10 แบรนด์มาส์กหน้าที่ดีที่สุดในปี 2024

เมื่อพูดถึงการดูแลผิวหน้าแล้ว นอกจากการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด และหลีกเลี่ยงหรือป้องกันปัจจัยที่ทำร้ายผิวแล้ว การบำรุงผิวหน้าตามสภาพผิวก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผิวหน้า

            แน่นอนว่าก่อนที่เราจะเริ่มดูแลผิวหน้า จะต้องรู้จักผิวของเราเสียก่อน เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวนั่นเอง

  1. ก่อนจะบำรุงผิว ต้องรู้จักสภาพผิวหน้าของตัวเองก่อน

ผิวหน้าของเรานั้น มีการแบ่งประเภทเอาไว้ 4 ประเภท ดังนี้

  • ผิวธรรมดา

ต้องบอกเลยว่าใครที่มีผิวธรรมดานั้นโชคดีมาก ๆ ผิวธรรมดาจะมีลักษณะที่ไม่มันจนเกินไป และไม่แห้งจนเกินไป เป็นผิวที่มีสมดุลมากที่สุด มีรูขุมขนที่เล็ก ผิวนุ่มและเรียบเนียน และปราศจากสิว

  • ผิวแห้ง

ผิวแห้ง คือผิวที่ขาดความมันบนใบหน้ามากกว่าปกติ และกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว จึงทำให้ผิวแห้ง ขาดการป้องกันจากผิว ทำให้ดูหยาบกร้านและหมองคล้ำ เห็นรอยแตกของผิวชัดเจน ผิวด้าน ลอกเป็นขุย และมักมีอาการคันอยู่บ่อย ๆ  ซึ่งในบางครั้งนั้นผิวแห้งอาจเกิดได้ทั้งจากการสูญเสียน้ำหรือเหงื่อในผิว หรือไขมันในชั้นผิว

  • ผิวมัน

ผิวมัน สังเกตได้ง่ายเลยว่าจะมีน้ำมันผลิตบนผิวหน้ามากกว่าปกติ และมักจะมีรูขุมขนกว้าง หน้าจึงมักจะมันง่าย ทั้งยังเป็นสิวได้ง่ายอีกด้วย โดยเฉพาะสิวอุดตัน เนื่องจากน้ำมันบนใบหน้าจะเข้าดักจับสิ่งสกปรกอย่างเช่นฝุ่นละอองได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น

  • ผิวผสม

ผิวผสมเป็นผิวที่ประกอบด้วยประเภทของผิวที่มากกว่าหนึ่ง เช่น ผิวมันและผิวแห้ง ซึ่งมักจะพบว่าผิวจะมันมากในบริเวณทีโซน (หน้าผากและจมูก)

  1. ค่า pH ผิวคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ ?

เรามักจะเห็นคำว่า ค่า pH อยู่บ่อย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าคืออะไร แล้วทำไมจึงสำคัญ ค่า pH คือ ค่าสมดุลระหว่างความเป็นกรด-ด่างของผิว ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมรอบตัว เช่น อุณหภูมิ มลภาวะ และสารเคมี ฯ เปรียบเสมือนค่าที่ควบคุมการป้องกันของผิว โดยค่า pH ที่เหมาะสมนั้น ควรอยู่ที่ตัวเลข 7 หากต่ำกว่าก็ถือเป็นกรด ส่วนค่าที่สูงกว่าก็จะถือเป็นด่างนั่นเอง

      ดังนั้นค่า pH จึงมีความสำคัญในการปกป้องผิวจากการถูกทำลาย  ช่วยรักษาความนุ่ม หากปล่อยให้ผิวมีค่า pH ความเป็นด่างสูง ก็จะทำให้เกราะป้องกันผิวลดลง ส่งผลให้ผิวบอบบางและเกิดอาการแพ้ได้ง่าย

