10 ทรีทเม้นต์บำรุงผม แม้แห้งเสียแค่ไหน ก็เริ่มใหม่ได้จากการบำรุงชั้นดี

10 ทรีทเม้นต์บำรุงผม แม้แห้งเสียแค่ไหน ก็เริ่มใหม่ได้จากการบำรุงชั้นดี
- LOLANE Keratin Repair Mask ทรีทเม้นท์เคราติน โลแลน
- TRESemme Keratin Smooth Heat Activated Treatment
- TSUBAKI Shining Hair Mask
- Pantene Total Damage Care 3 Minute Miracle Intensive Treatment
- BSC Hair Care Hair Treatment
- CP–1 CERAMIDE TREATMENT PROTEIN HAIR SYSTEM
- Dove Hair Treatment Mask Intense Repair
- Loreal Hair Spa Repairing Creambath
- Dcash Intouch Vitamin E Perfecting Treatment
- caring treatment aha formula
มีเพื่อนๆคนไหนที่มีปัญหาผมแห้งเสียจากการทำสี หรือการใช้ความร้อนกับเส้นผมบ้างหรือเปล่าคะ เมื่อเราทำขาดการบำรุงเส้นผมบ้างในบางครั้ง จึงอาจจะทำให้เราเริ่มปล่อยปละละเลยกับการดูแลผมนั่นเอง จากที่เคยใช้ครีมนวดหลังการสระทุกวัน หรือการใช้ทรีทเมนท์บำรุงอาทิตย์ละ2-3ครั้ง ก็เริ่มลดลงทีละวันสองวัน จนในที่สุดก็อาจเกิดปัญหาผมแห้ง แตกปลาย ผมเสีย ชี้ฟูยากที่จะแก้ไขได้ง่ายๆเลยค่ะ แต่ก็มีคนไม่น้อยเช่นกัน ที่เข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบบผิดๆ เช่น การใช้ทรีทเมนท์แทนครีมนวดในทุกๆวัน หรือการใช้ทรีทเมนท์หรือครีมนวดตั้งแต่โคนผม จรดปลายเส้นผมเลย นอกจากจะเกิดผลเสียที่ทำให้หนังศีรษะเรามันเกินความจำเป็น ก็อาจะก่อให้เกิดรังแคตามมาได้เช่นเดียวกันค่ะ
ดังนั้นทางที่ดีในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆให้เหมาะกับสภาพผมของตนเองนั้น จะต้องศึกษาเกี่ยวกับความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมให้มีความเข้าใจก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อให้ตรงต่อความต้องการจริงๆด้วยนะคะ ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างครีมนวด และทรีทเมนท์ อีกทั้งการเลือกใช้ทรีทเมนท์ให้เหมาะกับสภาพของเส้นผมของเรา หรือถ้ายังไม่จุใจ และยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกสินค้ายี่ห้ออะไรดีเพื่อให้ตอบโจทย์ ตรงต่อความต้องการ วันนี้ก็จะมี 10 ยี่ห้อทรีทเมนท์ที่น่าใช้ และใช้ดีมาฝากกันด้วยนะคะทุกคน
ระหว่างคอนดิชันเนอร์ และทรีทเมนท์แตกต่างกันอย่างไร
คอนดิชันเนอร์ใช้ทุกวันเพื่อการฟื้นฟูเบื้องต้น
สำหรับการใช้คอนดิชันเนอร์นั้นควรใช้หลังจากการสระผมเสร็จในทุกๆวันค่ะ เพระคอนดิชันเนอร์นั้นมีหน้าที่ คอยช่วยเติมเต็มน้ำหนักให้กับเส้นผม แต่ครีมนวดนั้นจะมีหน้าที่คอยดูดูแลเส้นผมแค่เพียงภายนอกเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปเติมเต็มสาร หรือบำรุงเส้นผมภายในแต่อย่างใด แต่หากใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกวันหลังสระผม ก็ช่วยลดการชี้ฟูของเส้นผม เพิ่มความชุ่มชื้น จากการฟื้นฟูด้วยครีมนวดหรือคอนดิชันเนอร์นั่นเอง
