10 ร้านอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ต้นตำรับไทยแท้

10 ร้านอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ต้นตำรับไทยแท้
อาหารไทยไม่ใช่เพียงแต่ขึ้นชื่อในหมู่ของคนไทยเท่านั้น อาหารไทยยังดังไกลไปทั่วโลกดังนั้นร้านอาหารไทยจึงเป็นร้านอาหารฮอตฮิตติดลมไปทุกมุมโลกและในกรุงเทพที่เป็นเมืองหลวงเองก็มีร้านอาหารไทยอยู่เต็มไปหมดนับไม่ถ้วน ดังนั้นวันนี้บทความของเราได้คัดสรรสุดยอดแห่งร้านอาหารไทยมาให้ผู้อาหารเพื่อเป็นทางเลือกในการพิจารณา
สิ่งที่จะใช้ในการเลือกร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯของคุณ มีดังนี้
(1) ความสะอาดของร้าน
ร้านอาหารไทยยอดนิยมในกรุงเทพฯ ต้องสะอาด พื้น ผนังเพดานอยู่ในลักษณะที่สะอาด เก็บข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อย บริเวณปรุงอาหารและบริเวณที่ล้างภาชนะ อุปกรณ์ต้องอยู่ในลักษณะสะอาด ยิ่งอยู่สูงจากพื้นอย่างน้อยสัก 60 เซนติเมตรยิ่งดีใหญ่ ถ้าร้านแช่อาหารสดไว้ในถังน้ำแข็ง ต้องแยกถังน้ำแข็งสำหรับกินกับถังที่แช่อาหารสดออกจากกัน เพราะเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ได้ปรุงตลอดจนผักสดต่างๆอาจมีเชื้อก่อโรคหรือพยาธิปะปนอยู่ ความร้อนจากการปรุงจะทำลายเชื้อเหล่านี้ได้ แต่หากเนื้อสัตว์ดิบสัมผัสกับน้ำแข็ง การปนเปื้อนเชื้อก่อนโรคเข้าสู่ร่างกาย อาจก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าที่คิดก็ได้ ส่วนในด้านของห้องน้ำควรสะอาด มีสบู่และน้ำเพียงพอต่อการล้างมือ
(2) ผู้ขายต้องดูดี สะอาดสะอ้าน
สิ่งหนึ่งที่จะรู้ว่าร้านอาหารไทยนั้นสะอาดหรือไม่ ให้ดูได้ที่การแต่งกายของผู้ขาย หรือผู้ที่ต้องสัมผัสกับอาหารก่อนถึงมือเรา ผู้ซึ่งควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด รัดกุม ไม่ใส่เครื่องประดับที่อาจหลุดร่วงลงในอาหารใส่หมวกหรือเน็ตคลุมผม ป้องกันผม เหงื่อหรือสิ่งอื่นหลุดร่วงลงไปในอาหาร อาจใส่หน้ากากอนามัยเพื่อปิดปาก เพื่อป้องกันการไอ จาม ลงไปในอาหาร ควรมีอุปกรณ์ช่วยในการสัมผัสอาหารไม่ใช่มือหยิบจับอาหารโดยตรง กรณีที่ผู้ปรุงหรือสัมผัสอาหารมีบาดแผล ควรปกปิดบาดแผลด้วย
(3) อุปกรณ์ทำอาหาร อุปกรณ์ประกอบอาหารรวมถึงเครื่องครัวทั้งหมดต้องสะอาด
ร้านาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯต้องสะอาดตั้งแต่กระบวนการล้างไปจนถึงการเก็บ โดยให้สังเกตอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดแล้ว โดยสังเกตง่ายๆ เช่น ช้อน ส้อม จาน ชาม ต้องสะอาดไม่เป็นมัน ตะกร้าหรืออุปกรณ์ที่ใส่ควรมีลักษณะโปร่ง เพื่อไม่ให้มีน้ำขังอยู่ภายใน จาน ชาม หรือแก้วน้ำต้องอยู่ในลักษณะคว่ำป้องกันฝุ่น แมลง หรือสิ่งปนเปื้อนอื่นสัมผัสกับจานหรือชามนั้นๆ
(4) ความอร่อย
ร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯต้องมีความอร่อยมาอันดับ 1 โดยสามารถสังเกตได้จากจำนวนลูกค้าในร้าน การต่อแถวรอ การรีวิว การบอกต่อ หรือการไปออกรายการโทรทัศน์ เป็นต้น
(5) มีป้ายรับรองคุณภาพอาหารต่างๆ
