10 ร้านอาหารอินเดีย รสชาติจัดจ้านตามต้นตำรับ หอมกลิ่นเครื่องเทศ การันตีความอร่อย

10 ร้านอาหารอินเดีย รสชาติจัดจ้านตามต้นตำรับ หอมกลิ่นเครื่องเทศ การันตีความอร่อย

รสชาติจัดจ้าน ถึงพริกถึงขิง เครื่องเทศเยอะ รสชาติถูกปาก ที่กล่าวมาคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากอาหารอินเดีย อาหารอินเดียนอกจากจะได้ชื่อว่ารสชาติอร่อย ถูกปากคนที่ชอบกินรสชาติถึงพริกถึงขิงแล้ว อาหารอินเดียยังถือว่าเป็นต้นตำรับสมุนไพร ที่ใส่เข้าไปในอาหาร อันดับต้นๆของโลก มีส่วนสำคัญในการป้องกันโรค หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขมิ้นที่มีสรรพคุณรักษาโรคต่างๆได้อย่างดีเยี่ยมรวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้อาหารอินเดีย ไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารที่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่อาหารอินเดียเป็นอาหารที่มีสมุนไพรที่ช่วยทำให้สุขภาพดีด้วยดังนั้นบทความนี้ ได้หาร้านอาหารอินเดีย 10 อันดับที่ดีที่สุดมาให้คุณแล้วไปดูกันเลย

สิ่งที่จะใช้ในการเลือกร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯของคุณ มีดังนี้

(1) ความสะอาดของร้าน

ร้านอาหารอินเดียยอดนิยมในกรุงเทพฯ ต้องสะอาด พื้น ผนังเพดานอยู่ในลักษณะที่สะอาด เก็บข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อย บริเวณปรุงอาหารและบริเวณที่ล้างภาชนะ อุปกรณ์ต้องอยู่ในลักษณะสะอาด ยิ่งอยู่สูงจากพื้นอย่างน้อยสัก 60 เซนติเมตรยิ่งดีใหญ่ ถ้าร้านแช่อาหารสดไว้ในถังน้ำแข็ง ต้องแยกถังน้ำแข็งสำหรับกินกับถังที่แช่อาหารสดออกจากกัน เพราะเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ได้ปรุงตลอดจนผักสดต่างๆอาจมีเชื้อก่อโรคหรือพยาธิปะปนอยู่ ความร้อนจากการปรุงจะทำลายเชื้อเหล่านี้ได้ แต่หากเนื้อสัตว์ดิบสัมผัสกับน้ำแข็ง การปนเปื้อนเชื้อก่อนโรคเข้าสู่ร่างกาย อาจก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าที่คิดก็ได้ ส่วนในด้านของห้องน้ำควรสะอาด มีสบู่และน้ำเพียงพอต่อการล้างมือ

 (2) พนักงานต้องดูดี สะอาดสะอ้าน

สิ่งหนึ่งที่จะรู้ว่าร้านอาหารอินเดียนั้นสะอาดหรือไม่ ให้ดูได้ที่การแต่งกายของผู้ขาย หรือผู้ที่ต้องสัมผัสกับอาหารก่อนถึงมือเรา ผู้ซึ่งควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด รัดกุม ไม่ใส่เครื่องประดับที่อาจหลุดร่วงลงในอาหารใส่หมวกหรือเน็ตคลุมผม ป้องกันผม เหงื่อหรือสิ่งอื่นหลุดร่วงลงไปในอาหาร อาจใส่หน้ากากอนามัยเพื่อปิดปาก เพื่อป้องกันการไอ จาม ลงไปในอาหาร ควรมีอุปกรณ์ช่วยในการสัมผัสอาหารไม่ใช่มือหยิบจับอาหารโดยตรง กรณีที่ผู้ปรุงหรือสัมผัสอาหารมีบาดแผล ควรปกปิดบาดแผลด้วย

(3) ความอร่อย

ร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯต้องมีความอร่อยมาอันดับ 1 โดยสามารถสังเกตได้จากจำนวนลูกค้าในร้าน การต่อแถวรอ การรีวิว การบอกต่อ หรือการไปออกรายการโทรทัศน์ เป็นต้น

