10 ชุดชั้นในที่ใส่สบายที่สุดในปี 2024

ประเภทของบรา

1. บัลโคเน็ตบรา (Balconette bra)

บราแบบบัลโคเน็ตเป็นบราที่มักจะมีโครงเหล็ก เพื่อทำหน้าที่ในการยกกระชับหน้าอก สามารถรองรับหน้าอกได้เป็นอย่างดี

2. บราครึ่งเต้า (Demi bra)

ลักษณะจะเป็นบราแบบครึ่งเต้า เน้นโชว์เน้นอกด้านบน

3. ทีเชิร์ตบรา (T-Shirt bra)

ลักษณะของบราจะออกแบบมาให้ไม่มีตะเข็บ เรียบง่าย และสีสันไม่ฉูดฉาดสะดุดตามากนัก เพราะต้องการให้ใส่คู่กับเสื้อยืดที่มีเนื้อผ้าที่บางได้ ทีเชิร์ตบราจะทำให้เวลาใส่เสื้อยืดแล้วมั่นใจขึ้น เพราะไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมองเห็นบราข้างใน

4. บราสายไขว้ (Multiway bra)

ลักษณะเด่นของมัลติเวย์บรา คือจะมีสายบราไขว้เป็นรูปตัว X หรือ Y ด้านหลัง เหมาะที่จะจับคู่กับเสื้อกล้ามที่แขนด้านหลังเว้าลึกเข้าไปมาก ๆ เพราะถ้าเป็นสายบราปกติ จะทำให้เห็นสายบราโผล่ออกมา ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่

5. บราคว้านอกลึก (Plunge bra)

เป็นบราที่คว้านลึกตรงกลางลงไปกลางหน้าอก เพื่อเน้นโชว์ร่องอก ถ้าวันไหนต้องการความเซ็กซี่ด้วยเสื้อคอลึก ก็ควรจับคู่กับบราคว้านอกลึก เพราะจะช่วยให้มองเห็นร่องอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกระชับรูปทรงหน้าอกให้สวย

6. บราดันทรง (Push-up bra)

ลักษณะของบราแบบพุชอัพ จะมีลูกเล่นพิเศษเพื่อเสริมขนาดของหน้าอก เช่น มีช่องสำหรับฟองน้ำหรือซิลิโคน

7. บราไร้สาย หรือบราเกาะอก (Strapless bra)

เป็นบราแบบที่ไม่มีสาย สามารถเป็นได้ทั้งแบบมีตะขอให้ถอดหรือใส่สายเข้าไปได้ หรือไม่มีตะขอเลย ในบางครั้งเราจะเห็นในรูปแบบของบราปีกนกที่มีเพียงตัวบราด้านหน้าเท่านั้น ถึงจะดีที่ไม่มีสายให้รำคาญใจเวลาใส่คู่กับเสื้อเกาะอกหรือเปิดไหล่ แต่ก็มักจะทำให้ทรงของหน้าอกไม่ได้รูป และตัวบราก็มักจะเคลื่อนหลุดจากตำแหน่งบ่อย ๆ ด้วย

8. สปอร์ตบรา (Sport bra)

ออกแบบมาเพื่อลดการเคลื่อนไหวของหน้าอกขณะออกกำลังกาย ทำด้วยวัสดุที่สามารถระบายเหงื่อได้ดี เนื้อผ้ายืดหยุ่น

9. บราสามเหลี่ยม (Triangle bra)

ลักษณะของบราสามเหลี่ยม ตัวของบราจะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ไร้โครงเหล็ก และมักจะทำจากดีไซน์ผ้าลูกไม้

เลือกบราอย่างไรให้เหมาะกับหน้าอก

              ถึงบราจะมีหลายประเภทตามการใช้งาน แต่การจะเลือกบราก็ไม่ได้มีแค่เรื่องของการใช้งานอย่างเดียว ยังมีเรื่องที่ต้องดูอีกอย่างการเลือกให้เหมาะสมกับหน้าอกของเรา   

1. หน้าอกทรงมะนาว

ลักษณะของหน้าอกทรงมะนาว จะมีลักษณะฐานของหน้าอกกว้าง ความชันของเนื้อหน้าอกน้อย

เหมาะกับบราแบบไหน : ด้วยความที่ลักษณะหน้าอกมีฐานที่กว้าง ดังนั้นบราที่เหมาะจึงเป็น บราสามเหลี่ยม ที่มีตัวฐานบรากว้าง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้รองรับฐานหน้าอกที่กว้างได้ดี