ร้านอาหารไทยยิดนิยมในกรุงเทพฯควรมีป้ายอาหารปลอดภัยนื่องจากมีหน่วยงานจำนวนมาก ที่อยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนไทยในชีวิตประจำวัน จึงมีการกำหนดมาตรฐานของร้านอาหาร เมื่อร้านใดผ่านเกณฑ์ก็จะมีเครื่องหมายรับรองกำกับไว้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการรับรองคุณภาพของอาหารประจำว่า ปลอดภัยกับสุขภาพเรา นอกจากนี้อาจเป็นป้ายแม่ช้อยนางรำ อะไรประมาณนี้ยิ่งดีใหญ่
(6) ราคาสมคุณภาพ
ร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯควรมีราคาที่เหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เพราะหากราคาถูกมากอาจเกี่ยวกับมาตรฐานของอาหารได้
10 ร้านอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ต้นตำรับไทยแท้
Ruen Mallika
ร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯร้านแรกขอเป็น “เรือนมัลลิการ์” เนื่องจากเป็นร้านอาหารไทยที่ให้สัมผัสถึง รสชาติของอาหารไทยคุณภาพเยี่ยม ซึ่งสืบทอดตำนานฝีมือการทำอาหารรสเลิศ จากตำรับเลื่องชื่อพร้อมเก็บเกี่ยวสรรพเสน่ห์ แห่งวัฒนธรรมไทย อย่างสมบูรณ์แบบตามวิถีของ กินอย่างไทย อยู่อย่างไทย ให้สัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเยือน เริ่มต้นจากรสชาติเข้มข้นจัดจ้านของ อาหารไทยที่ผ่านการปรุงแต่งด้วย วัตถุดิบชั้นเยี่ยม อย่างพิถีพิถัน ตลอดจนการให้บริการ รวมถึงบรรยากาศที่แวดล้อม อาหารทุกจานเสิร์ฟด้วยภาชนะศิลาดลซึ่งเป็น เครื่องปั้นดินเผาสีเขียว พร้อมประดับจัดแต่งจานด้วยผัก ผลไม้ แกะสลักลวดลายให้เป็นดอกไม้ ใบไม้อย่างวิจิตรบรรจง เสิร์ฟขันน้ำลอยดอกมะลิสำหรับลูกค้า ใช้ล้างมือก่อน รับประทานอาหาร เครื่องแต่งกายของพนักงาน จะใช้ผ้าแถบคาดอกพร้อมคลุมไหล่ นุ่งผ้าถุงทอมือลายพื้นเมือง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับชุดลาวพวน
เรือนมัลลิการ์ขลังไปด้วยบรรยากาศของวันวานอันแสนอบอุ่น ด้วยตัวร้านตั้งอยู่ในเรือนไทยอายุกว่า 200 ปี ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมตามตำรับโบราณ เชื่อได้เลยว่าคุณจะต้องประทับใจกับการแกะสลักผักผลไม้ที่แสนวิจิตรสวยงาม ในด้านรายการอาหารของเรือนมัลลิการ์มีความหลากหลายโดยมีเมนูอยู่ในลิสต์มากกว่าร้อยรายการ ทั้งจานต้นตำรับอย่างต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน อาหารจานผัด ไปจนถึงน้ำพริกเครื่องจิ้มต่าง ๆ อาหารจานเด่นที่เป็นลายเซ็นต์ของทางร้านคือยำดอกไม้ เรือนมัลลิการ์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการอนุรักษ์วิถีการกินอยู่อย่างโบราณ และลูกค้ายังสามารถสนุกสนานไปกับการลองเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแบบไทย ๆ พร้อมนั่งล้อมวงรับประทานอาหารอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้เรือนมัลลิการ์เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติโดดเด่นจนทำให้เป็นร้านอาหารไทยยอดนิยมในกรุงเทพฯในที่สุด ที่หลายๆคนหลงรัก รวมทั้งคนต่างชาติที่มาประเทศไทยด้วย ลองมาสักครั้งแล้วคุณจะไม่ผิดหวัง
พิกัด: 189 ซอยสุขุมวิท 22
เปิดบริการ วันจันทร์-วันอาทิตย์ 12.00 – 23.00 น.