(4) ราคาสมคุณภาพ

ร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯควรมีราคาที่เหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เพราะหากราคาถูกมากอาจเกี่ยวกับมาตรฐานของอาหารได้

(5) มีบริการที่ดี

การบริการเป็นสิ่งสำคัญมากๆถึงแม้อาหารจะอร่อยอย่างไรแต่บริการไม่ดีก็จะทำให้เสียความรู้สึกได้

10 ร้านอาหารอินเดีย รสชาติจัดจ้านตามต้นตำรับ หอมกลิ่นเครื่องเทศ การันตีความอร่อย

Gaggan

อาหารอินเดียคุณภาพ

ร้านกากั้นติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับ ร้านอาหารมิชลิน สตาร์ในกรุงเทพ เป็นร้านอาหารอินเดียที่ปรุงโดยเชฟอินเดียแท้ ๆ ชื่อเดียวกับชื่อร้าน เชฟกากั้น อนันต์ (Gaggan Anand) เชฟกากั้นเคยทำงานอยู่ร้าน elBulli ร้านอาหารมิชลิน 3 ดาวในประเทศสเปน ซึ่งเป็นร้านที่ถูกคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ของโลก ที่จัดโดย The World’s 50 Best Restaurant ถึง 5 ปี เชฟกากั้นย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2007 จากนั้นก็เปิดร้านกากั้นในปี 2010 ซึ่งร้านกากั้นเป็นร้านอาหารอินเดียแนวใหม่ที่เรียกว่า Progressive indian cuisine และร้านนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นร้านอาหารที่ได้อันดับที่ 1 ของประเทศไทย อันดับที่ 1 ของเอเชีย และอันดับที่ 10 ของโลกที่จัดโดย The World’s 50 Best Restaurant เป็นร้านอาหารอินเดียเพียงร้านเดียวที่ติดอันดับ 10 อันดับแรกของโลก ติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับ ร้านอาหารมิชลิน สตาร์ในกรุงเทพ และNetflix Chef’s Table Season 2 Episode 6 – สารคดีเชฟส์เทเบิ้ล ฉายบนเน็ทฟลิก ซีซั่น 2 ตอนที่ 6 นี่เป็นหนึ่งในร้าน Bucket list ต้องกินให้ได้ก่อนตาย  ใครจะคิดว่าร้านอาหารที่ดีที่สุดอันดับ 1 ในทวีปเอเชีย จะอยู่ในประเทศไทย

สำหรับอาหารทั้งหมดจะเสิร์ฟเป็นคอร์ส ชื่อ Gaggan Experience Menu มีทั้งหมด 25 คอร์ส เปลี่ยนบางเมนูทุก 3 เดือน อาหารที่นี่เป็นแนว Progressive Indian หรือ Molecular Gastronomy แท้ๆ เอาจริงๆ ตอนนี้มันไม่ใช่อาหารอินเดียแล้ว แต่เป็นอาหารไทย อินเดีย ญี่ปุ่นผสมกันอย่างลงตัว (ตกคอร์สละ6500 ++ ต่อคน ไม่รวมเครื่องดื่ม หากกินน้ำเปล่า รวมภาษีแล้วจะได้ราคาต่อคน คนละ 8,000 บาท) ซึ่งเมื่อคุณได้ทานอาหารอินเดียร้านนี้แล้วจะเข้าใจเลยว่าเราสามารถจ่ายเงินซื้อประสบการณ์ความสนุกจากอาหาร ไม่ใช่แค่รสชาติที่อร่อยอย่างเดียว อาหารก็ทำให้ว้าวได้เหมือนเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุกได้เช่นกัน

พิกัด: เลขที่ 68/1 ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต

เปิดให้บริการ วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 13:00-21:00

เว็บไซต์: www.eatatgaggan.com

facebook: facebook.com/gagganbkk

เบอร์โทรศัพท์:  02 652 1700


Himali Cha Cha & son

อาหารอินเดียนิยม

มาที่ร้านอาหารอินเดียต้นตำรับที่ก่อตั้งมายาวนานตั้งแต่ปี 1979 ในบรรยากาศอันแสนอบอุ่น ร้านเป็นบ้านสีขาว ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าให้มาเป็นร้านอาหาร มีด้านหลัง เป็นสวน มีบ่อน้ำ ต้นไม้ ร่มรื่นสุดๆ ซึ่งร้านนี้มักเป็นร้านประจำของบุคคลชั้นสูง รวมถึงผู้คนจากแวดวงฮอลลีวูดที่มาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย

ในด้านเมนูเด่นๆ ที่นี่มีทั้ง Tandoori Chicken หรือไก่ย่างที่ผ่านการหมักด้วยโยเกิร์ตและสมุนไพร โดยการย่างด้วยเตาโอ่งที่ใช้ถ่านทั้งหมดจึงได้รสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นที่หอมแบบสุดๆ ถ้าจะให้สมบูรณ์ก็ต้องกินกับขนมปังนานที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าอบเตาโอ่งเช่นกันแต่นอกเหนือจากแป้งนานและแป้งโรตีที่เราเห็นกันคุ้นๆ ตาแล้ว ก็ยังมีแป้งอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘จะปาตี’ ที่เป็นแป้งแบบนำไปทอดจี่โดยไม่ใช้น้ำมันแบบโรตีอีกด้วย  นอกเหนือจากเมนูนี้แล้ว ที่ร้านยังมีเมนูคลาสสิกอย่าง Chicken Kashmiri เป็นแกงไก่จากแคว้นแคชเมียร์ที่เพิ่มความข้นกว่าแกงประเภท Masala ด้วยโยเกิร์ต รวมไปถึง Prawn Curry แกงกระหรี่กุ้ง และเมนูแสนอร่อยอื่นๆอีกมากมาย

พิกัด: สุขุมวิทซอย 31 กรุงเทพฯ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11:00–15:30, 18:00–22:30

เว็บไซต์: www.himalichacha.com

เบอร์โทรศัพท์: 02 256 6677หรือ02 259 6900


Maya

อาหารอินเดียต้นตำรับ

มาต่อกันที่ร้านอาหารอินเดียที่สูงที่สุดในกรุงเทพโดยตั้งอยู่บนชั้น 29 ของโรงแรมฮอลิเดย์อินน์กับบรรยากาศหรูหราโอบล้อมด้วยผนังกระจกใสที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน นอกจากนี้ก็ยังมีโซนครัวแบบเปิดให้ทุกคนได้นั่งชมเชฟชาวอินเดียผู้มากประสบการณ์อย่าง Ramneek Singh Lamba และลูกทีมปรุงอาหารแบบเพลินๆ หรือจะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่เอาต์ดอร์เลานจ์ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

ในด้านรสชาติต้องบอกเลยว่าเป็นแบบต้นตำรับแสนเผ็ดร้อน แต่ก็แอบหยอดด้วยลูกเล่นในเการจัดวางอย่างพิถีพิถัน สำหรับเมนูที่บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาดก็คือ Peshawari Murgh Tikka ไก่หมักพริกแคชเมียร์และเครื่องเทศนำมาย่างในเตา จนได้กลิ่นหอมกรุ่นเข้ากับเนื้อนุ่มๆ รสชาติอร่อยกำลังดี โดยไม่หนักเครื่องเทศจนเกินไป ส่วนคนรักแซลมอนก็ต้องสั่ง Sarson Salmon Tikka ปลาแซลมอนหมักเครื่องเทศย่างที่เนื้อนุ่มละมุนลิ้น เสริมรสด้วยแกงสักถ้วยอย่าง Seabass Moilee แกงปลากะพงน้ำกะทิ ที่ได้กลิ่นหอมของเนื้อปลาจากการนำไปจี่บนกระทะก่อนจะนำลงต้ม ทั้งยังเจือกลิ่นเผ็ดร้อนของขิงไว้เบาๆ 

ทางด้านของหวานก็แสนอร่อยไม่ว่าจะเป็น Maya Shrikhand โฮมเมดโยเกิร์ต 4 รสชาติทั้งมะม่วง บลูเบอร์รี กุหลาบ และอัลมอนด์ผสมถั่วพิสตาชิโอ ที่นี่ยังมีไวน์ให้เลือกหลายชนิดรวมถึงค็อกเทลอีกสารพัดให้เลือกดื่ม แต่ถ้าไม่รู้จะเลือกเมนูไหน ขอแนะนำให้สั่งแก้วซิกเนเจอร์อย่าง SUGAR-huri-CANE น้ำอ้อยผสมวอดก้าและเตกิล่าที่ทวีคูณความเผ็ดร้อนให้คุณได้อย่างแน่นอน 