แต่ใช่ว่าการใช้ครีมนวดนั้นจะเกิดผลดีเสมอไป เพราะในปัจจุบันขั้นตอนการผลิตและส่วนผสมของครีมนวดผมนั้นมีการเติมสารเคมีบางชนิดลงไปเพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น หากหลังการใช้ครีมนวดผมแล้วล้างออกไม่สะอาด ก็อาจจะเกิดการตกค้างของสารเคมีบนเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ และก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะของคุณได้ในที่สุด
ทรีทเมนท์ บำรุงลึกถึงภายใน
มาอีกหนึ่งชนิดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเนื้อครีมเข้มข้นหรือที่เรียกว่าทรีทเม้นท์นั่นเองค่ะ จริงๆแล้วหน้าที่หลักของ ทรีทเม้นท์คือช่วยเข้าไปดูแลโครงสร้างของเส้นผมของเราให้มีความแข็งแรงขึ้น หลังจากที่เกิดความเสียหายจากเส้นผม อย่างการทำสีผม การดัด การยืดผม สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้โครงสร้างภายในเส้นผมเสียหาย และต้องการได้รับวิตามินหรือสารอาหารผมต่างๆที่อยู่ในทรีทเม้นท์ เพื่อเข้าไปบำรุงและดูแลให้เส้นผมกลับมาแข็งแรง เงางาม แลดูสุขภาพดีอีกครั้ง หรือพูดง่ายๆว่าไอ้เจ้าตัวทรีทเม้นท์เนี่ย สร้างมาเพื่อคืนความสมดุลใหกับเส้นผมสุดที่รักของเรานั่นเองค่ะ
ซึ่งการใช้ทรีทเม้นท์เพียง 2-3ครั้งต่อสัปดาห์ ก็สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และคงความสมดุลให้กับเส้นผมที่แห้งเสียด้วยเช่นกันนะคะ
มารู้จักประเภทของผมกันดีกว่า
ผมแห้ง จัดการยาก
ผมแห้งนั้นเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุค่ะทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการใช้แชมพูที่มีความเป็นกรดมากเกิดไป ก็อาจจะทำให้หนังศีรษะของเราเกิดรังแค เพราะขาดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันของหนังศีรษะนั้น อาจทำให้เส้นผมของเราแห้ง ชี้ฟู ไม่เงางาม และจัดทรงค่อนข้างยาก เพราะเส้นผมกำลังอ่อนแอ หรือการทำสีผมก็ตัดว่าเป็นปัญหาหนึ่งของใครหลายคนที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ เพราะทำให้เส้นผมเปราะบาง และขาดง่าย อีกทั้งผมก็ยังมาแห้งเพราะขาดการบำรุงด้วย ดังนั้น การบำรุงผมด้วยครีมนวดหรือทรีทเม้นท์ก็สามารถแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ได้เช่นกันค่ะ
ผมธรรมดา กับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ
ใครก็ตามที่มีสภาพหนังศีรษะไม่มัน เส้นผมแลดูมีสุขภาพ มีน้ำหนัก และไม่แห้งแตกปลาย หรือแห้งเสีย ขาดง่ายแล้วล่ะก็ ขอเดาว่าถ้าไม่เกิดจากการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ก็ถือว่าคุณโชคดีมากที่ไม่ต้องไปเข้าร้านทำผมเพื่อเคลือเคราติน หรือต้องสรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อเข้ามาบำรุงเส้นผมของคุณให้มีสุภาพที่ดีขึ้นมากว่านี้แล้ว เพราะเท่ากับว่าต่อมไขมันบนหนังศีรษะของคุณนั้นได้ผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้หนังศีรษะของคุณไม่มันเยิ้ม แต่เพียงแค่ใช้ครีมนวดเป็นประจำหลังการสระ หรือการบำรุงเส้นผมด้วยทรีทเม้นท์ต่อสัปดาห์เพียง1-2ครั้งก็ทำให้คุณคงสภาพผมสวย สลวยดูดีได้แล้วล่ะค่ะ