  1. แสงแดดทำร้ายผิว ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต่อผิว

เราต่างก็รู้กันดีว่า แสงแดดเปรียบได้กับศัตรูฉกาจที่คอยทำร้ายผิว อย่างไรก็ดี แสงแดดก็มีความจำเป็นต่อผิวเช่นเดียวกัน เนื่องจากร่างกายของเราต้องการวิตามินดี (Vitamin D) ซึ่งช่วยในการดูดซึมของแคลเซียมเพื่อสร้างการป้องกันกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย โดยควรให้ผิวได้รับวิตามินดีจากแสงแดดที่ไม่ทำร้ายผิวในช่วงเวลา 6 โมงเช้า – 8 โมงเช้า หรือในช่วงหลัง 4 โมงเย็นเป็นต้นไป

  1. ขัดผิวบ่อย ๆ ใช่ว่าจะดี

การขัดผิวเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว และทำให้ใบหน้ากระจ่างใส แต่การขัดผิวก็มีข้อควรระวัง เพราะถ้าหากเราทำการขัดผิวบ่อยเกินไป จะส่งผลให้ผิวบาง แห้งกร้านและขาดความชุ่มชื่น ดังนั้นความถี่ของการขัดผิว จึงอยู่ที่ 1-2 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น

  1. ท่านอนหน้ายับ ! เลิกได้แล้ว

เข้าใจว่าในบางทีที่เรานอนและอยู่ในช่วงที่ต้องพลิกตัวมันยากที่จะบังคับตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลยซะทีเดียว เพราะการนอนคว่ำ หรือนอนตะแคงเป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง จะทำให้ผิวหน้าเกิดรอยได้ และยังจะส่งผลเสียต่อผิวหน้าอีกด้วย ดังนั้น พยายามบังคับท่านอนของตัวเองให้นอนหงายให้ได้มากที่สุด

ดูแลผิวสวยให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ได้อย่างไร ?

  1. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน

หลายคนไม่กล้าดื่มน้ำเยอะ เพราะกลัวตัวบวมน้ำ ไม่ต้องกังวลไปถ้าดื่มน้ำอย่างถูกวิธี ด้วยการค่อย ๆ จิบที่ละนิดไปตลอดทั้งวัน อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำเด็ดขาด และอย่าดื่มน้ำรวดเดียวทีละเยอะ ๆ เพราะจะทำให้ร่างกายเร่งขับน้ำออก เมื่อน้ำในร่างกายถูกขับออกหมด น้ำในร่างกายก็จะเหลือไม่พอที่จะให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ผลก็คือจะทำให้ผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื่นและความเต่งตึง

  1. นอนหลับให้เพียงพอ

เทรนด์อดนอนไม่ควรนำมาใช้เด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้สุขภาพแย่แล้ว ยังทำร้ายผิวอีกด้วย ซึ่งในขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่นั้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเพื่อทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ไม่เว้นแม้กระทั่งผิว ลองสังเกตดูก็ได้ว่าระหว่างคืนที่นอนเต็มอิ่มเปรียบเทียบกับคืนที่นอนไม่อิ่ม แบบไหนที่ทำให้ผิวหน้าของเราเด้งกว่ากัน

  1. เติมอาหารให้ผิวด้วยครีมบำรุง

ไม่จำกัดเฉพาะแค่ครีมเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้าแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น เช่น โลชั่น เซรั่ม หรืออิมัลชั่น (Emulsion) สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกผลิตภัณฑ์ก็คือ สภาพผิวหน้าของเรา เช่น ผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม เพื่อที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเรา รองลงมาก็คือ รู้ปัญหาผิว เช่น หมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื่น หรือมีริ้วรอย เป็นต้น

  1. มาสก์หน้าเป็นประจำ

ถึงแม้จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในทุก ๆ วันแล้ว ในบางครั้งก็ไม่พอที่จะดูแลผิวของเรา อย่างเช่น ในบางวันที่ต้องการความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าเป็นพิเศษ หรือในวันที่ต้องเผชิญกับแสงแดดหรือมลภาวะจนหน้าหมองคล้ำกว่าทุกวัน มาส์กหน้าจะช่วยจัดการดูแลเรื่องพวกนี้ให้ พร้อมบำรุงผิวไปด้วยในตัว