หากคุณชอบบรรยากาศดีๆ พร้อมนั่งทานอาหารอินเดียสมัยใหม่ เชฟ sahil Khullar ที่ Maya ตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน
พิกัด: ชั้น 29 โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ

เปิดให้บริการ วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา : 17.00 น. – 01.00 น. 
เว็บไซต์: www.mayathailand.com

Facebook: facebook.com/mayarestaurantandbar

เบอร์โทรศัพท์: 02 683 4888


Indus

อาหารอินเดียใหม่

Indus ร้านอาหารอินเดียในซอยสุขุมวิท 26 ที่มีคนนิยมไม่แพ้ที่อื่น โดยได้คงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับสูงและความทุ่มเทในการให้บริการอาหารอินเดียสไตล์ mughalai แท้ๆตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งภายในดูหรูหรามีบาร์ขนาดใหญ่ สวนเขตร้อน พร้อมที่นั่งกลางแจ้งและห้องอาหารส่วนตัว นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยงานศิลปะที่น่าประทับใจในขณะที่ประตูมีกรอบโบราณของ rajasthani เพื่อสร้างบรรยากาศที่สง่างาม แสงสว่างสลัวเพลงเลานจ์และทิวทัศน์รอบด้านของสวนตกแต่งอย่างสวยงามทำให้บรรยากาศของการรับประทานอาหารรสเลิศเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ

indus มีเจ้าของคือคุณ sid sehgal จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในปีพ. ศ. 2547 และเดินทางกลับกรุงเทพฯโดยมีความปรารถนาที่จะ “สร้างร้านอาหารอินเดียที่สดใหม่และมีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์และที่สำคัญที่สุดคืออาหารอร่อย”

ส่วนเชฟ amit kumar เน้นการจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีคุณภาพสูงที่ปลูกในสภาวะที่ยั่งยืนโดยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้และมีคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ ซึ่งรวมถึงการปลูกส่วนผสมบางอย่างในฟาร์มที่เป็นของร้านอาหารและจากฟาร์มอื่นๆพร้อมทั้งเครื่องเทศของอินเดียนำเข้าทั้งหมด และเก็บไว้ในสภาวะที่ควบคุมอุณหภูมิได้แล้วนำมาบดเป็นประจำทุกวันเพื่อรักษาความสดและความทุ่มเทให้กับอาหารรสชาติแบบดั้งเดิม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อาหารรสชาติอร่อยสมความต้องการ สำหรับเมนูแนะนำ เช่น khumb galouti

ที่ถึงกับละลายในปากที่กันเลยทีเดียว kangura kalimirch peppercorn & กระเทียม seared หอยเชลล์ใน spiced มะเขือเทศกระเทียม chutney หรือจะเป็น indus nawabi raan ขาแกะที่ปรุงนานถึง 7 ชั่วโมง นอกจากนี้ก็ยังมี