ผมมัน ดูแลยาก
ผมมันนั้นตรงกันข้ามกับใครหลายคนที่กำลังพบเจอกับปัญหาผมแห้งอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ เพราะเท่ากับว่าต่อมไขมันบนหนังศรีษะของคนที่ผมมันเนี่ย ได้ผลิตน้ำมันออกมามากเกินความพอดี จึงทำให้เส้นผมเหนียว ลีบแบนติดกับศีรษะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการจัดทรงผมในวันเบาๆ เลยล่ะค่ะ แค่อยากจะปล่อยผมก็ทำได้ยากขึ้น เพราะความมันบนเส้นผมนี่แหละ ที่ทำให้คุณสาวๆอยากจะรวบผมเก็บความมันเอาไว้ก่อนอย่างนั้นเลยค่ะ
วิธีการดูแลและรับมือกับผมเสีย
1 การสระผมที่ถูกต้อง
ใครที่มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ในตอนสระผม อย่างเช่น การขยี้หนังศีรษะแรงๆ เพราะคิดว่ายิ่งแรงยิ่งสะอาด อันนี้คิดผิดอย่างรุนแรงนะคะทุกคน เพราะว่าการสระผมที่ดีควรสระอย่างเบามือ และนวดหนังศีรษะให้ผ่อนคลายก็เพียงพอ และสะอาดแล้วค่ะ เพราะการใช้นิ้วกดนวดวนๆไปบนหนังศีรษะระหว่างสระผมนั้น จะไปช่วยเรื่องการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ดียิ่งขึ้น นอกจากจะผ่อนคลายแล้วยังลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมอีกด้วยนะคะ
2 ใช้ไดร์เป่าผมให้ถูกวิธี
ไดร์เป่าผมในปัจจุบันได้ออกแบบและกำหนดฟังก์ชั่นการใช้งานให้ผู้เลือกซื้อสินค้าได้ตัดสินใจง่ายขึ้น แต่สำหรับใครที่กำลังที่ชอบใช้ลมร้อนในการเป่าผมบ่อยๆ ก็อาจทำให้ผมแห้งเสีย และแตกปลายได้จากความร้อน หรือแม้กระทั่งการเป่าผมที่ไร้ทิศทาง เบาวนๆอยู่อย่างนั้น ยิ่งจะทำให้เกล็ดผมเปิด อีกทั้งยิ่งทำให้ผมชี้ฟูได้เช่นเดียวกัน
วิธีการไดร์ผมที่ถูกต้อง คือการที่เราใช้ไดร์เป่าตั้งแต่บริเวณโคนผมไปจนถึงปลายผม หรือจะบนลงล่าง แค่นี้เราก็สามารถจัดทรงผมได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย และมีปัญหาผมแตกปลาย อีกทั้งไม่ชี้ฟูให้กวนใจแล้วล่ะค่ะ
3 ป้องกันผมจากการทำสี และความร้อน
ไม่ว่าใครๆก็อยากมีผมที่สวยจากการทำสีทั้งนั้นใช่ไหมละคะ แต่ทุกครั้งหลังทำสีผมหรือการดัด ยืด หรือการใช้ความร้อนกับเส้นผมรูปแบบอื่นๆ ถ้าหากขาดการบำรุงก็ยิ่งจะทำให้เส้นผมแห้งกรอบ และแตกปลายเสียหนักสุดๆไปเลยล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าอยากสวยต้องไม่จบแค่การทำสีผมนะคะทุกคน แต่ต้องบำรุงให้ดีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครีมนวด หรือการใช้ทรีทเม้นท์สำหรับผมทำสี ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองทั้งนั้น หากวันไหนเราต้องใช้ความร้อนกับเส้นผมของเราก็ควรใช้สเปรย์กันความร้อนฉีดไปที่เส้นผมก่อน เพื่อป้องกันความร้อนที่มากเกิดไปจนทำให้โครงสร้างผมภายในเสียสมดุลอีกด้วย เห็นไหมละคะ เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้ผมของคุณดูสวยสุขภาพดีได้แล้ว