2. หน้าอกทรงเชอร์รี่

สาวที่มีหน้าอกทรงเชอร์รี่ ขนาดของหน้าอกจะค่อนข้างเล็ก และแบน ฐานหน้าอกมีไม่มากนัก ความชัดของเนื้อหน้าอกเองก็น้อย

เหมาะกับบราแบบไหน : หน้าอกที่เล็กและฐานหน้าอกไม่ชัดเจน จำเป็นที่จะต้องใช้บราที่สามารถเพิ่มขนาดหรือดันเน้นทรง อย่าง บราดันทรง ที่มีการเสริมฟองน้ำหรือซิลิโคนไว้ใต้ฐานเพื่อดันทรงขึ้นมา นอกจากนี้เวลาสวม ให้พยายามโกยเนื้อด้านข้างเข้ามา เพื่อช่วยดันทรงให้ได้รูปมากยิ่งขึ้น

3. หน้าอกทรงแอปเปิ้ล

เวลามองจากด้านข้าง รูปหน้าอกแบบนี้จะมองคล้ายครึ่งวงกลม มีไขมันมากในชั้นหน้าอก ทำให้หน้าอกดูกลมกลึงสวย

เหมาะกับบราแบบไหน : หน้าอกทรงแอปเปิ้ลถือว่าเป็นหน้าอกในฝันของสาว ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหน้าอกที่ใหญ่และได้รูปที่สุด เพราะฉะนั้น มันจึงใส่กับบราได้ทุกแบบ แต่ต้องระวังบราดันทรงให้ดี เพราะบางครั้งมันอาจดันให้เนื้ออกล้นออกมา ไม่สวยได้

4. หน้าอกทรงสตรอเบอร์รี่

หน้าอกแบบนี้ ด้วยความที่มีไขมันหน้าอกที่ค่อนข้างน้อย จึงทำให้มีลักษณะคล้ายทางลาดที่เว้าเข้ามา

เหมาะกับบราแบบไหน : เพราะมีเนินอกที่น้อย จึงจำเป็นที่จะต้องใช้บราที่กระชับหน้าอก อย่างเช่น บราดันทรง และถ้าจะให้ดี แบบที่มีตะขออยู่หน้าก็จะยิ่งดี เพราะเวลาสวมใส่จะช่วยดันเนื้อหน้าอกจากด้านข้างเข้ามา

5. หน้าอกทรงลูกแพร์

ฐานของหน้าอกทรงลูกแพร์จะค่อนข้างกว้าง รูปทรงจะค่อนข้างหย่อนคล้อย ไม่มีเนินหน้าอก ทำให้เนื้อหน้าอกส่วนใหญ่ไหลไปกองตรงฐานด้านล่าง

เหมาะกับบราแบบไหน : ในเมื่อหน้าอกมีลักษณะที่หย่อนคล้อย และไม่มีเนินอก จึงควรเลือกบราที่ช่วยกระชับยกหน้าอกให้ได้รูป แบบบราดันทรง เพื่อดันและประคองให้หน้าอกสูงขึ้น

6. หน้าอกทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

ฟังดูไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ แต่ก็มีอยู่บ้างที่จะมีเคสนี้เกิดขึ้น นั่นคือ หน้าอกทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่ง ซึ่งถือเป็นปัญหาน่าปวดหัวที่สุดเลยก็ว่าได้

เหมาะกับบราแบบไหน : เมื่อมีขนาดของหน้าอกทั้งสองข้างไม่เท่ากัน จึงจำเป็นที่จะต้องจัดการข้างที่เล็กกว่าด้วย บราดันทรง ที่มีช่องสำหรับฟองน้ำแบบถอดได้ เพื่อที่จะได้สามารถใส่ฟองน้ำเพิ่มเข้าไปได้ ปรับขนาดข้างที่เล็กกว่าให้เท่ากับอีกข้าง

7. หน้าอกทรงระฆัง

ลักษณะของหน้าอกทรงระฆังจะมีฐานบนค่อนข้างแคบ และตรงปลายหน้าอกจะใหญ่ดูคล้ายระฆัง ดูอวบอิ่มกว่าฐานด้านบนที่แคบกว่ามาก