ไก่ห่อแป้งในแบบมุมไบ เคบับและขาแกะในซอสโยเกิร์ต เป็นต้น

พิกัด: 71 สุขุมวิท ซอย 26

เปิดให้บริการทุกวัน 11:30–14:30, 18:00–22:30

เว็บไซต์: www.indusbangkok.com

Facebook: facebook.com/indusbkk

เบอร์ทาศัพท์:  02 258 4900


Indian Food เจริญนคร

อาหารอินเดียทันสมัย

ร้านอาหารอินเดียยอดนิยมในกรุงเทพฯจะไม่พูดถึงร้านนี้คงไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นตึกแถว 1 ห้องเล็กๆที่ติดกับร้านหอยทอดชาวเล บรรยากาศในร้านอาจจะดูทึมๆ นิดหน่อย แต่ก็เป็นสไตล์ของร้านอาหารอินเดียที่ไม่เคยเห็นไปอีกแบบ ส่วนด้านในร้านจะเป็นห้องแอร์ มีโต๊ะรองรับลูกค้า ในด้านอาหารรสชาติยอดเยี่ยมรับรองได้ว่าทานแล้วจะติดใจแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น  Chicken Samosa ลักษณะมองภายนอกเหมือนกะหรี่ปั๊บชิ้นโต ด้านในจะเป็นไส้ไก่สับกับถั่วลันเตาที่ผัดจนนิ่มกำลังดี รสชาติตัวไส้ไม่แห้งเกินไปมีความฉ่ำน้ำ จะมีความเค็มเผ็ดแบบอินเดีย เสิร์ฟมาทานคู่กับซอสมิ้นท์ของอินเดียที่มีความหอมของใบสาระเน่ รสจะออกเปรี้ยวอมหวาน ไม่เผ็ดทานคู่กับ samosa แล้วเข้ากันเป็นอย่างดี หรือจะเป็น Cheese Noodles ลักษณะคล้ายกับเส้นโซบะผัดชีสและมีกลิ่นหอมของเนย ผัดกับ paneer หรือชีสของอินเดียที่รสชาติเค็ม มัน อร่อยไม่แพ้กัน Chicken ลักษณะคล้ายๆกับข้าวหมกไก่ ทานคู่กับเนื้อไก่หมักกับเครื่องเทศครบรส รสชาติเด็ดขาดจนต้องยกนิ้วให้ Lachha parathaทางร้านทำอาหารอินเดียได้รสชาติจัดจ้านหอมเครื่องเทศ และถูกปากคนไทยมาก แกงแพะสับที่ผัดมาแบบแห้ง ๆ จนเครื่องเทศซึมเข้าไปในเนื้อแพะสับละเอียดรสชาติจัดจ้านออกเค็มนิดแต่ถูกปากมาก  

ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง ราคาไม่แพง มีอาหารให้เลือกหลากหลาย และมีบริการที่ดี ท่ามกลางบรรยากาศความเป็นอินเดียนิดๆ ลองมาแล้วจะติดใจแน่นอน

พิกัด: ถนน เจริญนคร (ใกล้เจริญนคร 17) คลองต้นไทร , คลองสาน , กรุงเทพมหานคร

เปิดให้บริการทุกวัน 10:30 – 22:00

เว็บไซต์: www.facebook.com/pages/category

เบอร์โทรศัพท์: 087 021 2203, 085 050 7204


Masala Art Eight Thonglor

อาหารอินเดียสไตส์

มาซาลาศิลปะของเครื่องเทศ ร้านอาหารอินเดียร่วมสมัยและมีสไตล์ซาลาห์ศิลปะคือการผสมผสานการทำอาหารระหว่างอาหารศิลปะและการสะท้อนวัฒนธรรม แต่ละจานของที่นี่จึงสุกช้าๆเพื่อให้รสชาติกลมกล่อม สมบูรณ์แบบ โดยทีมงานที่มีพรสวรรค์ของเชฟ ด้วยรสชาติที่ไม่ซ้ำกันขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ละเอียดอ่อนของเครื่องเทศ ขั้นตอนการทำอาหารง่ายๆและคุณภาพของเนื้อแต่ละจานถูกตั้งไว้เพื่อเสนอประสบการณ์ที่เหมาะสม พร้อมจัดแต่งอย่างสวยงาม โดยจานลายเซ็นของที่นี่คือ ขาย่างของลูกแกะหรือ khusk raan ที่ไม่ลองไม่ได้เลย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ร้านนี้ได้รับรางวัลหลายต่อหลายรางวัล หากคุณชอบร้านอาหารอินเดีย ในบรรยากาศร้านที่สวยงาม พนักงานบริการดูแลเอาใจใส่ดีมาก ที่นี่คือคำตอบของคุณ

พิกัด: ถนน สุขุมวิท (ชั้น 2 Eight Thonglor) คลองตันเหนือ , วัฒนา , กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ: 11:00 – 23:00

เว็บไซต์: www.masala-artbkk.com

facebook : facebook.com/MasalaArtBangkok

เบอร์โทรศัพท์:  02 713 8357


Royal India พาหุรัด

อาหารอินเดียดี

รอยัลอินเดีย เป็นร้านที่เปิดมานานตั้งแต่ 45 ปีโน้น จึงได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารอินเดียแห่งแรกในประเทศไทยกันเลยทีเดียว นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาที่นี่ได้ให้บริการอาหารอินเดียแท้ๆและขนมหวานแก่ชุมชนชาวอินเดียขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ที่พาหุรัด รวมทั้งคนรักอาหารอินเดียทั้งในประเทศและจากทั่วโลก ตลอดระยะเวลาอันยาวนานร้านอาหาร Royal India Restaurant ของ Phaurad ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของประเทศอินเดียได้รับรางวัลมากมายเช่นรางวัล ‘ร้านอาหารไทยยอดเยี่ยม’ ประจำปี 2545 ถึง 2552 จากนิตยสาร Thailand Tatler นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์อาหารมากมายจากทั่วโลก