10 ยี่ห้อทรีทเม้นท์ แก้ไขผมเสียให้กลับมาเป็นผมสวย
เมื่อทราบถึงความแตกต่างของของผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมแล้ว และสภาพผมแล้วใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากเส้นผม หรือหนังศีรษะที่มีสภาพแตกต่างกัน แต่ทุกอย่างมีวิธีแก้ไขด้วยแนวทางการเลือกทรีทเม้นท์ให้เหมาะสมกับตนเอง แล้วมาเริ่มปรับสภาพเส้นผมให้กลับมาดูดีไปพร้อมๆกันค่ะ
LOLANE Keratin Repair Mask ทรีทเม้นท์เคราติน โลแลน
สำหรับใครที่มีผมแห้งเสีย ชี้ฟู ถ้าไม่เคยลองใช้ทรีทเม้นท์ของโลแลนตัวนี้ถือว่าพลาดอย่างแรงเลยนะคะ เพราะผลิตภัณฑ์โลแลนทรีทเม้นท์ตัวนี้ ดูแลปัญหาเส้นผมของทุกคนได้อย่างคลอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นผมทำสี การดัด การยืดต่างๆก็สามารถมองหาโลแลนได้ที่ห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปได้เลย แถมราคาก็มีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักหลายร้อยก็มีให้เลือกได้เช่นกัน อย่างทรีทเม้นท์เคราติน โลแลนตัวนี้เค้ามีหน้าที่ช่วยลดปัญหาสุขภาพของเส้นผม ช่วยฟื้นฟู และบำรุงโครงสร้างเส้นผม ช่วยบำรุงผมเสียได้ทุกประเภทเลยทีเดียว ช่วยให้ผมเงางาม กลับมาแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว มาพร้อมทั้งนวัตกรรมฟื้นบำรุงเส้นผม เคราติน แมทชิ่ง อินเทลลิเจ้นท์ จาก Triple Keratin ที่ช่วยให้ผมแข็งแรงมากถึง 83% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยนะคะ เพียงแค่นี้ก็ได้ผมที่นุ่มสลวยเป็นเงางาม นุ่มลื่น ดูมีสุขภาพดีเหมือนเข้าร้านทำผมราคาแพงเลยล่ะค่ะ
ประเทศ | ไทย | ขนาด | 100,200 กรัม |
ราคา | 70,135 บาท | จุดเด่น | มาสก์ฟื้นฟูบำรุงผมแห้งเสียจากการยืดและดัด |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
TRESemme Keratin Smooth Heat Activated Treatment
เทรซาเม่ ทรีทเม้นท์ เคราติน สมูต ฮีท แอคติเวเตท คืออะไร ทำไมฟังดูยาวเหลือเกิน จะขออธิบายถึงหน้าที่ของทรีทเม้นท์ว่า เค้ามีส่วนช่วยในการเติมเต็มโปรตีนในเส้นผม หรือที่เรียกว่าเคราติน ที่ขาดหายในเส้นผมของคนที่มีสภาพแห้งเสีย ชี้ฟูให้เต็มเส้น ทำให้พื้นผิวของเส้นผมเรียบ และไม่พันกันนั่นเอง ซึ่งเทรซาเม่สูตรนี้ยังมีส่วนผสมของ hydrolyzed keratin proteins เข้ามาเสริมสร้างผมที่อ่อนแอให้แข็งแรง บวกกับ silicones ที่เข้ามาเคลือบเส้นผม ไม่ให้ผมพันกันยุ่งเหยิง และสุดท้ายเลยคือ polymers ที่ผสานเอาตัวเคราตินกับเส้นผมให้อยู่บนเส้นผมแม้เราจะสระผมบ่อยแค่ไหนก็ตาม
เนื้อครีมค่อนข้างมีความเข้มข้น มีกลิ่นหอม จึงมีผลลัพธ์ที่ดี ผมนุ่ม เรียบลื่น จัดทรงง่าย ไม่ชี้ฟู และไม่แตกปลาย แต่จะเห็นผลมากขึ้นเมื่อใช้คู่กับเครื่องหนีบผมครั้งแรกที่ทำการสระ
ประเทศ | – | ขนาด | 110 กรัม |