เว็บไซต์ : www.ruenmallika.com
facebook : facebook.com/RuenMallika
เบอร์โทรศัพท์: 02 663 3211
Thonkrueng
ต้นเครื่อง ร้านอาหารไทยที่จัดว่าเป็นร้านอาหารไทยแบบดั้งเดิมขนานแท้ ทั้งการจัดร้าน การจัดจานเมนูต่างๆนานา อีกทั้งยังมีหลากหลายเมนูอาหารไทยรอให้คุณได้เลือกที่จะลิ้มลองกัน เหมาะกับการชวนครอบครัว เพื่อฝูงมาทานข้าวมากๆ ซึ่งร้านอาหารต้นเครื่องเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าของร้านมากว่า 30 ปี ล่าสุด ต้นเครื่องได้ย้ายไปอยู่ในซอยสุขุมวิท 49/13 ที่ไม่ไกลจากเดิม ร้านใหม่ที่กว้างขวางนี้มาพร้อมกับการตกแต่งแบบร่วมสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านดั้งเดิม เช่น ป้ายชื่อกับฟ้อนท์เท่ ๆ หรือแม้แต่น้ำพุที่ชาวต่างชาติหลายคนชอบมาถ่ายรูปกัน โดยร้านต้นเครื่องนับเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกในซอยทองหล่อ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยมายาวนาน เพราะได้สูตรอาหารมาจากรุ่นคุณทวดของเจ้าของร้านที่พัฒนาสูตรมาจากการศึกษาตำราต่าง ๆ ในวัง
ในเรื่องอาหารนั้น ที่นี่ให้ความสำคัญกับการปรุงที่ถึงเครื่องครบรส ตามสูตรอาหารไทยแท้ ๆ ที่ส่งผ่านกันมากว่าสามรุ่น โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ร้านโดดเด่นไม่เหมือนร้านอาหารไทยหลายร้านคือวัตถุดิบที่มีคุณภาพ อย่างเช่น ทางร้านเลือกใช้แต่กะทิสด ไม่ใช้มะนาวเทียม หอยนางรมเกรดดีจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี น้ำปลาจากจังหวัดสมุทรสงคราม และที่เป็นตัวเอก คือ พริกแกงโฮมเมดที่ไม่หวงเครื่อง
สำหรับเมนูที่ต้องยกนิ้วให้ มีหลายเมนู อย่าง ห่อหมกขนมครก ที่เหนียวนุ่มจากการกวนเนื้อปลากรายล้วนกับพริกแกงให้เข้ากันแล้วนำมานึ่งจนหอมอร่อย เนื้อย่างจิ้มแจ่ว กับเนื้อที่สุกกำลังพอดีและน้ำจิ้มสูตรเด็ด กุ้งแม่น้ำ ที่ไม่ต้องขับรถไปทานไกลถึงอยุธยา โดยย่างมาแบบดีเยี่ยมพร้อมมันกุ้งเยิ้ม ๆ ทำเอาหลายคนติดใจ นอกจากนี้ก็ยังมีขนมจีนซาวน้ำ ยำทวาย พระรามลงสรง ม้าฮ่อ แสร้งว่าผักชุด และ ข้าวมันส้มตำ ที่สำคัญ อย่าลืมดับร้อนด้วย ข้าวแช่ สูตรพิเศษกับหอมยัดไส้ปลาที่รับรองว่าไม่เหมือนใคร ส่วนใครที่อยากทานอาหารจานเดียวเขาก็มีอย่าง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ โกยซีหมี่ และหมี่กรอบ ทานกันได้ ใครเป็นมังสวิรัติ ทางร้านก็มีเมนูเจให้เลือกมากมาย อย่าง ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์เจ และฉู่ฉี่เจ เป็นต้น หากคุณต้องการทานอาหารแบบไทยแท้ๆที่นี่จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
พิกัด: ซอยสุขุมวิท 49/13 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – อาทิตย์ 11.00 – 22.30 น.
