10 น้ำหอมผู้หญิงที่ดีที่สุดในปี 2024

กลิ่นกายหอม ๆ ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยขับเสน่ห์ของผู้หญิง เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ผู้หญิงแทบทุกคนต้องมีไว้ครอบครองกันคนละขวดสองขวด แต่ก่อนที่จะไปเลือกน้ำหอมคู่กาย เราก็ควรจะทำการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำหอมที่เราควรจะรู้กันเสียก่อน เพื่อที่จะได้เลือกน้ำหอมกลิ่นที่ถูกใจได้จริง ๆ และเก็บรักษากลิ่นเดิมเอาไว้ได้นานตราบเท่าอายุการใช้งานโดยที่กลิ่นไม่เพี้ยนไปเสียก่อน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ำหอม

                น้ำหอมดี ๆ ขวดหนึ่ง นอกจากจะมีราคาค่างวดที่สูงแล้ว ยังค่อนข้างอ่อนไหวต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ซึ่งทำให้มีผลต่อกลิ่นและสี ยิ่งเรารู้เกี่ยวกับน้ำหอมน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้น้ำหอมด้อยคุณภาพลงได้ ดังนั้น เราจึงควรรู้เรื่องเกี่ยวกับน้ำหอมที่สำคัญ ๆ กันไว้หน่อยดีกว่า

  1. น้ำหอมแพ้แดดและความชื้น

เวลาที่เราซื้อน้ำหอมมา สิ่งแรกที่ห้ามทำเลยก็คือ การวางขวดน้ำหอมหรือเก็บน้ำหอมไว้ในที่ที่แดดส่องถึง และในที่ที่มีความชื้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ‘ห้องน้ำ’ เพราะแสงแดดและความชื้นจะทำให้ความหอมลดลง กลิ่นของน้ำหอมจะเพี้ยนได้ ให้วางขวดน้ำหอมไว้ในที่ที่มืดและเย็น ก็จะช่วยรักษาคุณภาพของน้ำหอมเอาไว้ได้นาน และกลิ่นไม่เพี้ยนไปจากตอนที่ซื้อมาครั้งแรก  

  1. เวลาฉีดน้ำหอม…อย่าถูข้อมือเด็ดขาด

เราอาจจะมักจะเห็นเวลาที่คนลองน้ำหอม หรือฉีดน้ำหอมทำกัน นั่นคือ หลังจากฉีดน้ำหอมตรงข้อมือแล้ว ก็จะถูข้อมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน แต่การทำแบบนั้นเป็นการลองน้ำหอมที่ผิดวิธี ! เพราะการที่เราเอาข้อมือมาถูกันหลังจากฉีดน้ำหอมลงไปแล้ว ทำให้ความหอมของน้ำหอมลดลง และติดไม่ทน

  1. อยากให้น้ำหอมติดนานขึ้น ให้ทาวาสลีนก่อนฉีดน้ำหอม

หลายคนอาจไม่ค่อยรู้ว่า การทาวาสลีนจะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดนานขึ้น แต่ไม่ต้องถึงขั้นกับว่าต้องทาวาสลีนทั่วทั้งตัวนะ ให้ทาวาสลีนบาง ๆ ตรงจุดชีพจรต่าง ๆ เช่น ซอกคอ ข้อพับ ข้อมือ เป็นต้น ก่อนจะฉีดน้ำหอมลงไป วาสลีนจะช่วยให้กลิ่นของน้ำหอมติดทนนานขึ้น

  1. น้ำหอมไม่ใช่ขวดยา เพราะฉะนั้นไม่ต้องเขย่า

บางคนอาจเผลอเขย่าขวดน้ำหอม แต่ขอเตือนไว้เลยว่า อย่าได้ทำเชียว เพราะการเขย่าน้ำหอม จะทำให้เกิดฟองอากาศ และฟองอากาศเหล่านี้ก็จะไปทำลายคุณภาพกลิ่นของน้ำหอมได้

  1. อยากผมหอม ใช้น้ำหอมไม่เหมาะ

หลายคนชอบฉีดน้ำหอมให้ผมหอม ๆ จริง ๆ ก็ไม่เชิงว่าใช้ไม่ได้ เพียงแต่น้ำหอมไม่เหมาะกับเส้นผมเท่านั้น เพราะในน้ำหอมมีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์อยู่ และถ้าหากแอลกอฮอล์นั้นโดนเส้นผมบ่อย ๆ อาจทำให้ผมแห้งเสียได้ ทางที่ดี ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความหอมสำหรับเส้นผมโดยเฉพาะดีกว่า