ราคา | 349 บาท | จุดเด่น | ลดผมชี้ฟูนานถึง 7 วัน แม้สระผมระหว่างอาทิตย์กี่ครั้งก็ตาม |
ข้อแนะนำ | ควรใช้ทุกครั้งหลังสระผม |
TSUBAKI Shining Hair Mask
ซึบากิ สูตรนี้เป็นแฮร์มาสก์เข้มข้น สูตรบำรุงเพื่อผมเรียบลื่นเป็นประกายเงางาม โดยที่มาส์กบำรุงเส้นผมจะมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างเข้มข้น ช่วยดูแลพิเศษ เพื่อฟื้นบำรุงเส้นผมที่ไร้น้ำหนัก แห้งฟูให้กลับแลดูมีชีวิตชีวาขึ้น ด้วยการบำรุงเข้มข้นจากส่วนผสม Tsubaki Oil Ex ออยล์สกัดจากเมล็ดดอกคาเมเลีย ผสมผสานกับคุณค่าจากไข่มุกสกัดชื่น และส่วนผสมใหม่”HAIR MELANIN HOLES REPAIR INGREDIENT” มอบเส้นผมให้ดูเป็นประกายเงางาม ผมจึงดูเรียบลื่น นุ่มสลวย มีน้ำหนัก และจัดทรงง่าย เสริมประสิทธิภาพการดูแลเส้นผมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย และในขณะที่บำรุงสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมสดชื่นจากพฤษานานาพันธุ์ ทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย เพียงแค่ทำทรีทเม้นท์ที่บ้านก็เหมือนได้ไปทำสปาทรีทเม้นท์ร้านดังเลยล่ะค่ะคุณ อีกทั้งยังหาซื้อได้แสนง่ายดาย จากร้านห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรืออีฟแอนด์บอยและวัตสันก็มีให้เลือกซื้อตามสะดวกได้เลยค่ะ
ประเทศ | – | ขนาด | 180 กรัม |
ราคา | 470 บาท | จุดเด่น | ช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมานุ่มเหมือนใหม่อีกครั้ง |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
Pantene Total Damage Care 3 Minute Miracle Intensive Treatment
สาวๆคนไหนที่มีผมเสียจากการที่ผมถูกทำร้ายจนเสียอย่างรุนแรง จนถึงขั้นผมแตกปลาย และจนไม่รู้จะเริ่มแก้อย่างไรให้ผมกลับมาสวย สุขภาพดีได้อีกครั้ง เข้ามาลองแพนทีน โทเทล ดาเมจแคร์เพียงแค่ 3นาที ก็ทำให้ผมของคุณที่โดนทำร้ายกลับมาเรียบสวย เหมือนเก่าเลยล่ะค่ะ เพราะแพนทีน โทเทล ดาเมจแคร์ เป็นทรีทเม้นท์เหมาะสำหรับคนที่มีผมเสียเป็นอย่างมาก เพราะเค้ามีส่วนผสมที่เข้มข้น พร้อมทั้งผสานเอสเซนส์ เพื่อบำรุงผมมากกกว่าทรีทเม้นท์ปกติถึง 2 เท่าเลยทีเดียว ทั้งนี้เพื่อช่วยลดการสูญเสียโปรตีนในเส้นผม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเสียและแตกปลายในที่สุด
เราสามารถใช้แพนทีน โทเทล ดาเมจแคร์ ได้เพียง 3 ขั้นตอนง่ายๆได้แก่
1.ลดปัญหาผมแตกปลายอย่างเร่งด่วน
ผมที่ถูกทำร้ายจนเสียอย่างรุนแรง จนเกิดปัญหาผมแตกปลาย วิตามิน โปร-วี เข้มข้น จะช่วยเข้าไปเพิ่มโปรตีนในเส้นผม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม
2.บำรุงเส้นผมได้เหนือกว่าถึง 2 เท่า
ผสาน เอสเซนส์บำรุงผมสูตรเข้มข้นจะช่วยคืนความชุ่มชื่น เพื่อซ่อมแซม ผมเสีย ผมแตกปลาย ให้กลับมาสวยได้อีกครั้ง
3.ปกป้องเส้นผมจากปัญหาผมเสียลุกลาม