พ่อครัวของที่นี่ได้เรียนรู้ศิลปะในการจัดเตรียมอาหารอินเดียแท้ๆและน่ารักโดยไม่พลาดรสชาติและแนวแปลกใหม่ คุณจึงดื่มด่ำกับรสชาติแสนอร่อย เครื่องเทศของอินเดียโดยเชฟที่เดินทางมาจากอินเดีย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อไก่ที่ทอดแบบเผ็ดร้อนของไก่ tikka ซึ่งยังคงเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ชื่นชอบทุกเวลา สำหรับอาหารมังสวิรัติที่นี่ ก็อร่อยสังเกตได้จากจำนวนสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา สำหรับคนที่รู้จักความมหัศจรรย์ของ Paneer (ชีสกระท่อมอินเดีย) ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการทาน ‘Paneer Makhani’  แกงกะหรี่แกะ Palak Paneer ทำผลงานได้ดีทั้งรสชาติและสุขภาพของคุณ หรือจะเป็นแกงที่เป็นขนมปัง Naan คุณสามารถสั่งให้พวกเขายัดไส้ด้วย paneer, มันฝรั่งหรือวางกับกระเทียม สำหรับเครื่องดื่มก้มีให้เลือกหลากหลายชนิด แต่ที่พิเศษคือ Indian Lassi ที่มีชื่อเสียงและชา Masala

ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ พอไปถึงก็ได้กลิ่นอาหารอินเดียลอยมาเตะจมูกกันเลยทีเดียว ต้องบอกว่าอาหารอร่อยมากจนแม่ช้อย นางรำและเปิบพิสดารมาเยือนแล้ว ถ้าคิดถึงอาหารอินเดียร้านนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีของคุณเช่นกัน

พิกัด: ถนน จักรเพชร (ซอยบพิตรพิมุข) วังบูรพาภิรมย์ , พระนคร , กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 10:00 – 22:00

เว็บไซต์: royalindiathailand.com

Facebook: facebook.com/royal.india.th


Charcoal Tandoor Grill

เครื่องแกงอินเดีย

มาต่อที่ร้านชาโคล์ที่อยู่ในโรงแรมเฟรเซอร์ ซอยสุขุมวิท11 กันบ้าง ต้องบอกเลยว่าที่นี่เป็นร้านอาหารอินเดียมีระดับ บรรยากาศดี ร้านสวยงามดูหรูหรา อาหารอร่อย พนักงานได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ทั้งการใช้ภาษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ท่าทาง และความเอาใจใส่ลูกค้า ส่วนของบาร์ค่อนข้างสมบูรณ์สวยงาม มีเมนูเครื่องดื่มคัดสรรมาให้เลือกหลากหลาย ทั้งค็อกเทลที่ใช้เครื่องเทศของอินเดีย คลาสสิคค็อกเทล ไวน์ และอื่นๆ อาหารจะเด่นในส่วนของย่าง ซึ่งทำได้เป็นอย่างดี อาหารที่สั่งอร่อยแบบทุกจาน รสเครื่องเทศหอม ไม่มากเกินไป เป็นร้านอาหารอินเดียที่ทานไม่ยากเลย

สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มจากอาหารทานเล่นอย่างปอมปาดอม ที่เป็นแป้งบางๆจิ้มกับน้ำจิ้มหลายสีให้เลือกทั้งสีเขียว เหลืองและสีแดง หอมเครื่องเทศ หรือจะเป็นขาแกะย่าง หมักจนเปื่อยนุ่ม ใส่เครื่องเทศหลายสิ่งอย่าง กินกับแป้งนาน เข้ากันอร่อยมากๆ MURGH ANGAAR ไก่หมักเครื่องเทศแล้วย่าง จานนี้หอมเครื่องเทศมาก ทานคู่กับ PANEER TIKKAเข้ากันเลย Murgh Yakhni BIRYANI อันนี้คือข้าวอินเดียอบในหม้อดินกับไก่ กลิ่นเครื่องเทศหอมมาก ข้าวมีรสชาติและกลิ่นของเครื่องเทศเตะจมูกมาก นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูแสนอร่อยอื่นๆอีกมากมาย ใครอยากรู้อาหารอินเดียที่แท้จริงเป็นอย่างไร แนะนำให้มาร้านนี้เลย แล้วคุณจะรัก

พิกัด: 38/8 ถนนสุขุมวิท ซอย 11 คลองเตยเหนือ , วัฒนา , กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 18:00 – 23:59

เว็บไซต์: www.charcoalbkk.com

Facebook: facebook.com/charcoalbkk

เบอร์โทรศัพท์:  089-307-1111


Mrs. Balbir’s  Indian Cuisine

อาหารอินเดียมาตรฐาน

อีกหนึ่งร้านอาหารอินเดียที่อยากแนะนำ Mrs. Balbir’s เป็นร้านรสชาติแบบกลางๆ ทานง่าย ถึงรสเครื่องเทศและไม่ฉุนเกินไป จึงน่าจะถูกใจกับผู้เริ่มทาน ซึ่งอาจไม่คุ้นชินกับรสเครื่องเทศจัดจ้านมากนัก แม้จะออกตัวว่ามือใหม่ทานง่าย แต่คออาหารอินเดียก็คงถูกปากถูกใจไม่แพ้กัน ด้วยประสบการณ์การเปิดร้านอาหารในไทยกว่า 41 ปี กับ 9 สาขาในกรุงเทพ คุณ Vinder Balbir จึงคุ้นชินกับรสชาติที่ถูกปากชาวไทย และผสมผสานกับเมนูอินเดียนต้นตำรับได้ครบรสลงตัว

สำหรับเมนูแนะนำได้แก่ Chicken Tikka Masala หรือแกงไก่แบบอินเดียแท้ๆ เครื่องแกงไม่หวานนำเหมือนที่อื่น แต่ถ้าหากใครชอบเผ็ดๆ ลองสั่งเป็นแกง Vindalooดู ส่วนอาหารประเภท Tandoor แนะนำ Tandoori Fish Tikka เนื้อปลาชิ้นโต ทานง่ายไม่มีก้าง ตัวเนื้อปลาไม่แห้งด้วย อีกจานที่อยากให้ลองคือ Mango Salad ประกอบด้วยมะม่วงสุกหวาน คลุกเครื่องเทศและน้ำสลัดรสเปรี้ยว เป็นจานเคียงคู่กับแกงอีกสักจาน ร้านนี้มีหลายสาขา แต่ที่สาขาสีลมกับสุขุมวิท 11/1 จะมีรายการอาหารให้เลือกหลากหลายกว่า

ที่นี่ยังมีการเรียนทำอาหารอินเดียอีกด้วย นั่นคือ
– เรียนทำอาหารอินเดียแบบมังสวิรัติ
-เรียนทำอาหารอินเดียคอร์สเริ่มต้น
-เรียนทำอาหารสำหรับเชฟและผู้ประกอบการ และ
-คลาสเรียนทำอาหารอินเดียแบบวีแกนอื่นๆ

              อยากทานอาหารอินเดียอร่อยๆ อย่ามองข้าม Mrs. Balbir’s  Indian Cuisine เด็ดขาด

พิกัด :
สาขาซอยสุขุมวิท 11/1 ใกล้กับรถไฟฟ้านานา ในซอยสุขุมวิท 11/1 ข้าง Business Inn
สาขา Silom Complex ติดรถไฟฟ้าศาลาแดง ชั้น B ใกล้กับร้านแซ่บอิลี่ ออกจาก Tops Supermarket เลี้ยวขวา

เวลาทำการ : สาขาสุขุมวิท 11/1 อังคาร – อาทิตย์ 11.30 – 22.30น.
และ สาขาสีลมคอมเพล็ก จันทร์ – อาทิตย์ 10.0 – 21.30น.
สาขาโรบินสันสุขุมวิท, เซนทรัลเวิร์ลดิ์, แพลตตินัม แฟชั่น มอลล์, มาบุญครอง เปิดปิดตามเวลาฟู้ดคอร์ท และสาขาเอเชียทีค เปิดอังคาร – อาทิตย์ 15.00 – 23.00 น.