  1. แม้แต่อากาศก็ยังต้องการน้ำ เติมน้ำให้อากาศบ้าง

เคยมั้ยที่ผิวแห้งมาก ๆ ทั้งที่อยู่แต่ในบ้านหรือในห้องทั้งวัน นั่นเพราะอากาศที่อยู่รอบตัวเราดูดน้ำไปจากผิวหนังของเรานั่นเอง และยิ่งเฉพาะอยู่แต่ในห้องที่เปิดแต่เครื่องปรับอากาศทั้งวันแล้วด้วย ยิ่งแห้ง ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้อากาศดูดน้ำจากผิวของเราไปแห้งกร้านจนเหี่ยว ก็ให้เอาวางถ้วยใส่น้ำอุ่นชามใหญ่ตั้งไว้ใกล้ ๆ หรือถ้ามีงบหน่อยก็ซื้อเครื่องสร้างความชื้นไปเลยก็ได้ เพราะนอกจากจะทำให้ห้องชื้นไม่แห้งแล้ว ยังสร้างกลิ่นหอม ๆ ซึ่งช่วยให้เราผ่อนคลายได้อีกด้วย

  1. ทานอาหารให้ครบหมู่ และไม่อดอาหาร

สวยจากภายนอกแล้ว ก็ต้องสวยจากภายในคู่กันไปด้วย เพราะผิวก็ต้องการวิตามินและเกลือแร่เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย แถมยังช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและขับถ่ายดีด้วย ซึ่งก็จะส่งผลให้ผิวสวยตามมา นอกจากนี้ไม่ควรที่จะอดอาหาร เพราะจะส่งให้กล้ามเนื้อและผิวหนังไม่กระชับและผิวหย่อนคล้อยตามมาได้ รวมไปถึงอาจส่งผลให้เกิดภาวะการขาดวิตามินที่จำเป็นต่อผิว ซึ่งอาจทำให้เกิดสิ่งผิดปกติกับผิวหนังได้อย่าง ผื่นแดง ผิวตกสะเก็ด เป็นต้น

  1. ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังจะช่วยให้ขับเหงื่อออกมา พร้อมกันนั้นก็ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยจากการกระตุ้นต่อมผลิตไขมัน และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี ซึ่งจะส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดี และชะลออายุผิวได้อีกด้วย หากเราออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะทำให้ดูหน้าเด็ก ผิวใสจนใครเห็นก็ต้องอิจฉา

มาสก์หน้าที่เราใช้ ๆ กันนั้นมีกี่ประเภท ?

            มาสก์หน้าที่เราใช้ ๆ กันอยู่ มีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็ใช้งานต่างกัน รวมถึงแต่ละสภาพผิวด้วย

  1. มาสก์หน้าแผ่นแบบลอกออก

สภาพผิวที่เหมาะกับมาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก : ผิวแห้ง

มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก เป็นมาสก์ที่ถือว่าใช้ง่ายที่สุดแล้วก็ว่าได้ ทำจากวัสดุหลายแบบ ซึ่งมีทั้งแบบแผ่นผ้าบาง ๆ แผ่นเจล แผ่นพลาสติก วิธีใช้แค่กางแผ่นมาส์กออกมา แล้ววางบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีขึ้นอยู่กับแต่ละสูตร จากนั้นก็ลอกออก

  1. มาส์กหน้าแบบโคลน

สภาพผิวที่เหมาะกับมาส์กหน้าแบบโคลน : ผิวธรรมดา ผิวมัน

ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีผิวหน้าแห้ง เพราะโคลนจะดูดน้ำที่อยู่บนผิวหน้าของเราออกไปในปริมาณที่มาก อย่างไรก็ดี คนที่มีผิวธรรมดา หรือผิวมันก็ไม่ควรปล่อยทิ้งโคลนเอาไว้นานเกินจนแห้งแตกเพราะจะทำให้ผิวแห้ง แต่ข้อดีอย่างหนึ่งของมาสก์หน้าโคลนก็คือ เมื่อมันแห้ง โคลนจะดูดจับเอาความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และฝุ่นละอองที่ติดอยู่ตามรูขุมขนออกให้ ทำให้ผิวหน้าได้รับการทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก

  1. มาส์กหน้าครีม

สภาพผิวที่เหมาะสมกับมาสก์หน้าครีม : ผิวแห้ง ผิวธรรมดา

ด้วยความที่เป็นเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นและค่อนข้างเหนียว จึงไม่เหมาะกับคนที่มีผิวมัน คุณสมบัติที่ดีของมาส์กหน้าครีมก็คือ ช่วยให้สารบำรุงในเนื้อครีมเข้าซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้ดี ให้ความชุ่มชื่น และทำให้ผิวหน้านุ่ม ดูเต่งตึง นอกจากนี้มาส์กหน้าครีมยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

  • มาสก์หน้าครีมแบบพอกแล้วล้างออก – ใช้คล้าย ๆ กับมาสก์หน้าแผ่นแบบลอกออก คือ ทามาส์กหน้าครีมทิ้งไว้ แล้วล้างออก
  • มาสก์หน้าครีมแบบทิ้งไว้ได้ทั้งคืน (sleeping mask) – ใช้สะดวก คล้ายกับทาครีมบำรุง เพราะสามารถเข้านอนได้เลยโดยไม่ต้องล้างออก
  1. มาส์กหน้าแบบร้อน

สภาพผิวที่เหมาะสมกับมาส์กหน้าแบบร้อน : ผิวมัน

เวลาใช้ต้องใช้มือค่อย ๆ ถูนวดไปทั่วใบหน้าระหว่างที่ใช้มาสก์หน้า ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการกับสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดี และช่วยให้รูขุมขนเปิด ดังนั้นเมื่อรูขุมขนเปิด จึงทำให้ผิวหน้ารับเอาออกซิเจนเข้าสู่ผิวมากขึ้น และเวลามาสก์หน้าจะค่อย ๆ ร้อน ๆ ขึ้น

  1. มาส์กหน้าธรรมชาติ

สภาพผิวที่เหมาะกับมาส์กหน้าธรรมชาติ : ทุกสภาพผิว ขึ้นอยู่กับแต่ละสูตร

มาส์กหน้าธรรมชาติ ก็คือ มาสก์หน้าที่ผสมขึ้นจากส่วนประกอบจากธรรมชาติ เช่น แตงกวา น้ำผึ้ง โยเกิร์ต น้ำมันมะกอก เป็นต้น แต่จะใช้อะไรบ้างนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องการบำรุงในเรื่องอะไร ข้อดีของมาส์กหน้าธรรมชาติ ก็คือค่อนข้างปลอดภัยจากอาการแพ้ เพราะเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ แต่ข้อเสียก็คือ อาจจะไม่เห็นผลได้อย่างชัดเจนในครั้งแรก จะต้องหมั่นมาส์กหน้าเป็นประจำสักระยะหนึ่ง

  1. มาส์กหน้าน้ำมัน

สภาพผิวที่เหมาะกับมาส์กหน้าน้ำมัน : ผิวแห้ง

มาส์กหน้าน้ำมันมักจะพบได้ตามสปาต่าง ๆ ช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น เนียนนุ่ม และกระชับผิว พร้อมกับช่วยดูแลเรื่องปัญหาผิวได้อีกด้วย

  1. มาสก์หน้าเจล

สภาพผิวที่เหมาะกับมาส์กหน้าเจล : ผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวมัน และผิวแพ้ง่าย

มาส์กหน้าเจลมักใช้เพื่อรักษาอาการแพ้ หรือรักษาอาการผิวไหม้จากแดด เพราะเนื้อเจลจะบางกว่ามาส์กอื่น ๆ และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ทั้งยังให้ความรู้สึกเย็นสบายอีกด้วย