นอกจากนั้น แพนทีน โททัล แดมเมจ แคร์ ทรี-มินิท มิราเคิล ทรีทเม้นท์สำหรับผมเสีย สูตรเข้มข้นยังช่วยปกป้องไม่ให้ผมเสียลุกลามต่อไปอีกด้วย
ประเทศ | USA | ขนาด | 15 ml. |
ราคา | 159บาท | จุดเด่น | ลดปัญหาการแตกปลายจากการถูกทำร้ายจนเสียอย่างรุนแรง |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
BSC Hair Care Hair Treatment
BSC ได้ทำผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมออกมาหลากหลายผลิตภัณฑ์ แต่ที่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมของผู้ที่มีผมแห้งเสียมากเลยนั่นก็คือ BSC Hair Care Hair Treatment ค่ะ ซึ่งทรีทเม้นท์ตัวนี้มีเนื้อครีมลักษณะเนื้อครีมสีขาวข้น นุ่ม ละหอมกลิ่นดอกไม้อ่อนๆด้วยนะคะ โดย BSC Hair Care Hair Treatment ได้จับเอาส่วนผสมของสึบากิออยส์ (Tsubaki Oil) ที่ช่วยในเรื่องของเส้นผมเงางาม ลดการพันกัน และบาร์เลย์โปรตีน (Barley Protein) ที่เข้ามาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และเนื้อครีมยังมีส่วนผสมของ Hya-Moist ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผม โดยที่ไม่ทำให้ผมหยาบกระด้างอีกด้วย
ประเทศ | ไทย | ขนาด | 450 กรัม |
ราคา | 145 บาท | จุดเด่น | สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน พร้อมเพามสัมผัสที่นุ่มลื่น |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
CP–1 CERAMIDE TREATMENT PROTEIN HAIR SYSTEM
ใครยังไม่เคยลองใช้ทรีทเม้นท์หลอดตัวนี้ยกมือขึ้น ตัวนี้เป็นยาฉีดผมทรีทเม้นท์สูตรเร่งด่วน แบบหลอดกดค่ะ ซึ่ง CP-1 ได้รับความนิยมด้วยการการันตียอดขาย 7 แสนหลอดใน 1 ปีของเกาหลีใต้เลยทีเดียวค่ะ ทรีทเม้นท์สูตรเร่งด่วน เปลี่ยนจากผมเสียให้เป็นผมสวยสุขภาพดี ทรีทเม้นท์ตัวนี้ บำรุงเร่งด่วน ใช้ครั้งเดียว ผมเสียจะกลับดีขึ้นเกิน 30-70% เน้นแก้ปัญหาเส้นผม ที่โดนทารุนจากสารเคมี ไม่ว่าจะย้อมสีบ่อยๆ ไดร์หรือเจอความร้อนบ่อย ใช้แล้วเหมือนเข้าสปาผมเลย
มีคุณสมบัติช่วยให้เส้นผมกลับมานุ่มชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ผมเปราะบาง แห้งกรอบง่าย แต่จริงๆ แล้วคือเหมาะกับทุกสภาพเส้นผมเลยค่ะ บำรุงและฟื้นฟูผมแห้งเสียขาดการบำรุงในขั้นตอนเดียว อีกทั้งยังปกป้องเส้นผมจากความร้อนของไดร์และเครื่องรีดผม สามารถบำรุงเส้นผมได้ด้วยตัวเองที่บ้าน เพราะมีส่วนผสมของ Polymers และ Low-molecular weight Protein ที่สามารถซึมเข้าสู่ชั้นในของเส้นผม พร้อมเคลือบให้ผมเรียบลื่นมีน้ำหนัก ใช้เพียงแค่10นาทีก็ได้ผมที่เรียบสวยแล้วล่ะค่ะทุกคน อีกทั้งหาซื้อง่ายแค่ในวัตสัน และอีฟแอนด์ บอยทุกสาขาเลยค่ะ
ประเทศ | เกาหลี | ขนาด | 25ml. |
ราคา | 290 บาท | จุดเด่น | อาหารผมที่เหมาะสำหรับทุกคน |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
Dove Hair Treatment Mask Intense Repair
โดฟเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ไว้วางใจของสาว ๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นทรีทเม้นท์ที่ช่วยแก้ปัญหาผมแห้งเสียและแตกปลายอย่างรุนแรงอีกด้วยนะคะ โฟตัวนี้เค้ามีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงผมอย่างล้ำลึกจนถึงแกนผมให้ผมแข็งแรง สวย นุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู และสามารถใช้ได้ทุกวันแทนครีมนวดผม เพื่อช่วยปกป้องผมเสียในอนาคตและสามารถเห็นผลได้ทุกครั้งหลังใช้
โดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ ทรีทเม้นท์ มาส์ก เสริมโปรตีนช่วยฟื้นบำรุงผมเสียอย่างล้ำลึก ด้วยโดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ ทรีทเม้นท์ มาส์ก อีกทั้งพร้อมรับมือจากการถูกทำร้ายในอนาคต ด้วยนวัตกรรมลิขสิทธิ์เฉพาะ “ไมโคร มอยส์เจอร์ เซรั่ม” และ “ไฟเบอร์ แอ็คทีฟส์” ที่จะช่วยสร้างความแข็งแรงจากภายในเส้นผมนั่นเอง
ประเทศ | ไทย | ขนาด | 200ml. |
ราคา | 159 บาท | จุดเด่น | ช่วยปกป้องผมเสียในอนาคตและสามารถเห็นผลได้ทุกครั้งหลังใช้ |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
Loreal Hair Spa Repairing Creambath
ขึ้นชื่อว่าลอลิอัล เราก็คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมใช่ไหมละคะ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำลอริอัล แฮร์ สปา รีแพริ่งครีมบาธ ทรีทเม้นท์ตัวนี้ มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเส้นผมเหมาะกับผมที่อ่อนแอ และเเห้งเสีย เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากอะโวคาโด และเชียร์บัตเตอร์ ที่ทำให้ผมนุ่มชุ่มชื้น ลื่นเงางาม ด้วยครีมนวดอบไอน้ำ ลอรีอัล โปรเฟชชั่นเนล แฮร์สปา รีแพร์ริ่ง ครีมบาธ ย้ำอีกรอบว่าเหมาะสำหรับผมแห้งเสียและอ่อนแอมาก ด้วยส่วนผสมของเชียร์บัตตเอร์และน้ำมันสกัดจากอะโวคาโดช่วยฟื้นฟูบำรุงเส้นผมจากสภาพแห้งและถูกทำลายให้กลับชุ่มชื้น นุ่มสลวย เงางาม เรียกคืนความแข็งแรงให้กับเส้นผมและช่วยบำรุงหนังศีรษะให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้นค่ะ
ประเทศ | ไทย | ขนาด | 500,1000ml. |
ราคา | 399,599 บาท | จุดเด่น | ดูแลได้ดีสำหรับคนที่มีผมแห้งสียและอ่อนแอมาก |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
Dcash Intouch Vitamin E Perfecting Treatment
เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของประเทศไทยใช้ดีจนใครหลายๆคนติดใจ ซื้อใช้ซ้ำไปหลายกระปุกเลยทีเดียวนะคะกับ ดีแคช อินทัช วิตามินอี ทรีทเม้นท์ เพราะทรีท์เม้นท์สูตรนี้เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม ไม่เพียงแต่ผมทำสีเท่านั้น ปัญหาเส้นผมพันกัน ไม่เรียงเส้น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะดีแคช สูตร Vitamin E Perfectingอุดมด้วยวิตามินอีเข้มข้นจากธรรมชาติ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสียจากความร้อน ไม่ให้เส้นผมเปราะ แตกหักง่าย เสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผมจากภายในสู่ภายนอก อีกทั้งช่วยปกป้องเส้นผมจากมลภาวะในแต่วันวันที่เราพบเจอ เพื่อฟื้นฟูผมเสียให้มีสุขภาพดีนั่นเองล่ะค่ะ นอกจากดีแคช อินทัช วิตามินอี ทรีทเม้นท์จะมีคุณสมบัติดีครบถ้วนขนาดนี้แล้ว ยังมีกลิ่นที่หอมสดชื่นยาวนานถึง 18 ชั่วโมงเลยค่ะทุกคน