  1. ฉีดน้ำหอมลงเฉพาะตรงชีพจร

แทนที่จะฉีดทั่วทั้งตัว (เพราะกลัวไม่หอม หรือหอมไม่นาน) ให้ฉีดน้ำหอมเฉพาะจุดชีพจรดีกว่า เช่น ตรงซอกคอ ตรงข้อพับ ข้อมือ ซึ่งเป็นตำแหน่งของเส้นเลือดใหญ่ จุดชีพจรจะทำการกระจายความร้อน รวมทั้งกระจายความหอมจากผิว จึงทำให้กลิ่นหอมติดผิวได้นานขึ้น

  1. น้ำหอมขวดเดียวกัน แต่ต่างกลิ่น ขึ้นอยู่กับแต่ละคน

เคยไหมที่เราซื้อน้ำหอมตามเพื่อน เพราะได้กลิ่นจากเพื่อนแล้วรู้สึกว่าหอม แต่การไปซื้อยี่ห้อเดียวกัน กลิ่นเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้กลิ่นที่หอมเหมือนกันเป๊ะ เพราะน้ำหอมจะทำปฏิกิริยากับเคมีในร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน รวมทั้งสภาพสิ่งแวดล้อมของแต่ละคนก็ต่างกันด้วย หรือแม้แต่เหงื่อก็มีผล บางคนเหงื่อออกมา บางคนเหงื่อออกเยอะ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้กลิ่นของน้ำหอมแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน

  1. อยากรู้ว่าน้ำหอมจะติดทนนานแค่ไหน ให้ลองดูความเข้มข้นของน้ำมันหอม

น้ำหอม เกิดจากการนำเอาส่วนผสมและสารที่มีความเข้มข้นสูงมาผสมและเจือจางเข้าด้วยกัน เช่น น้ำมันหอมสกัดจากดอกไม้ แอลกอฮอล์ น้ำ เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำหอมเลยทีเดียว ดังนั้น การจะดูว่าน้ำหอมจะติดทนนานแค่ไหน จึงขึ้นอยู่กับว่าระดับความเข้มข้น หรือสัดส่วนของน้ำมันหอมสกัดว่ามีมากน้อยเท่าไหร่

  • สัดส่วนน้ำมันหอมสกัดประมาณ 15-18% กลิ่นจะติดทนนานได้ 4-5 ชั่วโมง (Eau de Parfum)
  • สัดส่วนน้ำมันหอมสกัดประมาณ 10% กลิ่นจะติดทนนานได้ 2-3 ชั่วโมง (Eau de Toilette)
  • สัดส่วนน้ำมันหอมสกัดประมาณ 2-5% กลิ่นติดทนนานได้ 1-2 ชั่วโมง (Eau de Cologne)

ดูแล้วอาจจะยากไปในการดูว่าน้ำหอมแต่ละขวดนั้นมีสัดส่วนชองน้ำมันหอมสกัดเท่าไหร่ แต่มีวิธีสังเกตอยู่ที่ง่ายมาก โดยให้ดูที่ฉลากของขวดน้ำหอมว่าถูกระบุไว้ด้วยคำไหน อย่างถ้าเป็น Parfum ก็แสดงว่ามีสัดส่วนของน้ำมันหอมสกัดสูงที่สุด จึงติดทนนานที่สุด รองลงมาก็คือ Toilette และ Cologne ตามลำดับ

  1. โทนกลิ่นของน้ำหอม

เพราะน้ำหอมนั่นเกิดจากการนำเอาน้ำมันหอมสกัดมาเจือจาง ซึ่งน้ำมันหอมสกัดสามารถสกัดออกมาจากวัตถุดิบต่าง ๆ ได้หลายหลาก ดังนั้น จึงเกิดโทนกลิ่นน้ำหอมที่แตกต่างกันออกไปด้วย

  • กลิ่นดอกไม้ (Floral)
  • กลิ่นผลไม้ (Fruity)
  • กลิ่นตระกูลส้ม (Citrus)
  • กลิ่นสดชื่นคล้ายทุ่งหญ้า (Green)
  • กลิ่นสมุนไพร (Herbaceous)
  • กลิ่นอายธรรมชาติ (Woody)
  • กลิ่นอำพัน (Amber)
  • กลิ่นคล้ายเครื่องเทศ (Oriental)
  • กลิ่นคล้ายกลิ่นกายของมนุษย์ (Animalic)
  • กลิ่นที่สกัดจากชะมด (Musk)