10 แบรนด์มาส์กหน้าที่ดีที่สุดในปี 2024

มาร์คหน้า Innisfree Bija Cica Mask

รีวิว มาร์คหน้าเกาหลี

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

แบรนด์สกินแคร์จากประเทศเกาหลีใต้ที่โด่งดังในเรื่องสกินแคร์จากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว สำหรับสูตรนี้เป็นสูตรที่เหมาะกับปัญหาสิว และผิวแพ้ง่าย ช่วยลดการอักเสบจากสิว และเข้มข้น ด้วยส่วนประกอบหลักจากใบบัวบก ทำให้เข้าบำรุงซึมสู่ผิวได้ดี และปกป้องผิว

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดใบหน้า ให้วางแผ่นมาส์กบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10-20 นาทีแล้วลอกออก

ราคา : 95 บาท

website: www.innisfree.com


มาร์คหน้า Sulwhasoo First Care Activating Mask

มาร์คหน้า

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

มาส์กหน้าเพื่อการปรับสมดุลให้กับผิวอย่างเร่งด่วน คืนความสดใส พร้อมช่วยปรับให้ผิวหน้ากระจ่าง ยืดหยุ่น และฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดใบหน้า ให้วางแผ่นมาส์กบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10-20 นาทีแล้วลอกออก

ราคา : 289 บาท

website: www.sulwhasoo.com


มาร์คหน้า Neutrogena : Fine Fairness Deep Whitening Mask

มาส์กหน้า ยี่ห้อไหนดี

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

มาส์กหน้าแผ่นเพื่อผิวหน้ากระจ่างใส ลดจุดด่างดำ คืนความชุ่มชื่น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ด้วยสารสกัดธรรมชาติจากถั่วเหลือง วิตามินบี 3 และวิตามินซี พร้อมไม่ทำให้อุดตันผิวจนเกิดสิว

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดใบหน้า ให้วางแผ่นมาส์กบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10-20 นาทีแล้วลอกออก

ราคา : 150 บาท

website: shopee.co.th


มาร์คหน้า ETUDE 0.2 Therapy Air Mask Lemon

มาร์คหน้าลดสิว

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

มาส์กหน้าแบบแผ่นที่จะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับผิว ด้วยแผ่นมาส์กที่หนาเพียง 0.2 มิลลิเมตร ทำให้เอสเซนส์ในแผ่นมาส์กซึมเข้าสู่ผิวได้โดยตรง และไม่ทำให้ผิวระคายเคือง แม้ผิวที่แพ้ง่าย พร้อมมีหลายสูตรให้เลือกใช้

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดใบหน้า ให้วางแผ่นมาส์กบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10-20 นาทีแล้วลอกออก จากนั้นให้ใช้นิ้วตบหน้าเบา ๆ เพื่อให้เอสเซนส์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น

ราคา : 40 บาท

website: www.etudehouse.com


มาร์คหน้า Garnier Pure Active Matcha Deep Clean Clay Mask

มาส์กหน้าขาว

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าโคลน

มาส์กหน้าโคลนสูตรสำหรับผิวมัน และมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย อุดมไปด้วยสารสกัดจากชาเขียว (Matcha) พร้อมช่วยทำความสะอาดผิวหน้า ล้างสิ่งสกปรก และช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า

วิธีใช้ : ทาให้ทั่วบริเวณหน้า ทิ้งไว้ 3 นาที ให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ราคา : 40 บาท

website: www.konvy.com


มาร์คหน้า SK-II Facial Treatment Mask

มาส์กหน้าเกาหลี

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

มาสก์หน้าแผ่นที่อุดมไปด้วยพิเทร่าสูตรเข้มข้น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายในขั้นตอนเดียว พร้อมปรับผิวให้ดูกระจ่างใส ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

วิธีใช้ : หลังจากทำความสะอาดผิวหน้า วางมาสก์บนใบหน้า กดมาสก์เบา ๆ ให้แนบกับผิว แล้วทิ้งไว้ 5-15 นาที

ราคา : 630 บาท

website: www.sk-ii.com


มาร์คหน้า KOSE Clear Turn White Mask Q10

มาร์คหน้าเกาหลี

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

แผ่นมาส์กบำรุงผิวหน้าสูตร Q10 พร้อมสารสกัดจากพืชธรรมชาติ 12 ชนิด และน้ำแร่ออนเซนจากญี่ปุ่น ช่วยลดเลือนริ้วรอยความเหี่ยวย่น เติมความชุ่มชื่นและบำรุงผิวให้เนียนนุ่มสุขภาพดี ปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงอ่อนโยนต่อผิวบอบบางและแพ้ง่าย