เว็บไซต์: facebook.com/Thonkrueng
เบอร์โทรศัพท์: 0-2185-3072, 08-1449-1926
Baan Khanitha
ด้วยความหลงใหลในอาหารไทยที่มีคุณภาพสูงและความคาดหวังเพื่อความสะอาดการบริการและการตกแต่งที่จะเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารไทยแท้ๆจึงทำให้นักออกแบบร้านไหมไทยชื่อดัง Khanitha Akaranitikul หันมาเปิดเป็นภัตตาคารแห่งแรก ‘บ้านขนิษฐา’ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2536 ในบ้านสุขุมวิทซอย 23 การออกแบบตกแต่งภายในถูกตกแต่งด้วยงานฝีมือโบราณอันวิจิตรงดงามประติมากรรมภาพวาดและต้นไม้เพื่อให้กลิ่นอายของไทยอบอุ่นและอบอุ่น
อาหารไทยที่มีชื่อเสียงทำให้บ้านขนิษฐาเป็นร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยความอร่อยของรสที่เลือกเฉพาะวัตถุดิบที่สดใหม่และสะอาดที่สุดที่มีคุณภาพสูง เครื่องเทศไทยและกลิ่นสมุนไพรเพื่อรับรองประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยแท้ๆ หลากหลายเมนูเพื่อตอบสนองความต้องการของแขกทุกท่าน และพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาเพื่อเข้าร่วมรายละเอียดทั้งหมดและข้อกำหนดพิเศษอื่น ๆ เพื่อป้องกันอาการแพ้อาหาร
บ้านขนิษฐา ร้านอาหารไทยดีกรีรางวัล “Bangkok’s Best Thai Restaurant” เป็นประกัน ความโดดเด่นในเมนูอาหารไทยโบราณที่หารับประทานยาก รวมทั้งรสชาติและกรรมวิธีการปรุงแบบไทยโบราณขนานแท้ วัตถุดิบคุณภาพสูงมีความสดใหม่จากทั้งไทยและนำเข้า ซึ่งเมนูอร่อยก็เช่น “แกงคั่วเนื้อปูใบชะคราม” ที่เสิร์ฟกับเส้นหมี่ลวก รสชาติอร่อยมาก “ปลาหิมะสมุนไพร” รสจัดจ้านแบบไทย เป็นเมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบต่างประเทศกับการปรุงในแบบไทยโบราณ นอกจากนี้ก็ยังมี ฉู่ฉี่กุ้งอยุธยา, ปลาหิมะนึ่งมะนาว, หอยเชลล์ผัดกะเพรากรอบ, ปูนิ่มราดซอสแกงเขียวหวาน ที่อร่อยไม่แพ้กันอีกด้วย
ปัจจุบันบ้านขนิษฐาได้ขยายความอร่อยออกไปอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาบ้านสาทร ภายใต้การตกแต่งร้านด้วยภาพเขียนของศิลปินชื่อดัง สาขาบ้านสุขุมวิท 53 และสาขาบ้านริมน้ำเอเชียทีค ล่าสุดมีบ้านขนิษฐา ครูสอีกด้วย สนใจไปเช็กอินที่ร้านบ้านขนิษฐาสาขาไหนก็จัดไป รับรองอร่อยเด็ดจนต้องไปบ่อยๆ
พิกัด: 31 ซอยสุขุมวิท 53 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – อาทิตย์ 11.00 – 22.30 น.
เว็บไซต์: www.baan-khanitha.com
เบอร์โทรศัพท์ : 088-249-8191 , 02-259-8530
ERR
เป็นอีกร้านอาหารชื่อแปลกแต่ก็ดูง่ายๆจริงใจดี ได้แก่ร้าน “เออ” ที่อยู่แถวถนนมหาราช ใกล้ๆวัดโพธิ์นั่นเอง ซึ่งร้านนี้จะมีจุดเด่นที่ภายในร้านมีเคาเตอร์บาร์ ตู้โชว์ โต๊ะ เก้าอี้ จัดเข้ามุม ดูโปร่งสบายๆ ไม่อึดอัด ตลอดจนใบปิดต่างๆย้อนยุคแบบในสมัยก่อน ตามความต้องการของเชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และ เชฟดีแลน โจนส์ ซึ่งเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบระดับคุณภาพ ให้ออกมาเป็นเมนูอาหารบ้าน ๆ ที่มุ่งเอาใจคนกรุงผู้โหยหารสชาติสไตล์ท้องถิ่น ที่นี่เสิร์ฟอาหารขนาดพอดีคำจานไม่ใหญ่มากนัก เพื่อให้เหมาะจะกินแกล้มรื่นรมย์ไปพร้อมเครื่องดื่ม ทางร้านยังมีจุดเด่นในเรื่องของการถนอมอาหาร อาทิ ไส้กรอกอีสาน ผักดองต่าง ๆ หมูแดดเดียว และปลาเค็ม ฯลฯ นอกจากนี้ร้านอาหารไทยแห่งนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของเมนูอาหารข้างทาง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นอาหารข้างทางธรรมดา เพราะมาตรฐานคุณภาพและความอร่อยนั้นอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นหมูปิ้ง ไก่สะเต๊ะ คอหมูย่าง และหนังไก่ทอด ซึ่งนำเอาหนังลูกไก่ทั้งตัวไปทอดให้กรอบ แล้วเสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกสูตรโฮมเมด สำหรับใครที่ต้องการอาหารหนักท้องขึ้นมาหน่อย ทางร้านยังมีทั้งเมนูผัดและแกงกระทิที่อร่อยไม่แพ้กัน
“แกงเขียวหวานไก่บ้านและเครื่องใน” เสริฟมาในหม้ออวยเคลือบแบบสมัยก่อน น่ารักน่าทานสุดๆ “คั่วกลิ้งผักสด” อาหารไทยภาคใต้ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดเนื่องจากเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรและสั่งตรงจากทางถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ รวมถึงการคงรสชาติจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารใต้เอาไว้ หรือจะเป็นผัดผักบุ้งไทยกับกะปิชั้นดี ก็ใช่เลย อาหารไทยแท้ๆที่ต้องลอง
หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารไทยยอดนิยมในกรุงเทพฯ ลองดูที่นี่ ร้านอาหารไทยดีๆทำรสชาติแบบไทยแท้ในบรรยากาศดี มีไอเย็นๆ นั่งสบายๆควรมาทดลองซักครั้งแล้วจะติดใจ
พิกัด: 394/35 ถนน มหาราช
เปิดบริการ วันอังคาร-วันอาทิตย์ 11.00 – 22.00 น.
