยซ์เจอไรเซอร์ควบคู่ไปด้วยหลังจากลงเซรั่ม ดังนั้น เพื่อให้เซรั่มซึมซาบลงเต็มที่ ควรรอสัก 5 นาทีก่อนลงครีม หรือมอยซ์เจอไรเซอร์

ไม่ว่าจะเซรั่มตัวไหนต่างก็ใช้ได้ดีทั้งนั้น ค่อย ๆ ลอง ค่อย ๆ  ดู เลือกเซรั่มที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด เพราะถึงอย่างไรสาว ๆ แต่ละคนย่อมมีสภาพผิวที่ต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกัน ทั้งนี้ อย่าลืมเทสต์อาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้งด้วยนะคะ โดยการเอาเซรั่มมาป้ายตรงใต้ท้องแขน แล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น ให้ทิ้งไว้ 48 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่แพ้จริง ๆ

Yuukiji
Top Best Brand สุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด
Logo