วิธีใช้ : ล้างหน้าให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง วางมาส์กบนใบหน้า แล้วกดมาส์กเบา ๆ ให้กระชับกับใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วลอกออก

ราคา : 280 บาท

website: www.lazada.co.th


มาร์คหน้า Hadalabo ANTI-AGING FACIAL SHEET MASK

มาร์คหน้ายี่ห้อไหนดี

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

มาส์กหน้าแผ่นที่จะช่วยจัดการเรื่องของริ้วรอย และร่องลึก ช่วยปรับผิวให้กระชับ และเนียนนุ่มขึ้น พร้อมให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิวหน้า วางมาส์กบนใบหน้า แล้วกดมาส์กเบา ๆ ให้กระชับกับใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วลอกออก

ราคา : 109 บาท

website: www.hadalabotokyo.com


มาร์คหน้า Nature Republic REAL NATURE TOMATO MASK SHEET

มาร์คหน้าใส

ประเภทมาส์ก – มาส์กหน้าแผ่นแบบลอกออก

แผ่นมาส์กสูตรมะเขือเทศ ที่จะช่วยให้ผิวดูสดใสและพร้อมให้ชุ่มชื้นกับผิว ด้วยคุณสมบัติของ Cellulose Mask Sheet 3 ชั้น ทำให้เอสเซนส์สามารถเข้าบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก

วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิวหน้า วางแผ่นมาส์กให้พอดีกับใบหน้า ทิ้งไว้ 10 – 20 นาที แล้วดึงแผ่นมาส์กออก จากนั้นให้ตบเบา ๆ เพื่อให้เอสเซนส์ซึมเข้าสู่ผิว

ราคา : 500 บาท / 10 แผ่น

website: www.naturerepublicusa.com


มาร์คหน้า Beru Bio-Cellulose Mask

มาร์คหน้า

Beru Bio-Cellulose Mask เป็นมาส์กนวัตกรรมใหม่ที่แตกต่างจากตัวอื่นในท้องตลาดทั่วไป โดยเฉพาะแผ่นมาส์กBio-Cellulose ที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติโดยใช้มะพร้าวทั้งลูก มีคุณสมบัติในทางการแพทย์คือสมานแผล ใช้ในการผ่าตัดราคาค่อนข้างสูง จึงไม่ค่อยมีใครนิยมเอามาใช้ในวงการความงาม แต่ด้วยความที่เราเห็นถึงลักษณะพิเศษนี้ จึงนำมาประยุกต์ใช้ในการทำแผ่นมาส์ก ให้คุณภาพโดดเด่นกว่ามาส์กที่อื่น และยังเพิ่มความพรีเมี่ยมโดยการผสมทองคำบริสุทธิ์และรังนกเข้าไปเป็นEssenceในการฟื้นฟูบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก โดยรังนกและทองคำมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวนิ่มอิ่มฟูดูแลอย่างล้ำลึก ลดการอักเสบและการระคายเคืองผิวในบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Beru Bio-Cellulose Mask
-ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม
-ช่วยดีท็อกซ์ผิว ขจัดสิ่งอุดตันบนใบหน้า
-ผิวกระชับ ยืดหยุ่น
-ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นดูอ่อนกว่าวัย

วิธีการใช้

ลอกแผ่นรองมาส์กออก1ด้าน
วางแผ่นมาส์กด้านใสขุ่นให้พอดีกับใบหน้า และดึงแผ่นรองมาส์กอีกด้านออก มาส์กทิ้งไว้40-60นาที หรือจนกว่ามาส์กจะแห้ง นำแผ่นมาส์กออกและนวดเบาๆ

ช่องทางการติดต่อ
Line: add friend
Instagram : Beruthailand
Tel : 084-234-6888
website: www.beruofficial.com

Yuukiji
Top Best Brand สุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด
Logo