เว็บไซต์: www.errbkk.com
เบอร์โทรศัพท์: 02-622-2291
Kruasarosjad
ครัวสา รสจัด เป็นร้านอาหารไทยรสจัด ที่เปิดมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ในบรรยากาศอบอุ่นท่ามกลางวัตถุโบราณที่ประดับประดาทั่วร้าน ให้บรรยากาศแบบไทยๆ ให้เข้ากับอาหารแต่ละจานที่เสิร์ฟ ที่เน้นเมนูแบบไทยๆ ที่แม้จะเป็นสูตรที่ร้าน “สารสจัด” คิดค้นขึ้นมาเองโดยเฉพาะ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะคงไว้ซึ่งความเป็นไทยทุกจาน เช่น เมนูชื่อแปลก “หอยแครงดิสโก้” หอยแครงลวกสุกได้ตามสั่ง ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ ที่กินแล้วหอยแครงคงเข้าไปเต้นดิสโก้อยู่ในปากสมชื่อเมนู หรือ “ยำถั่วพลู” เมนูที่มีขายอยู่หลายร้าน แต่หาร้านที่ทำออกมาได้อร่อยค่อนข้างยาก ซึ่งที่ “สารสจัด” สามารถทำออกมาได้ถึงเครื่องน้ำยำจริงๆ ไม่หวานเกินไป หรือเค็มเกินไป หรือจะลอง”ขนมจีนแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย” ที่รสชาติถึงเครื่องแกงเขียวหวาน เข้าคู่กับลูกชิ้นปลากรายเนื้อเหนียวหนุบหนับเคี้ยวสนุกปาก กินคู่กับ “ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม” ที่ใครไปร้าน “สารสจัด” แล้วไม่สั่งถือว่าไปไม่ถึงร้าน “สารสจัด” หรือจะลอง “ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ” ที่ใช้กุ้งแม่น้ำตัวยักษ์รสเข้มข้มผัดกับเครื่องแกงเผ็ด และกะทิหอมมันครบรส “ปลากะพงสามรส” จานนี้คือดี แล่เนื้อปลาเป็นชิ้น ทอดได้หนังกรอบ ใส่ซอสมะขามและใบกะเพรากับพริกไทยสด “ต้มยำไก่บ้าน” ไก่อะเมซิ่งมาก ไก่บ้านอะไรเนื้อไม่แห้งเลย ลื่นคออร่อย น้ำต้มยำรสเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวานพอดี๊พอดี” ตบท้ายด้วยขนมหวานอย่าง “ลูกตาลลอยแก้ว” ที่ใช้ลูกตาลอ่อนๆ มาลอยแก้ว อร่อยชื่นใจ
ครัวสา รสจัด ร้านอาหารไทยที่ทำอาหารรสจัดให้กลมกล่อมได้ คือเป็นอาหารไทยมีรสชาติหลายมิติ บรรยากาศร้านก็ดูไทย ๆ มาทานแล้วจะรู้สึกเหมือนเป็นชาววังกันเลยทีเดียว แล้วแบบนี้จะไม่มาเยี่ยมชิมกันได้อย่างไร
พิกัด: ซอย วิภาวดีรังสิต 44 ถนน วิภาวดี (ไม่ไกลจากมูลนิธิกระจกเงา) ลาดยาว , จตุจักร , กรุงเทพมหานคร เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 11:00 – 22:00
เว็บไซต์: facebook.com/Kruasarosjad
เบอร์โทรศัพท์: 02 579 0021, 092-950-4273
Paste Bangkok
Paste Bangkok ร้านอาหารไทยที่นำสูตรอาหารชาววังมาผสมกับความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัวที่สุด จนเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านอาหารไทยโดยฝีมือคนไทยที่สามารถคว้าดาว Michelin Star 1 ดวงมาได้เป็นผลสำเร็จจากฝีมือและประสบการณ์ของ “เชฟบี” ผู้ที่ต้องการนำเสนอประสบการณ์อาหารไทยสูตรโบราณที่ผ่านกระบวนการปรุงและนำเสนออย่างสร้างสรรค์พร้อมด้วยการเลือกสรรวัตถุดิบท้องถิ่นที่หาทานได้ยากที่กำลังจะถูกคนไทยในยุคปัจจุบันลืมไปจากทั่วทุกมุมของประเทศ