เหมาะกับบราแบบไหน : สำหรับสาวคนไหนที่มีหน้าอกทรงระฆัง นับได้ว่าเป็นสาวที่โชคอีกคน เพราะสามารถจัดทรงหน้าอกได้ไม่ยาก และเหมาะมากกับบราแบบ บัลโคเน็ต โดยให้ระวังเรื่องการปรับสายบราให้ดี เพราะทรงระฆังค่อนข้างมีน้ำหนัก อาจทำให้สายบราเคลื่อนได้ง่าย รวมทั้งให้ดูบราที่สามารถครอบหน้าอกเอาไว้ได้ทั้งหมด

10 ชุดชั้นในที่ใส่สบายที่สุดในปี 2024

ชุดชั้นใน Natori Feathers Contour-Plunge Bra

ประเภทบรา : บราคว้านอกลึก (Plunge bra)

เหมาะมากสำหรับใครที่กำลังมองหาบราที่จะช่วยเพิ่มขนาด ใส่สบาย และยังเหมาะไม่ว่าจะเป็นสาวอกเล็กหรืออกใหญ่ ตัวบราด้านบนทำด้วยวัสดุตาข่าย จึงทำให้ปกปิดเส้นขอบบราได้ดี ไม่โชว์ให้เห็นขอบออกมานอกเสื้อผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบาง ๆ

เว็บไซต์: www.natori.com

ชุดชั้นใน Calvin Klein Naked Glamour Strapless Push up Bra

ประเภทบรา : บราไร้สาย หรือบราเกาะอก (Strapless bra)

เป็นบรายังไงก็ต้องมีไว้ในครอบครองสักตัวหนึ่ง ด้านในของบราออกแบบให้สามารถยึดเกาะหน้าอกได้ดี ใส่สบาย ไม่ลื่นหลุดง่าย ทั้งยังมีฟองน้ำนุ่ม ๆ แผ่นบาง ๆ รองอยู่ด้านใต้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตะขอที่สามารถใส่สายกลับเข้าไปได้ด้วย

เว็บไซต์: calvinklein.com

ชุดชั้นใน Victoria’s Secret Dream Angels Push-Up Bra

ประเภทบรา : บราดันทรง (Push-up bra)

ขึ้นชื่อว่า วิคตอเรีย ซีเคร็ตแล้ว ถ้าเป็นเรื่องของชุดชั้นในล่ะก็ ย่อมไม่ทำให้สาว ๆ ผิดหวัง ด้วยบราดันทรง Dream Angels ที่มีฟองน้ำสำหรับดันทรงให้สวยได้รูป ซึ่งสามารถช่วยดันทรงให้ใหญ่ขึ้นได้มากถึงสองคัพ สามารถได้ทุกวัน เพราะตัวบราถูกออแบบมาให้ใส่สบาย ไม่ทำให้อึดอัด

เว็บไซต์:  www.victoriassecret.com

ชุดชั้นใน True & Co. True Body V-Neck Bra

ประเภทบรา : บราไร้สาย (Strapless bra)

ปกติบราไร้สายที่เรามักจะเห็นกันโดยทั่วไป จะมีลักษณะคล้ายเกาะอก แต่ True & Co. True Body V-Neck Bra เป็นบราไร้สายที่มีดีไซน์ที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ นั่นคือจะดูคล้ายกับเสื้อกล้ามครึ่งตัว หรือสปอร์ตบรา ช่วยเก็บเนื้อหน้าอกให้เข้ารูป โดยไม่ต้องห่วงว่าหน้าอกจะไม่ได้รูป เพราะมีโครงบราอยู่ด้านในคอยดันทรงอยู่

เว็บไซต์:  trueandco.com

ชุดชั้นใน Under Armour Eclipse Bra

ประเภทบรา : สปอร์ตบรา (Sport bra)

ในส่วนของสปอร์ตบรา ปี 2018 นี้ต้องยกให้ Under Armour Eclipse Bra ซึ่งเหมาะกับสาวสายสปอร์ตที่รักการออกกำลังกาย เพราะจะช่วยกระชับหน้าอกไม่ให้เคลื่อนไหวขณะออกกำลังกาย สวมใส่สบาย มีสายคล้องไหล่ที่สามารถปรับ และเนื้อผ้าระบายความร้อนและเหงื่อได้ดี

เว็บไซต์:  www.underarmour.co.th

ชุดชั้นใน Wacoal Red Carpet Strapless Bra

ประเภทบรา : บราไร้สาย (Strapless bra)