Dcash Intouch Vitamin E Perfecting Treatment สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดาย เพียงเดินเข้าไปช้อปประจำวันที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านของคุณก็สามารถเดินเข้าไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมกันได้เลย หรือจะเลือกดูรีวิวจากผู้ใช้จริงและสั่งซื้อในออนไลน์ก็ได้เช่นกันค่ะ
ประเทศ
| ญี่ปุ่น | ขนาด | 250 กรัม |
ราคา | 149 บาท | จุดเด่น | ฟื้นฟูผมแห้งเสียจากความร้อน จากการบำรุงจากภายในสู่ภายนอกด้วยวิตามินอีธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
caring treatment aha formula
แคริ่งเป็นแบรนด์ที่ดูแลผมคนไทยมากว่า 45 ปีเลยทีเดียวนะคะ ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรบำรุงผมที่มีลักษณะแตกปลายและไร้น้ำหนัก ผ่านการทำสีและการทำเคมีต่าง ๆ ด้วยการผสานคุณค่าจากสารสกัดและกรดจากผลไม้ บำรุงให้เส้นผมแข็งแรง มีน้ำหนักและนุ่มสลวย ลดปัญหาผมแห้งชี้ฟู ใครใช้ก็ติดใจ ผมสุขภาพดีขึ้น ปลายผมไม่พันกันและจัดทรงง่ายขึ้น นอกจากนี้เนื้อครีมยังเนียนนุ่ม มีหอมกลิ่นผลไม้อ่อน ๆ ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย กลิ่นติดทนนาน ให้ปริมาณเยอะแถมราคาถูกและหาซื้อง่าย ได้ผลจริงแต่อาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อย เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันและคนที่ไม่ได้รีบเร่งต้องแก้ปัญหาผมที่ขาดเสีย หรือเส้ยจากการทำสีและการทำความร้อนต่างๆค่ะ
ประเทศ | ไทย | ขนาด | 250กรัม |
ราคา | 199 บาท | จุดเด่น | บำรุงผมที่แตกปลาย และไร้น้ำหนักให้กลับมาจัดทรงง่าย |
ข้อแนะนำ | ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง |
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 10 ทรีทเม้นท์ใช้แล้วดี สามารถหามาใช้ได้ง่าย เพียงเริ่มต้นด้วยของคุณเอง ก็มีสุขภาพผมที่สวย เงางามได้ด้วยตัวเองแล้วใช่ไหมละคะ ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ชอบทำสีผม หรือจำเป็นที่ต้องใช้ความร้อนกับผมของตัวเองบ่อยๆ การเลือกบำรุงอย่างใดอย่างนึงก่อนก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเช่นกันค่ะ เพียงแค่รู้ถึงสภาพของผมว่ามีลักษณะแบบไหน มัน แห้ง หรือยังไงก็ให้หยิบเลือกมาใช้อย่างถูกวิธี ก็จะทำให้ผมเรากลับมาสวยได้จากภายในสู่ภายนอก ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย แล้วพบกันใหม่ค่ะทุกคน บ๊ายบาย