Paste (เพสท์) เกิดขึ้นจากการที่คู่สามีภรรยา คุณเจสันและคุณบีนำสูตรอาหารตำรับครอบครัวสนิทวงศ์มาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยด้วยความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ๆ เพื่อตีความเมนูแบบโบราณให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้น ด้วยการตั้งชื่อร้านที่นำชื่อมาจาก Curry Paste หรือเครื่องแกงที่เป็นหัวใจของอาหารไทย Paste ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารอย่างมาก อย่างเช่น ดอกเกลือ (เกล็ดเกลือที่ลอยอยู่บนผิวน้ำในนาเกลือ) ก็นำจากน่านมาใช้
เมนูอาหารของ Paste Bangkok นั้นจะมีลักษณะเป็นอาหารไทยแบบไทยแท้ที่ถูกปรับรูปโฉมให้ดูน่าตื่นตะลึงมากมายหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ของทานเล่น ยำ ต้ม น้ำพริก ย่าง ข้าวและของหวานที่เสิร์ฟพร้อมกับข้าวหอมมะลิหรือข้าวไรซ์เบอร์รีที่มีรสชาติเข้ากันได้ดีเยี่ยม อย่างจานอาหารที่ชื่อว่า ปลาแห้งแตงโม ที่นิยมทานในช่วงหน้าร้อนนั้นก็ถูกตีความใหม่และตั้งชื่อว่าปลาแซลมอนแตงโม เป็นการจับคู่แตงโมกับปลาแซลมอน ตกแต่งด้วยหอมแดงทอดกรอบ ข่าคั่วและไข่ปลาแซลมอน ส่วนหอยนางรมก็ถูกห่อด้วยใบพลู เสิร์ฟในแบบเมี่ยงคำที่ประกอบไปด้วย ขิง มะพร้าวคั่ว กระถิน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทานเมี่ยงคำอยู่
อาหารจานหลักก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น ยำกุ้งแม่น้ำแบบเชียงใหม่ ที่ประกอบไปด้วยน้ำพริกหนุ่ม หอมแดง มะเขือเทศและสาหร่ายก็เป็นจานที่ทุกคนน่าจะชอบ หรือจะเป็นปูผัดผงกะหรี่ ที่ถูกปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยเทคนิคแบบโบราณเพื่อให้รสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นมากขึ้น เรียกได้ว่าถ้าคุณอยากทานอาหารไทยรสชาติต้นตำหรับแต่ไม่จำเจ ก็ไม่ควรพลาดPaste ไปได้เลย และด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงเป้นหนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯได้อย่างไม่ยากเย็น
พิกัด: ราชประสงค์
เวลาเปิดบริการ 12:00 – 14:30, 18:30 – 23:00
เว็บไซต์: facebook.com/Pastebangkok
เบอร์โทรศัพท์: 02 656 1003
Kruaapsorn
ครัวอัปษร เกิดจาก คุณจันทร์ฉวี สกุลกันต์ หรือ ป้าแดง ผู้คิดค้นปรุงเมนูอาหารของร้าน ครัวอัปษร กว่า 50 เมนูซึ่งทำให้ลูกค้าได้รับรสเรื่องราวอาหารกว่า 20 ปี โดยเรื่องราวเกิดขึ้นจากตอนนั้นคิดที่จะทำ ก๋วยเตี๋ยวห้องแอร์เพราะเป็นคนชอบทานก๋วยเตี๋ยวมากกอปรกับต้องตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์จึงเปิดร้านขาย ก๋วยเตี๋ยวหมูนุ่ม กับ ไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอม เพราะสามารถปรุงน้ำซุปไว้ ซึ่งเอื้อต่อการทำงานที่ต้องเดินทางบ่อยแต่ด้วยรสปลายจวักที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เจ้านายและมิตรสหายตามมาสั่งเมนูที่เคยลิ้ม โต๊ะข้างๆ แอบเห็นจึงอยากชิม ได้ลองลิ้มชิมแล้วก็ติดใจสั่งจองไว้คราวหน้า เมนูเดิมเริ่มเพิ่มเติมเมนูแรก