เคล็ดลับการเลือกน้ำหอมผู้หญิง

        ปกติเวลาที่เราจะไปลองน้ำหอม มักจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปมากมาย ความจริงแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย แต่ถ้าอยากได้น้ำหอมกลิ่นที่ถูกใจจริง ๆ แล้ว ลองดูเคล็ดลับต่อไปนี้ก็ไม่เสียหายนะ

  1. เคล็ดลับการเลือกน้ำหอมจากการ ‘ดมกลิ่น’

ก่อนไปเลือกน้ำหอม นอกจากจะมีโทนกลิ่นที่ต้องการไว้ในใจแล้ว ก็ควรที่จะต้องรู้ลำดับการดมน้ำหอมไว้ด้วย ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ขั้นตอน ดังนี้

  1. ดมกลิ่นน้ำหอมจากกระดาษ – เวลาที่เราไปทดลองน้ำหอมที่เคาน์เตอร์ จะมีกระดาษสำหรับดมน้ำหอมแผ่นยาว ๆ เล็ก ๆ ให้เราฉีดน้ำหอมบนกระดาษก่อนแล้วค่อยดมกลิ่น
  2. ดมกลิ่นจากน้ำหอมที่มีกลิ่นเบาที่สุดก่อน – ที่ต้องเริ่มจากกลิ่นที่เบาที่สุดก่อนนั้น ก็เพื่อไม่ให้กลิ่นแรงไปกลบกลิ่นที่เบากว่านั่นเอง
  3. ดมกลิ่นจากแขน – กรณีที่มีกลิ่นน้ำหอมที่ชอบใจอยู่มากกว่าหนึ่ง ให้เลือกมาเพียงแค่ 3 กลิ่นที่เราชอบมากที่สุด มาฉีดลงบนแขน แต่ให้ตำแหน่งต่างกัน เช่น ข้อมือ ท้องแขน หรือข้อพับ เพื่อเป็นการเช็กครั้งสุดท้ายว่ากลิ่นไหนที่เข้ากับร่างกายของเราที่สุด
  4. ฉีดน้ำหอมทิ้งไว้ที่ตัวสักพัก อย่าเพิ่งรีบซื้อเลยทันที

หลังจากที่เลือกกลิ่นที่ชอบและเหมาะกับเราได้แล้ว อย่าเพิ่งรีบซื้อทันที ให้ฉีดทิ้งไว้ที่ตัวของเราสักพักหนึ่ง ประมาณ 40 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพราะบางครั้งน้ำหอมพอผสมกับกลิ่นกายธรรมชาติของเราอาจไม่หอมอย่างที่คิดก็ได้

  1. งดกาแฟก่อนไปลองน้ำหอม

ถ้ากำลังจะไปลองน้ำหอม อย่าเพิ่งที่เข้าร้านกาแฟ หรือดื่มกาแฟ เพราะกลิ่นของกาแฟจะรบกวนการดมกลิ่นน้ำหอมของเรา ทำให้เรารับกลิ่นได้ไม่เต็มที่ และอาจทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราดมเพี้ยนไปได้อีกด้วย

10 น้ำหอมผู้หญิงที่ดีที่สุดในปี 2024

น้ำหอม Lancome : La Vie Est Belle

น้ำหอมผู้หญิง lancom

La Vie Est Belle by Lancome ขวดนี้ ให้กลิ่นหวานโรแมนติก พร้อมด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ เปรียบดังกลิ่นแห่งเสน่ห์ชวนให้น่าหลงใหล ทั้งยังหอมติดทนนาน แสดงถึงความมีชีวิตชีวา สวยงาม ราบรื่น

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Parfum

ราคา : 4,200 บาท (50 ml) และ 4,950 บาท (75 ml)  


น้ำหอม YVES SAINT LAURENT (YSL) : Black Opium

น้ำหอม

น้ำหอมผู้หญิงที่ชวนให้ลุ่มหลง ได้ลุคเป็นสาวดุดัน ปราดเปรียว ชวนให้รู้สึกน่าหลงใหล และสง่า น่าค้นหา ด้วยกลิ่นหอมแรกสัมผัสที่ได้จากเมล็ดกาแฟ ตามมาด้วยกลิ่นนุ่มนวลและเป็นผู้หญิงมากขึ้น ด้วยกลิ่นจากดอกมะนิลา และหัวน้ำหอมสกัดจากดอกส้ม พร้อมกลิ่นหอมหวาน ๆ ของวานิลลา และไม้หอมซีดาร์ กับพิมเสน

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Parfum

ราคา : 9,000 บาท (150 ml)