Wacoal Red Carpet Strapless Bra ตัวนี้เหมาะมากสำหรับสาวที่มีขนาดหน้าอกที่ค่อนข้างใหญ่คัพ D ขึ้นไป แถมตัวบราถูกออกแบบมาให้รับกับทรงอก ไม่กดเนื้อเนินอก ไม่เลื่อนหลุดง่าย และยังใส่สบายตลอดทั้งวัน

เว็บไซต์:  www.wacoal-america.com

ชุดชั้นใน Sabina Doomm Doomm

ประเภทบรา : บัลโคเน็ตบรา (Balconette bra)

สำหรับบรารุ่น New Doomm Doomm ของ Sabina ตัวนี้ ช่วยกระชับและดันทรงหน้าอกให้ได้รูปสวม มีโครงเหล็ก ฟองโมลด์ และมีฐาน ฟองน้ำดันทรงหนาพิเศษในตัว เนื้อผ้าผลิตจากไมโครไฟเบอร์ ทำให้สวมใส่สบาย สายแขนเส้นเล็ก มีตะขอหลัง

เว็บไซต์:  www.sabina.co.th

ชุดชั้นใน VERSACE Triangle Bra

ประเภทบรา : บราสามเหลี่ยม (Triangle bra)

บราสามเหลี่ยมจาก Versace มีสายรัดไหล่ปรับได้ พร้อมดีไซน์เรียบหรู มีโลโก้ที่พิมพ์ด้านหน้า ตะขอหลัง ผลิตจากผ้าฝ้าย 94% ไม่ผ่านการฟอกขาว สวมใส่สบาย

เว็บไซต์: www.versace.com

ชุดชั้นใน NuBra Feather Lite Bra

ประเภทบรา : บราไร้สาย หรือบราเกาะอก (Strapless bra)

หมดปัญหากับบราไร้สาย หรือบราเกาะอกที่มักจะเลื่อนหลุดง่าย เพราะ NuBra Feather Lite Bra มีกาวด้านในที่เหนียว สามารถยึดเกาะกับหน้าอกได้ดี ดันทรงหน้าอกให้สวยได้รูป สามารถใส่กับเสื้อเปิดหลังก็ดี เสื้อเกาะอกก็สวย

เว็บไซต์:  www.nubra.com

ชุดชั้นใน TRIUMPH รุ่น 10189553

ประเภทบรา : บัลโคเน็ตบรา (Balconette bra)

อวดอกสวยด้วยบราแบบบัลโคเน็ต ที่จะช่วยยกกระชับทรงหน้าอกให้สวยได้รูปเป็นธรรมชาติ แผ่นบังทรงเป็นไฟเบอร์ฟิลขนแกะแบบบาง ทำให้รู้สึกนุ่มเบาและระบายอากาศได้ดี โครงดันทรงด้านในเป็นผ้ากำมะหยี่ ลดการเสียดสี ช่วยเก็บกระชับเนื้อส่วนเกิน ให้เนียนเรียบ สายบ่ายืดหยุ่นได้ช่วยพยุงทรง

เว็บไซต์:  www.central.co.th

ดูแลรักษาบราอย่างไรให้ถูกวิธี ?

              บราไม่เหมือนกับเสื้อผ้าแบบอื่น ๆ เพราะผลิตจากวัสดุที่ต้องการการดูแลรักษาเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงเรื่องรูปทรงของตัวบราด้วย โดยเฉพาะบราที่มีโครงเหล็ก ถ้าดูแลรักษาไม่ดีแล้ว จะทำให้เนื้อผ้าบรา และโครงบราเสียหาย หรือผิดรูปได้

1. ซักมือเท่านั้น

สาวบางคนอาจจะคิดว่าเอาบราใส่ถุงซักผ้า แล้วเอาเข้าเครื่องซักผ้าก็ได้ แต่ความจริงแล้วเป็นวิธีที่ไม่ควรทำ เพราะถึงจะใส่ถุงซักผ้าแล้ว แต่ก็ยังทำให้โครงของบราเสียหายได้อยู่ดีหากซักด้วยเครื่องบ่อย ๆ  ทางที่ดีที่สุด คือการซักมือ ด้วยน้ำยาซักผ้าสูตรถนอมผ้า ทั้งนี้ก็เพราะบางครั้งผงซักฟอกจะทำให้เวลาที่เราใส่รู้สึกคัน แถมยังทำให้เนื้อผ้ากระด้างอีกด้วย