จากวันนั้นจนวันนี้เมนูของที่นี่มีมากมาย อย่างเช่น “แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย” และ“เมนูสลัดไก่ทอด”ที่สุดแสนจะอร่อย ไม่เสียชื่อร้านครัวอัปษร ที่อยู่คู่กับชาวกรุงเทพฯ มาเป็นเวลานาน โดยสาขาแรกเปิดที่ถนนสามเสน เมนูแนะนำอย่าง ไข่เจียวฟูปู ยังคงตราตรึงสำหรับทุกคนเสมอ ซึ่งรสชาติของมันต่างกับที่อื่นมากๆ อร่อยจนหยุดไม่อยู่ รวมไปถึงเมนูแกงส้มไหลบัว ก็ห้ามพลาดอีกเช่นกัน รับรองเลยว่าหากคุณต้องการพาครอบครัวหรือเพื่อนฝูงมาทานอาหารไทยแสนอร่อย มาที่นี่ จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
พิกัด : ถ.ดินสอ ใกล้ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 10.00 – 20.00 น.
เว็บไซต์ : facebook.com/kruaapsorn
LINE : @KRUAAPSORN
INSTRAGAM : instagram.com/kruaapsorn
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2685-4531
Thanying
ร้านนี้ภูมิใจนำเสนอมาก เพราะเจ้าของร้านนี้ก็คือ หม่อมเจ้าหญิงสุลัภวัลเลง วิสุทธิ ซึ่งเป็นน้องสาวของ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ซึ่งท่านเป็นคนคุมห้องเครื่องเสวย หรือห้องครัวของวังศุโขทัย จึงเชี่ยวชาญในการปรุงเครื่องเสวยอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเหตุผลใดๆเลยที่จะทำให้ร้านนี้ไม่อร่อย
สำหรับอาหารที่ร้านท่านหญิงมีอยู่หลายเมนู เช่น “กระทงทอง” ตัวกระทงกรอบ ตัวไส้เขาจะเอาไปผัดจนแห้ง ปรุงรสกลมกล่อม กินเพลินมากๆ “เมี่ยงคะน้า” ใบคะน้าเจียนเป็นรูปกลมๆ ด้วยความประณีต มาห่อเครื่องเมี่ยงหอมแดง ขิง มะนาวแป้น ถั่วลิสง กุ้งแห้งทอด กากหมู พริกขี้หนูสวน ราดด้วยน้ำเมี่ยงเข้มข้น หอมหวาน อร่อยครบถ้วนในคำเดียว “ข้าวมันส้มตำ” เป็นส้มตำไทยธรรมดาๆ รสชาติไม่ได้ดุร้าย แต่กลมกล่อมครบทุกรส ส้มตำก็จะใช้มะละกอห่าม ไม่สับเหมือนปรกติ แต่จะเจียน หรือฝานบางๆ แล้วคลุก ไม่ตำ ปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขาม ซึ่งสมัยนี้ทุกคนจะทานกับข้าวเหนียว และเมนูที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “ชุดข้าวแช่” เป็นข้าวแช่ที่เอร็ดอร่อยมาก น้ำข้าวแช่หอมมาก ได้กลิ่นหอมตั้งแต่วางบนโต๊ะเลย พริกหยวกห่อหรุ่มสีเหลืองอร่ามสวยงาม ข้างในเป็นเนื้อหมูผสมกุ้งสับ เนื้อแน่นนุ่ม รสชาติอร่อยกลมกล่อม ลูกกะปิ เค็มนำหวานตามกลมกล่อมลงตัว หัวหอมยัดไส้ปลาผัด ไส้ปลาผัดหวานนิดๆ หมูฝอย ไชโป๊ผัดไข่และหมูสับ อร่อยไม่ต้องพูดถึง ส่วนของหวานนั้น ไม่ว่าจะเป็นผลไม้อะไรก็ตาม จะต้องมีการปอกเปลือก และคว้านเอาเม็ดออก อย่างเช่น เงาะ ก็ต้อง ปอกและคว้านเม็ดออก ขนาด ข้าวเหนียวมะม่วง มะม่วงเองก็ต้องมีวิธีการปอกริ้ว
ถ้าคุณอยากเห็นความพิถีพิถัน และความประณีต บวกกับรสชาติอาหารไทยแท้ๆของอาหารชาววัง ต้องแวะมาชิมอาหารที่ร้านท่านหญิงให้ได้ รับรองอาหารของเขาอร่อยจริงๆ