น้ำหอม Issey Miyake : L’Eau d’Issey

น้ำหอมผู้หญิงยอดฮิต

น้ำหอมที่สกัดจากหัวน้ำหอมจากดอกไม้บริสุทธิ์นานาชนิด ได้แก่ ดอกบัวซี ดอกซีคานฟรีเซีย ดอก คาร์เนชัน และดอกลิลลี่สีขาว ให้ความรู้สึกสดชื่น อบอุ่น และเรียบหรู

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Toilette

ราคา : 4,700 บาท (100 ml)


น้ำหอม Marc Jacobs : Daisy Eau So Fresh

น้ำหอมผู้หญิงติดทน

มอบกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่น่าสนใจสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ด้วยกลิ่นหอมผลไม้ติดจมูกที่สกัดได้จากลูกแพร์ ราสป์เบอร์รี่ และผล
เกรฟฟรุต ตามด้วยกลิ่นจากดอกมะลิ แอปเปิ้ล ดอกบ๊วย ดอกไวโอเล็ต และดอกกุหลาบ ซึ่งผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Toilette

ราคา : 4,700 บาท (100 ml)


น้ำหอม Christian Dior : J’adore

น้ําหอมติดทนนาน 24 ชม

น้ำหอมที่จะชวนให้ผู้หญิงรู้สึกเซ็กซี่ และหรูหรา ด้วยส่วนผสมน้ำหอมที่ได้จากกลิ่นของดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสกัดจากดอกกุหลาบ ดอกมะลิ และดอกกระดังงา นับเป็นอีกหนึ่งน้ำหอมที่ได้รับการยอมรับจากผู้หญิงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ตอนเปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 จนถึงปัจจุบัน

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Parfum

ราคา : 5,900 บาท (100 ml)


น้ำหอม Chloé : Absolu de Parfum

น้ํา หอม ผู้หญิง กลิ่น ไหน หอม สุด

น้ำหอมผู้หญิงที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นโทนกลิ่นดอกไม้ ด้วยการเพิ่มความเข้มข้นจากกลิ่นดอกกุหลาบมอญ (Damascena Rose) ซึ่งมีอยู่แล้วในสูตรเดิม ผสมกับกลิ่นกุหลาบเซนติโฟเลีย (Centifolia Rose) จากเมืองกราส (Grasse) เมืองแห่งน้ำหอมของฝรั่งเศส พร้อมด้วยกลิ่นวานิลลาอบอวล และสัมผัสจากกลิ่นพิมเสน (Patchouli) จึงเกิดเป็นน้ำหอมกลิ่นเฉพาะของ Chloe ที่ชวนให้น่าหลงใหลยิ่งขึ้น

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Parfum

ราคา : 3,500 บาท (75 ml)


น้ำหอม Jimmy Choo : Eau De Parfum

กลิ่นน้ําหอมผู้หญิงที่นิยมที่สุด

น้ำหอมที่มีกลิ่นที่แปลกใหม่สำหรับผู้หญิงแกร่งและทันสมัย ด้วยกลิ่นโทนผลไม้ ผสมด้วยกลิ่นหอมจากดอกไม้ อย่างกลิ่นหวานจากส้มอิตาลี กลิ่นดอกกุหลาบ กลิ่นกล้วยไม้ กลิ่นพิมเสนจากอินโดนีเซีย จึงเกิดเป็นกลิ่นหอมใหม่เฉพาะตัวไม่เหมือนใครในแบบฉบับของ Jimmy Choo

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Parfum

ราคา : 4,700 บาท (100 ml)


น้ำหอม Gucci : Premiere For Women

แนะนำ น้ำหอม ผู้หญิง

น้ำหอมที่จะทำให้ผู้หญิงได้สัมผัสถึงความหรูหรา มีสไตล์ ให้ความรู้สึกสดชื่นทันทีในกลิ่นโทนดอกไม้ผสมผลไม้ ด้วยกลิ่น Top Notes อย่างกลิ่นมะกรูดและดอกส้ม (Orange blossom) ตามมาด้วยกลิ่นกลางอย่างกลิ่นจากกลุ่มดอกไม้สีขาวและมัสค์ ปิดท้ายด้วยกลิ่นโน๊ตไม้และหนัง โดยรวมแล้วจึงให้กลิ่นที่ออกหวาน และนุ่ม

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Parfum

ราคา : 6,100 บาท (75 ml)


น้ำหอม Burberry For Women Eau de Parfum

น้ําหอมที่ดารานิยมใช้

Burberry For Women Eau de Parfum ในรูปทรงขวดกลมคลาสสิก ให้กลิ่นหอมของผลไม้ ด้วยกลิ่น Top note จากกลิ่นผลแบล็กเคอร์แรนท์ และแอปเปิ้ลสีเขียว ตามด้วยกลิ่นจากไม้ซีดาร์ ดอกมะลิ ตะไคร้ และไม้จันทร์หอม พร้อมด้วยกลิ่นมัสค์ และวานิลลาที่หอม และนุ่ม