เว็บไซต์: www.mrsbalbirs.com

อีเมล mrsbalbirs.info@gmail.com

facebook : facebook.com/mrsbalbirs

เบอร์โทรศัพท์:  02-651-0497, 081-835-6553


Indian Hut

ร้านอาหารอินเดีย

สำหรับร้านสุดท้ายขอไปที่ Indian Hut ร้านอาหารอินเดียอยู่ข้างๆโรงแรมมโนราห์ ถ.สุรวงศ์ ซึ่งเมื่อไปที่นี่รับรองว่าจะได้ดื่มด่ำกับอาหารอินเดียเหนืออย่างราชา พร้อมโคมระย้าหรูหรา ในภัตตาคารอินเดียนแบบ fine-dining ที่ต้อนรับเราอย่างประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน ด้วยบรรยากาศแบบอินเดียที่เข้มข้น พนักงานบริการสุภาพ จนได้รับการจัดให้เป็น “ร้านอาหาร BEST Dining Place” 

ในด้านรสชาติอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอินเดียเหนือที่ทานกับแป้งนาน หากเป็นอาหารจานข้าวจึงเป็นอาหารอินเดียใต้ รสชาติจะไม่จัดจ้านอย่างของชาวใต้ที่คนไทยติดภาพ แต่เดิมเกิดมาเป็นอาหารชาววังเป็นส่วนใหญ่ พอเกิดสงครามเหล่าพ่อครัวของกษัตริย์ต้องพลัดถิ่นฐาน ก็พาสูตรพวกนี้ไปเผยแพร่ด้วย มักจะเน้นไขมันเนย,โยเกิร์ต,นมแพะ,เนื้อแพะ เพราะทางเหนือมันหนาว

ส่วนที่อินเดียนฮัท ให้บริการอาหารอินเดียตอนเหนือ แบบแคว้นปัญจาบ และอาหารฟิวชั่นอินเดีย – จีน มีลูกค้าทั้งชาวไทย ชาวอินเดีย และฝรั่งตะวันตก เวียนกันมาใช้บริการกันคึกคัก อาหารรสชาติดี ถือว่าปรุงได้ถูกต้องทั้งรสชาติ วิธีการ และวัตถุดิบครับ ตั้งแต่โยเกิร์ตเครื่องเคียงก็ใช้ Raita (รายตา) ที่รวมกับผักต่างๆ ไว้ทานแก้เลี่ยน หรือข้าวที่ใช้ก็เป็นข้าวบาสมาติ เม็ดเรียวยาว หอมร่วน แบบอินเดียเลย

ในส่วนของราคาก็ต้องบอกว่าแรงอยู่ แต่เทียบกับคุณภาพและบริการก็ต้องถือว่าคุ้มเกินคุ้ม  สำหรับเมนูแนะนำได้แก่  กุ้งมังกร Tawa Masala, Butter Chicken, เคบับ ไก่ทันดูรี, ข้าวหมกแพะ แกงกะหรี่ ไม่เหม็น ไม่เลี่ยน กลมกล่อมกำลังดีเลย nanที่ทำมาใหม่ๆกลิ่นหอมๆแป้งนุ่มนวล,ข้าวsaffran ทานกับแกงไก่หรือแกงกุ้งเข้ากันมาก อร่อยมาก แนมกับเครื่องเคียงก็มีหลายแบบหลายอย่าง  หากคุณชอบอาหารอินเดียในบรรยากาศดีๆที่นี่ใช่เลย

พิกัด : เลขที่ 418 ถนน สุรวงศ์ ตรงข้ามโรงแรมมโนราห์

เวลาทำการ : ทุกวัน 11.00 – 23.00 น.

เว็บไซต์: : www.indianhut-bangkok.com

อีเมล : indianhutbangkok@gmail.com

เบอร์โทรศัพท์ : 02-236-5672 , 085-846-1929

Kongrath
Kongrath

The inspiration about writing comes from hour and hour of constant work because I want to make contribution to the world.

Top Best Brand สุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด
Logo