พิกัด: 10 ซอยสีลม 17 – สีลม 19 ถนนสีลม
เปิดบริการ : 11:30 – 22:00
เว็บไซต์: www.thanying.com
facebook : facebook.com/thanyingbangkok
Line: kriangkrai@thanying.com
เบอร์โทรศัพท์ : 02-236-4361
Sala Rattanakosin
มาที่ร้าน Sala Rattanakosin จริงๆ ไม่ต้องแนะนำอะไรมากเพราะน่าจะเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะร้านที่มีวิวแม่น้ำดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งก็คงจะไม่เกินจริงไปมากนัก โดยความประทับใจที่นี่เลยลงเอยที่วิวเป็นหลัก ทั้งวิววัดอรุณจากชั้นดาดฟ้าไม่ว่าจะช่วงพระอาทิตย์ตก หรือยามค่ำคืนแจ่มมากๆ เหมาะสำหรับมากับคนรัก เพื่อน และครอบครัวอย่างที่สุด คนจะแน่นที่สุดก็ตอนพระอาทิตย์ตกดินนี่เอง จนอาจทำให้ไม่มีที่นั่งได้ส่วนพนักงานบริการสุภาพและดีมาก ในส่วนของรสชาติอาหาร อาหารไทยที่นี่จะถูกเสิร์ฟมาหน้าตาดูดี สไตล์ฟิวชั่น เช่น น้ำพริกหนุ่ม ยำปูนิ่ม กระทงทองลาบหมู หรือปลากระพงสามรส เป็นต้น ส่วนเรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง เพราะทุกคนจะได้ฟีลเหมือนกำลังนั่งทานอาหารไทยอยู่ในสมัยรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว
ห้องอาหารศาลารัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ที่โรงแรมศาลารัตนโกสินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ฝั่งตรงข้ามกับพระปรางค์วัดอนุณถือว่าวิวโดดเด่นมากๆ ทางร้านมีโต๊ะไม่เยอะ แนะนำให้โทรจองล่วงหน้า
ดีที่สุด
พิกัด : 39 ซ.ท่าเตียน ถ.มหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 07.30 – 22.30 น.
เว็บไซต์: www.salahospitality.com
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2622-1388
Methavalai Sorndaeng
ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารไทย เอาใจวัยรุ่นเก๋า คุณพ่อ และคุณแม่ล่ะก็ ร้านเมธาวลัย ศรแดง บริเวณถนนราชดำเนิน ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยเป็นภัตตาคารอาหารไทยสุดคลาสสิคเปิดให้บริการมากว่า 50 ปี ตัวร้านเป็นอาคารหลังใหญ่ตกแต่งแบบวินเทจพร้อมเสียงเพลงขับกล่อมจากนักร้องที่คอยบรรเลงเพลงไทยลูกกรุงให้แขกทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
เมธาวลัย ศรแดง นำเสนอเมนูอาหารไทยสูตรต้นตำรับเกือบทุกเมนู อาทิ กระทงทอง ยำตะไคร้หอม ทอดมันปลากราย หมี่กรอบชาววัง ฟองเต้าหู้ทอดสอดไส้ แกงส้มปักษ์ใต้ ลูกชิ้นปลากรายผัดฉ่า กุ้งผัดผงกะหรี่ ยำส้มโอ ลาบปลาช่อนทอดกรอบ กุ้งผัดผงกะหรี่ และอีกมากมาย ส่วนเมนูที่อยากแนะนำคือ ยำสามกรอบ รสชาติไทยแท้ กับเมนูผัดปลาดุกฟูพริกขิง บอกเลยว่าฟินตั้งแต่คำแรก ยันคำสุดท้ายเลยทีเดียว
พิกัด : 18/2 ถ.ราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
เว็บไซต์ : facebook.com/methavalaisorndaeng
เบอรโทรศัพท์ : 0-2224-3088