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Parfum

ราคา : 3,995 บาท (100 ml)


น้ำหอม Versace : Bright Crystal

น้ําหอมผู้หญิง ที่นิยมมากที่สุด

Bright Crystal จาก Versace ขวดนี้ เป็นหนึ่งในน้ำหอมผู้หญิงที่มาพร้อมกับแพ็กเกจจิ้งที่สวย และหรูหรา ให้กลิ่นหอมของดอกไม้ สดชื่นในแบบคลาสสิก ด้วยการผสมกลิ่นขึ้นจากกลิ่นส้มยูซุ ดอกบัว มัสค์ ดอกแมกโนเลียและดอกโบตั๋น ซึ่งจะทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นที่หอม และรู้สึกดีได้ตลอดทั้งวัน

ระดับความเข้มข้นของกลิ่น : Toilette

ราคา : 4,200 บาท (90 ml)


ฉีดน้ำหอมอย่างไรให้ติดทน ?

บางครั้งต่อให้น้ำหอมที่ซื้อมามีความเข้มข้นของกลิ่น หรือความเข้มข้นของน้ำมันหอมสกัดสูงแค่ไหน แต่ถ้าฉีดไม่ถูกวิธี ก็จะทำให้กลิ่นติดไม่ทนอย่างที่ควรจะเป็น

  1. ทาโลชั่นไม่มีกลิ่นก่อนฉีด

เพราะการทาโลชั่นหรือมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีกลิ่นจะช่วยเก็บรักษากลิ่นน้ำหอมเอาไว้ได้นาน โดยให้ทาโลชั่นไว้ตามจุดชีพจรต่าง ๆ อย่างเช่น ซอกคอ ข้อพับ และข้อมือ จากนั้นก็ค่อยฉีดน้ำหอมทับลงไป อย่าลืมว่าจะต้องเป็นโลชั่นที่ไม่มีกลิ่นเท่านั้น ไม่อย่างนั้นกลิ่นของโลชั่นจะไปตีกับกลิ่นของน้ำหอม ทำให้กลิ่นเพี้ยนได้ หรือถ้าหาโลชั่นไม่มีกลิ่นไม่ได้ จะใช้วาสลีนแทนก็ได้

  1. อาบน้ำก่อนฉีดน้ำหอม

การอาบน้ำก่อนที่จะฉีดน้ำหอม จะเป็นการช่วยให้ผิวชุ่มชื่น และทำให้ผิวซึมซับเก็บกลิ่นน้ำหอมได้ดีกว่าผิวที่ขาดความชุ่มชื่น หรือไม่ได้อาบน้ำก่อน โดยฉีดลงบนผิวทันทีหลังอาบน้ำ และก่อนใส่เสื้อผ้า

  1. เลือกน้ำหอมให้เหมาะกับสภาพอากาศ

หลักการของการเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับสภาพอากาศก็คือ ‘ความร้อน’ อย่างที่เราก็คุ้นเคยดีว่าในบ้านเรานั้นอากาศค่อนข้างร้อนและอบอ้าว ซึ่งทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ และทำให้กลิ่นหอมที่ติดตัวเราจางหายไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น น้ำหอมที่เหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อน ก็ได้แก่ Eau de parfum (EDP) ซึ่งจะมีความเข้มข้นของน้ำมันหอมสกัดหรือหัวน้ำหอมประมาณ 10-20% จึงช่วยให้กลิ่นติดทานทนได้ถึง 4-5 ชั่วโมงโดยประมาณ

  1. ห้ามถูผิวตรงบริเวณที่ฉีดน้ำหอม่แล้วเด็ดขาด

สาวบางคนติดการถูผิวที่เพิ่งฉีดน้ำหอมลงไป โดยเฉพาะตรงข้อมือทั้งสองข้าง เพื่อหวังจะให้กลิ่นกระจายตัวมากยิ่งขึ้น แต่นั้นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะการถูผิวบริเวณที่ฉีดน้ำหอมลงไปแล้วนั้น จะเป็นการเร่งให้ความร้อนทำงาน และเร่งให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับน้ำหอม ส่งผลให้กลิ่นเพี้ยน และจางเร็วกว่าเดิม

Yuukiji
Top Best Brand สุดยอดแบรนด์ที่ดีที่สุด
Logo