2. แยกซักบรา

แม้กางเกงชั้นในก็ไม่ควรนำมาซักร่วมกัน ให้แยกซักจะดีที่สุด รวมทั้งแยกซักบราสีเข้ม กับสีอ่อนออกจากกัน เพราะเสื้อผ้าต่าง ๆ รวมถึงกางเกงชั้นในอาจทำให้บราสีอ่อนสีหมองลง และทำให้ดูเก่าเร็วด้วย

3. ไม่ควรบิดบราก่อนตาก

เวลาที่เราซักบรา ไม่ควรบิดบราเพื่อสะเด็ดน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้บราเสียทรงได้ ให้ใช้วิธีเปิดน้ำให้ไหลผ่านบราแทน รวมถึงไม่ควรบีบบราด้วย จากนั้นก็ค่อยตาก ถึงวิธีนี้จะทำให้บราแห้งช้า แต่ก็เป็นวิธีที่ดีกับบราที่สุด ที่จะดูแลและรักษาบราให้ใช้ได้นาน และไม่เสียทรง

4. ตากบราในที่ลมดี

เนื่องจากการซักบราจะไม่ผ่านการบีบหรือบิดน้ำออก ทำให้บราแห้งยาก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตากบราในที่ ๆ แดดจัดเหมือนการตากผ้าทั่วไป เพราะอาจทำให้เนื้อผ้าเสียหายหรือเสื่อมเร็ว และมีสีอ่อนลงได้ แนะนำให้ตากบราในที่ ๆ มีลมโกรกได้ดี

5. เก็บบราด้วยการวางซ้อน ๆ กัน

การเก็บบราที่ถูกต้องไม่ควรเก็บโดยทำให้บราโดนกดทับ เพราะจะทำให้ทรงเสีย วิธีที่ถูกต้อง คือการวางบราซ้อน ๆ กัน แล้วรองด้วยผ้าขนหนูในลิ้นชักก่อนจะวางบราลงไป

6. เว้นระยะการใส่ ปล่อยให้บราพักบ้าง

เวลาที่เราใส่บรา แทนที่จะใส่ซ้ำติด ๆ กันบ่อย ๆ ให้เว้นช่วงหน่อย นั่นก็เพราะจากการใส่ต่อเนื่อง ควรปล่อยให้บราคืนทรงบ้าง อาจหมุนเวียนเอาตัวอื่นมาใส่สลับกันไปเป็นรอบอย่างนี้ก็ได้ ก็จะยืดอายุบราได้

ทุกวันนี้เราใส่บราอย่างถูกวิธีแล้วหรือยัง ?

              ถึงจะเป็นของที่ต้องใส่ทุกวัน แต่เชื่อเถอะว่ายังมีสาว ๆ ที่ใส่บรากันไม่ถูกวิธีอยู่ อาจฟังดูไม่สำคัญ แต่สำคัญทีเดียว เพราะการใส่บราที่ถูกต้องจะช่วยรักษาทรงของหน้าอกเอาไว้ได้ แถมเผลอ ๆ ยังช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกได้ด้วย

1. เริ่มต้นด้วยการคล้องสายบรากับแขนทั้งสองข้างจากด้านหน้า
2. จากนั้นให้เอื้อมมือไปติดตะขอด้านหลัง โดยเลือกตะขอที่พอดีที่สุด ไม่รัดเกินไปและไม่หลวมเกินไป จากนั้นลองขยับดูเล็กน้อยว่าสามารถขยับตัวได้สะดวกรึเปล่า
3. โน้มตัวไปด้านหน้า เพื่อให้หน้าอกถ่ายน้ำหนักไปข้างหน้า ทั้งนี้ก็เพราะให้หน้าอกอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
4. โกยเนื้อหน้าอกที่ย้อยออกไปนอกบราเข้ามา ซึ่งอยู่บริเวณใต้รักแร้ ขณะที่กำลังโกยเนื้อเข้ามาในบราให้ใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้โกยเนื้อเข้ามาขยับบราให้กระชับรับเนื้อที่โกยเข้ามา ทำซ้ำทั้งสองข้าง
5. ลองขยับตัว เพื่อตรวจดูว่าบรากระชับดี ไม่รัดและไม่หลวมเกินไป